วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 486

หลังจากที่เยี่ยชิวได้พักผ่อนมาทั้งคืน พอตื่นตอนเช้ามาก็เลยรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

แปดโมงเช้า

ถังเฟยเคาะประตูห้องเยี่ยชิว และนำเสื้อผ้ามาให้เขา

“วันนี้จะต้องไปบ้านตระกูลไป๋ ดังนั้นเลยต้องแต่งตัวเป็นทางการหน่อย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นายปรากฏตัวต่อหน้าคนใหญ่คนโตในปักกิ่ง” ถังเฟยยื่นชุดเสื้อคอจีนสีขาวให้กับเยี่ยชิว และบอกว่า “กลัวว่านายจะไม่ชอบใส่สูท ฉันเลยซื้อชุดคลุมยาวมาให้นายด้วย นายไปลองใส่ดูสิ ”

"ขอบใจ"

เยี่ยชิวหยิบเสื้อผ้า แล้วเข้าห้องเพื่อไปเปลี่ยนชุด เมื่อเขาออกมาอีกครั้ง ข้างนอกนั้นไม่ได้มีอยู่ถังเฟยเท่านั้น แต่หลงเยี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย

ทันใดนั้น ถังเฟยและหลงเยี่ยต่างก็ต้องตะลึงงัน

พอเห็นรูปร่างอันเพรียวบางของเยี่ยชิวใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาประดุจหยกเนื้อดี ดวงตาสดใสดุจดั่งดวงดาว จมูกทรงหยดน้ำ ยิ่งเขาใส่เสื้อคอจีนสีขาวด้วยแล้ว เผยให้เห็นถึงความสง่างามอย่างเหลือล้น ราวกับเทพบุตร

“พวกนายเป็นอะไร?”

เมื่อเห็นถังเฟยและหลงเยี่ยมองเขาอย่างว่างเปล่า เยี่ยชิวก็ถามด้วยความสงสัย

ถังเฟยกลับมามีสติ และอุทานว่า: "ไม่พูดก็ต้องพูด ‘ไก่งามเพราะคน คนงามเพราะแต่ง’ ประโยคนี่คงจะจริงสินะ พอนายใส่ชุดนี้แล้ว จู่ๆฉันก็นึกถึงกวีบทหนึ่งขึ้นมา "งดงามดั่งหยกเนื้อดี หล่อเหลาหาผู้ใดเปรียบมิได้”

สายตาของหลงเยี่ยสื่อถึงความอิจฉาสุดๆ และถามว่า "เยี่ยชิว หน้านายใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอะไรด้วยสินะ?”

เยี่ยชิวส่ายหัว "ฉันไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวเลยต่างหาก"

“แล้วทำไมผิวนายถึงได้ดีขนาดนี้?

"เกิดมาก็เป็นอย่างนี้เลย"

น่าหมั่นไส้ โดนเขาเล่นตัวใส่อีกละ

หลงเยี่ยกัดฟัน และอยากจะชกหน้าเยี่ยชิว ไอ้บ้าเอ้ย ไม่เล่นตัวแล้วจะตายมั้ย!

“ไปทานอาหารเช้ากันเถอะ” ถังเฟยกล่าว

เยี่ยชิวถามว่า: "ฉันจะต้องไปทักทายเทพแห่งสงครามรึเปล่า?"

“ไม่ต้องไปหรอก ไปก็เท่านั้น”

"ทำไม?"

ถังเฟยกล่าวว่า: "เทพแห่งสงครามนอนไม่ค่อยหลับ ตอนเวลากลางคืนเขาเป็นคนนอนหลับยาก และเขามักจะนอนไม่หลับแบบนี้ทั้งคืน และพอถึงตอนเช้าเขาถึงจะได้นอนสักกี่ชั่วโมงเท่านั้น"

“แค่นี้อ่ะนะ” เยี่ยชิวบ่น “ทำไมนายไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้ล่ะ ถ้ารู้ให้เร็วกว่านี้ล่ะก็เมื่อคืนนี้ฉันจะได้ไปฝังเข็มให้เทพแห่งสงครามสักหน่อย แบบนั้นเขาก็คงจะนอนหลับได้”

“เมื่อคืนไม่ได้มีเรื่องให้จัดการเยอะไม่ใช่รึไง? เลยลืมไปน่ะ รอนายจัดการธุระในมือให้เสร็จก่อน ก็ไม่สายเกินไปที่จะไปฝังเข็มให้เทพแห่งสงครามหรอก ไปกัน ไปกินข้าวเช้ากันเถอะ”

หลังจากที่ถังเฟยพูดจบ เขาก็พาเยี่ยชิวและหลงเยี่ยตรงไปที่โรงอาหาร

วังซาตานเป็นหน่วยรบพิเศษที่ลึกลับที่สุดของกองทัพ ฐานทัพแห่งนี้สร้างขึ้นใต้ดินลึก 200 เมตร และสามารถทนต่อแผ่นดินไหวขนาด 10 ริกเตอร์ได้ หรือแม้แต่การโจมตีจากระเบิดนิวเคลียร์

แม้ว่าจะเป็นชั้นใต้ดิน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่นี่ก็ครบครัน นอกจากสถานที่ฝึกซ้อมประจำวัน เช่น ห้องต่อสู้ และห้องยิงปืนแล้ว ยังมียิม สระว่ายน้ำ ห้องเล่นเกม... เยี่ยชิวยังเห็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่ฐานทัพอีกด้วย

กล่าวโดยสรุป สถานที่แห่งนี้สามารถตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันของสมาชิกได้อย่างครบถ้วน

เมื่อประกอบกับการออกแบบถนนสีเขียวและระบบระบายอากาศที่ดีเยี่ยม ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าการอยู่ที่นี่กับการอยู่บนพื้นดินก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่

ถังเฟยแนะนำเยี่ยชิว: "ที่ที่เราอยู่ตอนนี้คือเขตพื้นที่ชีวิตประจำวัน มีโรงอาหาร หอพัก และสถานที่สำหรับออกกำลังกายและพักผ่อนต่างก็อยู่กันตรงนี้ นี่เป็นพื้นที่ที่เล็กที่สุดในหกเขตพื้นที่ในวังซาตานของเรา"

อะไรนะ ที่อยู่ตรงหน้านี้ อย่างน้อยก็สักหนึ่งพันตารางเมตรได้แล้วนะ นี่เรียกว่ายังเล็กที่สุดอีกเหรอ?

เยี่ยชิวตกตะลึง

ถังเฟยกล่าวว่า “อีกห้าเขตพื้นที่ ได้แก่ คลังอาวุธ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ สนามฝึกนักรบ สนามบินใต้ดิน และสำนักงานใหญ่”

“แม้ว่าวังซาตานะถูกสร้างขึ้นใต้ดิน แต่มันก็ใหญ่มาก ในเวลาสั้นๆนี้ฉันไม่สามารถแนะนำให้นายรู้จักได้ทั้งหมดหรอก รอนายว่างเมื่อไหร่ ฉันจะพานายไปดูพื้นที่อื่นๆละกัน”

ถังเฟยยิ้มและพูดว่า "ตอนนี้เรามากินข้าวเช้ากันก่อนเถอะ กินเสร็จแล้วจะได้ไปบ้านตระกูลไป๋"

ทั้งสามคนมาถึงที่โรงอาหาร

เมื่อเข้ามา สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนก็มองมาทางเยี่ยชิว

“หุบปาก!” ถังเฟยพูดขัดจังหวะเยี่ยชิว และพูดว่า “ถ้าไม่อยากตาย ก็อย่ามาล้อเล่นแบบนี้อีก หากนายทำให้เตียวชานขุ่นเคืองขึ้นมาล่ะก็ ทั้งนายทั้งฉันจบไม่สวยแน่”

“จำไว้ อย่าคิดอะไรแผลงๆกับเตียวชาน อย่าหาเรื่องใส่ตัว”

“นี่คือคำแนะนำของฉันในฐานะเพื่อน”

ถังเฟยเตือนอีกครั้ง

เยี่ยชิวอดรู้สึกสงสัยไม่ได้ว่า สรุปแล้วคือเตียวชานคือใครกันแน่ ทำไมถังเฟยถึงดูจริงจังมากเมื่อเขาพูดถึงเธอ?

“นายก็คิดมากไปแล้ว เตียวชานช่วยฉันเมื่อตอนที่ฉันไปทำภารกิจก่อนหน้านี้ ฉันแค่อยากจะขอบคุณเธอ” เยี่ยชิวอธิบาย

จากนั้นสีหน้าของถังเฟยก็อ่อนลง และเขาก็พูดว่า "เตียวชานไม่ได้อยู่ที่ฐานทัพ เธอไปทำงานต่างที่ รอเจอเธอเมื่อไหร่ นายก็ค่อยขอบคุณเธอทีหลังเถอะ!"

“แล้วก็ มีบางอย่างที่ฉันอยากจะถามนายมาตลอด” เยี่ยชิวกล่าวว่า: “ก่อนที่ฉันจะไป ต้าตงเพื่อทำภารกิจ นายบอกฉันว่า ไป๋ยวี่จิงอาสาและต้องการทำภารกิจนี้ หรือว่าเขาก็เป็นคนจากวังซาตานของเรางั้นเหรอ?”

"ใช่" ถังเฟยพยักหน้าและกล่าวว่า "มีหลายทีมหลักในวังซาตาน และไป๋ยวี่จิงเป็นกัปตันของทีมหนึ่ง"

“เขายศอะไร?”

“พันโท ตำแหน่งต่ำกว่าของนาย”

เยี่ยชิวกล่าวว่า: “นายพูดก่อนหน้านี้ว่า ไป๋ยวี่จิงไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ แล้วถ้าแบบนั้นเขาจะเป็นกัปตันทีมหนึ่งได้ยังไง? นอกจากนี้ ทำไมเทพแห่งสงครามถึงปล่อยให้ไป๋ยวี่จิงเข้าร่วมวังซาตานอีก?”

ถังเฟยกล่าวว่า: "เทพแห่งสงครามทุ่มเทเพื่อรับใช้ประเทศ ตราบใดที่เขาคิดว่าผู้คนเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เขาก็จะรับพวกเขาเข้ามาในวังซาตาน"

“นายพลไป๋ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวถึงเรื่องที่ไป๋ยวี่จิงเข้าร่วมวังซาตานกับเทพแห่งสงคราม ดังนั้นเทพแห่งสงครามจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ”

“แม้ว่า ไป๋ยวี่จิงจะไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ แต่เขามีความสามารถค่อนข้างมาก หลังจากเข้าร่วมวังซาตาน เขาได้ทำภารกิจหลายอย่างและไม่เคยล้มเหลวเลย”

เยี่ยชิวพยักหน้าเล็กน้อย แสดงถึงว่าเขาเข้าใจ

สิบโมง

เยี่ยชิว ถังเฟยและหลงเยี่ย ได้ออกจากฐานทัพวังซาตาน และขับรถไปที่บ้านตระกูลไป๋

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ