ฉินซูกล่าวเสริม “โชคดีที่ตอนนั้นเราบุกเข้าไปทันเวลา ไม่งั้นต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ ๆ ผู้ชายคนนี้วางแผนที่จะทำอะไรไม่ดีกับหยูหร่าน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยักหน้า แน่นอนว่าพวกเขาเชื่อในสิ่งที่หยูหร่านกับฉินซูพูด
แต่มันมีอีกหนึ่งปัญหา
“คุณสุภาพสตรีหยูหร่านไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย และไม่มีหลักฐานที่เพียงพอ มันจึงยากมากที่จะตัดสินคดีเขา เราทำได้มากสุดคือการควบคุมตัวเขาไว้สิบถึงสิบห้าวัน”
หยูหร่านได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธแค้นจนยากที่จะควบคุมให้สงบ
ฉินซูดึงมือของเธอเพื่อแสดงการปลอบโยน
เธอรู้ว่าไม่มีวิธีอื่นใดแล้ว
“หวังว่าจะสามารถพยายามขังเขาไว้ให้นานหน่อยนะคะ”
“แน่นอนครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าว
แต่เมื่อชายอ้วนได้ยินว่าตนเองจะถูกขังไว้ที่นี่ครึ่งเดือน เขาก็กระโดดขึ้นมาทันที
“ฉันไม่ยอม ฉันขอยื่นประกันตัว!”
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อยากที่จะสนใจเขา ถึงอย่างไรเขาก็เอาแต่โวยวายไม่หยุด จึงต้องให้เขาใช้โทรศัพท์
ฉินซูที่ดำเนินการต่าง ๆ เป็นเพื่อนหยูหร่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเดินออกมาจากสถานีตำรวจ
หวังอี้หลินที่ได้รับสายโทรศัพท์มาถึงพอดี
ในใจเธอกำลังตะโกนด่าเซียวหย่งคนโง่ที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นก็ปะทะเข้ากับฉินซู สามคนก็ปะทะหน้าเข้ากันพอดี จนแทบจะตกใจ
เมื่อเห็นฉินซูกับหยูหร่านยืนอยู่ด้วยกัน หวังอี้หลินก็เข้าใจทันที ความล้มเหลวของเซียวหย่งไม่พ้นจากการเกี่ยวข้องของฉินซูอย่างแน่นอน
ฉินซูประหลาดใจที่เห็นหวังอี้หลินมาปรากฏตัวที่ประตูสถานีตำรวจอย่างรีบร้อน จากนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาอย่างว่องไวและเฉียบแหลม
ฉินซูขวางทางของเธอและถาม “เธอมาประกันตัวเซียวหย่งเหรอ?”
“ฉันมาทำอะไรที่นี่แล้วทำไมต้องบอกเธอ?”
“เธอไม่ต้องบอกฉันก็ได้ แต่วันนี้เกือบจะเกิดเรื่องกับหยูหร่าน เธอมีสิทธิ์จะรู้”
หยูหร่านตกตะลึงจนคล้ายว่าเธอไม่ได้ตอบสนองกลับมา
ฉินซูก็ไม่ได้พูดอะไรมาก “พวกเราก็ควรกลับไปได้แล้ว คุณเองก็เดินทางระวังด้วยนะคะ”
“คุณฉิน วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะที่ยื่นมือมาช่วยฉัน! ใช่แล้ว ฉันสามารถขอช่องทางติดต่อคุณไว้ได้ไหมคะ? วันหลังฉันอยากที่จะขอบคุณพวกคุณ” หยูหร่านกล่าวอย่างจริงใจ
“ไม่มีปัญหาค่ะ งั้นเป็นวีแชทแล้วกันนะคะ” ฉินซูหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วเปิดคิวอาร์โค้ด
หลังจากเพิ่มเพื่อนกันเสร็จเรียบร้อย ต่างคนก็ต่างบอกลากัน
จางอี้เฟยที่อยู่ข้างกายของฉินซูถามด้วยความอยากรู้ “คุณคิดว่าเรื่องนั้น เกี่ยวข้องกับหวังอี้หลินไหม?”
“ฉันไม่รู้” ฉินซูไม่มีหลักฐานและไม่กล้าที่จะตัดสินชี้ขาดตามอำเภอใจ “มันเป็นเพียงความรู้สึกหนึ่งที่ว่า หวังอี้หลินคนนี้เป็นคนใจคอคับแคบ หากทำเรื่องที่ไม่มีขอบเขตบ้าง ก็ไม่รู้สึกว่าแปลกอะไร”
เธอนึกถึงตนเองที่เคยถูกหวังอี้หลินวางแผนใช้วิธีแบบนี้มาก่อน ภายในใจของเธอก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาทันที
จางอี้เฟยเห็นด้วยกับวิธีพูดของฉินซู เขาถอนหายใจ “ไม่เข้าใจจริง ๆ เลย ทำไมคุณชายฉู่จะแต่งงานกับเธอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...