วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 487

ฐานของวังซาตานอยู่ห่างจากตระกูลไป๋โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ครึ่งชั่วโมง

หลังจากขับมาแล้วสิบห้านาทีรถก็หยุดลงมา

เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นถนนข้างทางข้างหน้าจอดรถออดี้A8สีดำไว้สองคัน ติดตราทหารไว้หมด

บริเวณออดี้สองคันนั้น มีชายหนุ่มหลายคนที่ตัวสูงและหล่อเหลายืนอยู่ด้วยสายตาที่แหลมคมคอยสแกนรอบๆนั้น

ยาม!

เยี่ยชิวมองสถานะชายหนุ่มพวกนั้นออกเลยทันที

“รถสองคันข้างหน้าเป็นรถของปู่ของฉันและชายชราว่าน ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังรอเธออยู่” หลังจากถังเฟยพูดจบเขาก็ผลักประตูรถออก

เยี่ยชิวก็ลงรถไปตาม

ทันทีที่เขาและถังเฟยเดินไปถึงข้างออดี้A8คันหนึ่ง รถประตูกเปิดเเล้ว พวกเขาเห็นแต่ชายชราว่านและชายชราถังนั่งเคียงข้างกันในแถวหลัง

“สวัสดีครับจ่าทั้งสอง” เยี่ยชิวทักทายอย่างมีมารยาท

“เสี่ยวเยี่ย มาที่นี่” ชายชราว่านยิ้มและกวักมือเรียก

เยี่ยชิวเดินไปด้านข้างประตูรถ

“เสี่ยวเยี่ย เรื่องซีเป่ยถังเฟยบอกกับข้าแล้ว ดีแล้วที่มีนายอยู่ มิฉะนั้นหลานชายของข้ากลับมาไม่ได้แล้ว” ชายชราถังพูด

“ชายชราถังกล่าวเกินไปแล้ว ผมกับถังเฟยเป็นพี่น้องกัน ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วเมื่อมีความยากลำบากเราควรช่วยกัน” เยี่ยชิวพูดอย่างถ่อมตัว

ชายชราถังพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาค่อยๆขรึมและพูดว่า“เสี่ยวเยี่ย วันนี้นายต้องระวังความปลอดภัย”

“นอกจากนี้ ฉันแนะนําว่าถ้านายถึงตระกูลไป๋แล้ว พาไป๋ปิงไปก็ได้แล้ว อย่าไปหาเรื่อง”

“อย่างไรก็ตาม ตระกูลไป๋และตระกูลเผยต่างก็เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ขุ่นเคืองเขามากเกินไป จะไม่เป็นประโยชน์ต่อนาย”

เยี่ยชิวยังไม่ทันได้พูด ชายชราว่านก็กล่าวว่า “เหล่าถังเธอกําลังพูดเรื่องไร้สาระ ตระกูลไป๋และตระกูลเผยจะปล่อยให้เยี่ยชิวพาไป๋ปิงออกไปได้ง่ายๆยังไง”

“ความวุ่นวายในวันนี้สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

“เสี่ยวเยี่ยฟังคําแนะนําของฉัน ถ้านายทําอะไรไม่ได้ ให้ช่วยชีวิตตนเองไว้ก่อน

นายยังหนุ่มอยู่ ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวที่ไม่มีฟืนเผา”

ชายชราว่านหมายถึง ดีที่สุดที่เยี่ยชิวพาไป๋ปิงออกไปได้ ถ้าเขาไม่สามารถพาไปได้ ก็อย่าทำให้ตนเองเสียชีวิต

ยังเยี่ยชิวยังหนุ่มอยู่ ในอนาคตยังมีอีกหลายโอกาส

“ขอบคุณท่านจ่าทั้งสองครับ ผมจำไว้แล้ว” เยี่ยชิวกล่าวอย่างซาบซึ้ง

“ฉันและเหล่าถังก็จะไปร่วมงานแต่งงานของตระกูลไป๋ งั้นค่อยมาเจอกันทีหลัง”ชายชราว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เยี่ยชิวโบกมือและหลังจากที่รถของชายชราทั้งสองออกไปครู่หนึ่งเขาและถังเฟยถึงกลับไปบนรถ

สิบนาทีผ่านไป

เมื่อรถยังอยู่ห่างจากวิลล่าของตระกูลไป๋อีกหกร้อยเมตร รถก็หยุดอีกครั้ง

ถังเฟยรับโทรศัพท์แล้วพูดให้เยี่ยชิวว่า“ไป๋ยวี่จิงได้จัดบอดี้การ์ดมากกว่าหนึ่งร้อยคนไว้ใกล้วิลล่า พวกเขาทั้งหมดมีปืนกันทุกคนและพวกเขาได้รับคําสั่งทุกคน เมื่อเธอปรากฏตัวเธอจะถูกฆ่าตายโดยตรง”

“ถ้าอย่างนั้น เรามาจัดการบอดี้การ์ดเหล่านี้ก่อน” แสงเย็นวูบวาบในดวงตาของเยี่ยชิวและเขาก็ผลักประตูรถออก

“ฉันและหลงเย่ช่วยเธอ” ถังเฟยและหลงเย่ก็ลงจากรถตามกัน

“ระวังตัวด้วย” เยี่ยชิวเตือนทั้งสองคนแล้วออกไปจัดการบอดี้การ์ดที่ไป๋ยวี่จิงจัดไว้ก่อน

ทันทีที่เขาจากไปถังเฟยและหลงเย่ก็เริ่มลงมือ

ยี่สิบนาทีผ่านไป

เยี่ยชิวทั้งสามคนปรากฏตัวที่ประตูบ้านไป๋

บอดี้การ์ดกว่า 100 คนของไป๋ยวี่จิงที่จัดไว้ใกล้วิลล่าทั้งหมดถูกทุบหมดสติ

เยี่ยชิวเหลือบมองกลอนความสุขและโคมไฟสีแดงที่บนประตูของตระกูลไป๋ยิ้มอย่างเย็นชาและก้าวไปข้างหน้าเพื่อเข้าไปเมื่อมีเสียงมาจากด้านหลังเขา“ไอ้เด็กเปรตรอข้าด้วย”

เยี่ยชิวหันไปเห็นอมตชางเหม่ยเข้ามา

“คุณมาที่นี่ทําไม” เยี่ยชิวถาม

อมตะชางเหม่ยพูดด้วยหน้าอย่างชอบธรรม“ฉันจะไม่มาได้อย่างไรถ้านายตกอยู่ในความอันตราย”แม้ว่าฉันจะสู้ตายในวันนี้ข้าก็จะปกป้องนาย”

พูดตามควมจริง ตอนนี้เยี่ยชิวได้ยินสิ่งนี้เขารู้สึกสะเทือนใจมาก

ต่อมาอมตะชางเหม่ยพูดกระซิบ“เมื่อคืนฉันใช้สายฟ้าทั้งห้าฆ่าเฉาเทียนติ่งถูกทำร้ายย้อนกลับอย่างหนัก ภายในครึ่งเดือนใช้แรงภายในไม่ได้ ดังนั้นไอ้เด็กเปรต อย่าไปหาเรื่อง ไม่อย่างนั้นข้าปกป้องนายไม่อยู่!”

งั้นคุณยังมาทำอะไร!

ไป๋ยวี่จิงยืนอยู่ตรงหน้าเยี่ยชิวด้วยรอยยิ้มจางๆ บนหน้าของเขาและหลังจากพูดเขาก็เริ่มมองไปสังเกตเยี่ยชิว

เขาไม่เข้าใจทั้งๆที่มีหนึ่งหัวสองแขนเหมือนทําไมผู้ชายคนนี้ถึงตายยาก?

“ฉันคือเยี่ยชิว นายคือไป๋ยวี่จิง?” ระหว่างที่เยี่ยชิวกำลังพูดเขาก็สังเกตไป๋ยวี่จิงไปด้วยและพูดอย่างลับๆว่าไอ้เจ้านี่หน้าตาดีจริงๆ เทียบเท่ากับไอดอลดังในตอนนี้ได้เลย

“ใช่แล้ว ฉันคือไป๋ยวี่จิง”ไป๋ยวี่จิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เยี่ยชิวพูดด้วยรอยยิ้ม“ฉันเคยได้ยินมาก่อนว่าคุณชายไป๋หน้าตาดี ได้เจอในวันนี้แล้ว สมคำรํ่าลือเลยจริงๆ หน้าตาอย่างกับผู้หญิง”

ทันใดนั้น เสียงคึกคักในงานเงียบลงจนเสียงเข็มตกก็ได้ยินได้อย่างชัดเจนทันที

ใครๆก็ฟังออกว่าเยี่ยชิวประชดประชันว่าไป๋ยวี่จิงเหมือนผู้หญิง

ไป๋ยวี่จิงก็ไม่โกรธถือรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าของเขาที่ทําให้ผู้คนรู้สึกเหมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิและถามว่า“เยี่ยชิว นายมาที่นี่เพื่อให้ของขวัญหรือมาหาเรื่อง?”

“มีความแตกต่างเหรอ”เยี่ยชิวถามกลับ

“แน่นอนว่ามีความแตกต่างสิ ถ้านายมาที่นี่เพื่อมอบของขวัญฉันยินดีต้อนรับอยู่แล้วถ้านายมาที่นี่เพื่อหาเรื่อง...…”ไป๋ยวี่หยุดชั่วคราวเมื่อเขาพูดแบบนี้รอยยิ้มของเขาเย็นชาแล้วกล่าวว่า “ถ้าใครกล้าหาเรื่องที่นี่ในวันนี้ฉันไม่สนใจว่าเขาเป็นใครหรือมีอำนาจยังไง ฉันจะไม่ปล่อยให้ไปแบบมีชิวิต”

ทันใดนั้นบรรยากาศในงานเเต่งก็เริ่มตึงเครียด

บนใบหน้าเยี่ยชิวดูไม่หวาดกลัวและพูดด้วยรอยยิ้ม“นี่คือใต้พระบุตรแห่งสวรรค์ฉักล้าหาเรื่องยังไง ฉันมามอบของขวัญ”

ถ้าหากเป็นของขวัญ แล้วของขวัญของนายล่ะ? นายช่วยเอาออกมาให้ฉันเห็นได้ไหม เห็นได้ชัดว่าไป๋ยวี่จิงไม่เชื่คำาพูดไร้สาระของเยี่ยชิว

“ไม่มีปัญหา แต่ก่อนที่ฉันจะเอาของขวัญออกมาฉันอยากจะอธิบายคุณอย่างเคร่งขรึมเพราะของขวัญชิ้นนี้ถูกคัดสรรมาอย่างดีโดยฉัน”

เยี่ยชิวพูดเสียงดัง“ของสิ่งนี้เป็นกล่องเชิงมุมสีแดงและพราวเย็นน่ากลัว ถูกจัดเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพกาลอันดับหนึ่ง”

มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพกาลอันดับหนึ่ง?

คืออะไร?

ทันใดที่ทุกคนสงสัยอยู่พวกเขาก็เห็นเยี่ยชิวหยิบก้อนอิฐออกจากขอบข้อมือของเขาและกระแทกลงบนหัวของไป๋ยวี่จิงอย่างกระทันหัน

“ปั้ง!”

เลือดสาดกระเด็น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ