"ทำลายเมืองต้องห้ามของเรา?"
หลงชีได้ยินคำนี้ก็รู้สึกตกใจและจากนั้นก็หัวเราะเสียงดังราวกับได้ยินเรื่องที่น่าขำที่สุดบนโลกใบนี้
เวลาผ่านไปเสียงหัวเราะก็หยุดลง
"ช่างกล้ามาก! ฉันอยู่มาอายุปูนนี้แล้วเพิ่งจะเคยได้ยินคำพูดที่อวดดีขนาดนี้เป็นครั้งแรก"
"เทพแห่งสงคราม ไม่ใช่ว่าผมดูถูกคุณ แต่ต่อให้คุณไม่ใช่คนพิการคุณก็ไม่สามารถทำลายเมืองต้องห้ามของเราได้"
"หากเมืองต้องห้ามของเราทำลายลงได้ง่ายดายขนาดนั้นมันจะมีอายุยาวนานมาเป็นร้อยปีอย่างนั้นเหรอ?"
"เทพแห่งสงคราม แม้แต่คำพูดไร้เดียงสาขนาดนี้คุณยังกล้าพูดออกมาได้ ผมว่าคุณคงแก่เลอะเลือนมากแล้วล่ะ"
บรรดาแขกในงานต่างก็รู้สึกว่าคำพูดของเทพแห่งสงครามนั้นฟังดูอวดดีเกินไปและเกินจริง
"เมืองต้องห้ามมีขนาดใหญ่และทรงพลังขนาดนั้น แม้แต่ผู้มีอำนาจต่างๆ ในอดีตยังไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ เทพแห่งสงครามจะทำลายลงได้ยังไง?"
"แม้ว่าเทพแห่งสงครามจะเป็นเสาหลักสำคัญของกองทัพ แต่จะว่าไปแล้วก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น"
"จริงด้วย คำพูดของเทพแห่งสงครามบ้าบิ่นเกินไปจริงๆ แม้แต่ผู้มีอำนาจในอดีตยังไม่มีใครกล้าคิดอะไรแบบนี้มาก่อนเลย"
"อย่าลืมสิว่านอกจากหลงชีและหลงปาแล้ว เมืองต้องห้ามยังมียอดฝีมือระดับสูงอีกหกคนอยู่ที่นั่นด้วยนะ"
"แม้ว่าเทพแห่งสงครามจะเรียกให้คนของวังซาตานทั้งหมดมาก็ไม่สามารถสู้กับหลงชีได้อย่างแน่นอน"
ผู้อาวุโสเผยจ้องมองเทพแห่งสงครามอยู่นาน
เขารู้จักเทพแห่งสงครามดี เทพแห่งสงครามไม่เคยทำอะไรโดยประมาทและในเมื่อเขากล้าพูดอะไรเช่นนี้ออกมาแสดงว่าเขาต้องเตรียมการเป็นอย่างดีแล้วแน่ๆ
และเป็นอย่างที่คิดไว้
จากนั้นก็เห็นเทพแห่งสงครามหัวเราะพร้อมกับกล่าวออกมา "หลงชี คุณคงลืมไปแล้วว่าผมเป็นใคร"
"คุณเป็นผู้บัญชาการของวังซาตานไม่ใช่เหรอ?" หลงชีกล่าวอย่างไม่แยแส "ในสายตาของคนธรรมดาทั่วไปแล้ว คุณเป็นผู้นำระดับสูงในกองทัพ แต่ในสายตาของผมแล้วคุณเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง"
"พูดไม่น่าฟังก็คือ ผมอยากบีบคุณให้ตายเหมือนมดก็เป็นเพียงเรื่องง่ายดายอย่างมาก"
"คุณเชื่อไหมว่าต่อให้ผมว่าคุณที่นี่ แม้แต่ผู้นำสูงสุดก็ทำอะไรผมไม่ได้"
เทพแห่งสงครามกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว "ใช่ที่ผมเป็นเพียงคนพิการคนหนึ่งที่คุณฆ่าผมได้อย่างง่ายดาย"
"แต่คุณเองก็พูดเองว่าผมเป็นผู้บัญชาการแห่งวังซาตาน"
"ในฐานะที่เป็นผู้บัญชาการ ในเมื่อผมกล้ามาที่นี่ก็แสดงว่าผมได้เตรียมพร้อมไว้อย่างดีแล้ว"
หลงชีหรี่ตาลง "คุณหมายความว่ายังไง?"
เทพแห่งสงครามกล่าว "ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ผมได้สั่งการออกไปว่าให้หันระเบิดนิวเคลียร์มาที่เมืองต้องห้าม หากคุณคิดจะฆ่าใครสักคนขึ้นมา เมืองต้องห้ามก็จะราบเป็นหน้ากลองทันที"
หลงชีรู้สึกสั่นสะท้านในใจและคิดไม่ถึงว่าเทพแห่งสงครามจะร้ายกาจมากขนาดนี้ ทว่าสีหน้าของเขากลับไม่แสดงออกแต่อย่างใด
"เทพแห่งสงคราม พี่ชายของผมล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูง เกรงว่าคนของคุณยังไม่ทันจะยิงระเบิดนิวเคลียร์ออกมาก็อาจตายกันไปหมดแล้วก็ได้"
"อีกอย่าง เมืองหลวงก็เป็นเมืองของผู้นำและเมืองต้องห้ามก็อยู่จุดศูนย์กลางของเมืองหลวง หากคุณคิดจะยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้ามาที่เมืองต้องห้ามจะต้องมีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ผลที่ตามมานี้คุณรับผิดชอบไหวเหรอ?"
"คุณไม่กลัวจะกลายเป็นคนผิดอย่างนั้นเหรอ?"
หลงชีกล่าวเสียงดัง
เทพแห่งสงครามหัวเราะและกล่าวออกไป "ต่อให้พวกคุณเก่งมากแค่ไหนก็ไม่สามารถรับมือกับการโจมตีของระเบิดนิวเคลียร์ได้แน่นอน"
"อีกอย่าง ผมไม่มีลูกหรือทายาทสืบสกุล ผมตัวคนเดียวจะไปกลัวอะไรกับการเป็นคนผิด"
"เมืองต้องห้ามของพวกคุณทำตัวอวดดีเป็นอันธพาลมาหลายปีที่ผ่านมา พวกคุณทำอะไรตามอำเภอใจมาโดยตลอด หากผมสามารถกำจัดพวกคุณได้ก็ถือว่าเป็นการขจัดปัญหาให้กับประชาชนทุกคน"
"หลงชี หากคุณยังคิดจะฆ่าคน งั้นเราก็มาลองดูกันและทุกคนก็จะตายไปพร้อมกัน"
เทพแห่งสงครามแสดงสีหน้าเกรี้ยวกราดและก็พูดต่ออีกว่า "ผมไม่เพียงสั่งคนเล็งระเบิดนิวเคลียร์มาที่เมืองต้องห้ามเท่านั้น แต่สถานที่แห่งนี้ก็ถูกกำหนดเป็นเป้าหมายของระเบิดนิวเคลียร์ด้วย ถ้าคุณไม่เชื่อก็เงยหน้าดู"
หลงชีเงยหน้าขึ้นทันที
"ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องร้ายๆ ขึ้นหรอก ท่านชี ยอมถอยเถอะนะ!"
"ท่านชี ชีวิตของเราอยู่ในมือของคุณแล้ว ได้โปรดยอมสักครั้งเถอะนะ!"
หลงชีทำหน้าเยือกเย็น
จะว่าไปแล้ว เขาไม่ได้สนใจไยดีชีวิตของแขกในงานเหล่านี้เลยสักนิดเดียว สิ่งที่เขาให้ความสำคัญคือเมืองต้องห้าม
เพราะพี่ชายของเขาต่างกำลังบำเพ็ญเพียร หากเกิดระเบิดนิวเคลียร์ขึ้น เช่นนั้นเมืองต้องห้ามจะต้องราบเป็นหน้ากลองอย่างแน่นอน
ทำยังไงดี?
หลงชียังคงลังเลใจ
หลงปากระซิบข้างๆ "พี่ชี ดูเหมือนว่าเทพแห่งสงครามจะสู้กับเราหลังชนฝา หากเรายังคงคิดจะฆ่าเยี่ยชิวและเยี่ยหวู่ตี้ละก็ เขาคงเล่นกับเราอย่างถึงที่สุดอย่างแน่นอน"
"เทพแห่งสงครามไม่มีทายาทสืบสกุลและยังตัวคนเดียว ฉะนั้นเขาทำเรื่องบ้าบิ่นได้ทุกอย่างแน่นอน"
"หรือว่าวันนี้เราจะปล่อยเขาไปก่อนดี!"
"เพียงแค่หนึ่งปีหรืออาจไม่ถึง รอให้พี่ชายทั้งหมดเสร็จจากการบำเพ็ญเพียร และถึงตอนนั้นเราค่อยมาคิดบัญชีกับพวกเขาทั้งหมด"
"ถึงตอนนั้น วรยุทธ์ของพี่ใหญ่จะต้องบรรลุไปถึงขั้นสำคัญที่ไม่มีใครหยุดยั้งพวกเราได้อย่างแน่นอน"
"หากชายชราถังยังคิดจะหยุดยั้งเราละก็ งั้นเราก็กำจัดเขาไปด้วยเลย"
"อีกอย่าง หากทุกคนต้องตายละก็ บรรดาแขกฝนงานเหล่านี้ก็ต้องตายลงไปด้วย เช่นนั้นตระกูลของพวกเขาอาจโทษเราก็ได้ ถึงตอนนั้นเมืองต้องห้ามของเราอาจต้องเผชิญกับปัญหารอบด้านไม่รู้จบอย่างแน่นอน"
หลงชีกล่าว "ทำไมฉันจะไม่รู้ในสิ่งที่นายพูดออกมา เพียงแต่หากวันนี้ไม่ฆ่าพวกเขาก็คงต้องรอให้พี่ใหญ่ออกจากบำเพ็ญเพียรเสร็จแล้วค่อยจัดการพวกเขา กว่าที่พี่ใหญ่จะออกจากบำเพ็ญเพียรก็อีกครึ่งปีหรือหนึ่งปี เมื่อนึกว่าพวกเขายังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปนานขนาดนั้นฉันก็รู้สึกไม่มีความสุข"
"พี่ชี หากไม่อดทนเรื่องเล็กน้อย ก็จะทำให้เสียการใหญ่ได้"
หลงชีเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้พร้อมกับกล่าวอย่างเคร่งขรึม "เทพแห่งสงคราม พาพวกเขาไสหัวไปซะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...