หลิวเหวยลู่เองก็มองฉินซูด้วยความรวดเร็วเช่นกัน เธอควบคุมความตกใจเอาไว้ นั่งยอง ๆ ลงข้างซ่งจิ่นหรงและเรียกเธอ "คุณแม่?"
“อย่าเพิ่งไปจับเข็มพวกนั้นนะคะ รออีกสักพักคุณท่านถึงจะตื่น” ฉินซูพูดเตือนขึ้น
เป็นไปตามคาดหลิวเหวยลู่และฉู่หยุนซีไม่กล้าแตะต้องเข็มเหล่านั้น พวกเธอได้แต่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างประหม่า พลางสังเกตอาการของซ่งจิ่นหรง
หวังอี้หลินได้แต่ตกตะลึงอยู่ตรงนั้น
นี่มันเป็นไปได้ยังไง? คิดไม่ถึงว่าฉินซูจะช่วยชีวิตของคุณย่าตระกูลฉู่เอาไว้จริง ๆ เหรอ?
แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง แต่ทำไมฉินซูถึงทำได้? เพียงแค่ใช้เข็มสองสามเล่มนั้นเองน่ะเหรอ?!
เธอคิดถึงตอนที่เรียนอยู่ในมหาลัย ทุกครั้งที่สอบคะแนนของฉินซูก็จะนำห่างเธอมาตลอด ถ้าหากเข้าร่วมโครงการวิจัยอะไร ฉินซูก็จะได้รับคำชมจากอาจารย์มากที่สุดเสมอ!
ฉินซู! ฉินซู! ฉันจะเทียบเธอไม่ติดจริง ๆ เหรอ?!
หวังอี้หลินกัดฟันอย่างอิจฉาริษยา
ไม่นานคุณหมอก็มาถึง
ฉินซูจึงนำเข็มออกไป
คุณหมอตรวจร่างกายของซ่งจิ่นหรง และยืนยันว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เธอตื่นขึ้นอย่างสบาย ๆ
ฉู่หลินเฉินประคองเธอนั่ง เขาถามขึ้น "ทำไมจู่ ๆ คุณย่าถึงเป็นลมละครับ?"
“คุณท่านความดันในเลือดสูงนะครับ เลือดลมไม่สมดุลกันถึงได้มีเลือดออกกะทันหัน”
คุณหมอกล่าวและถามขึ้นอีกว่า "ก่อนที่คุณท่านจะป่วยท่านกินยาอะไรเข้าไปครับ?"
“กินยาเหรอ?" หลิวเหวยลู่ครุ่นคิด "ปกติคุณแม่ต้องกินอาหารเสริมบำรุงร่างกาย แต่วันนี้ยังไม่ถึงเวลา จึงยังไม่ได้กินค่ะ"
อี้หลินหน้าซีด อย่าบอกนะว่าปัญหาก็คือชานี้?
คุณหมอถอนหายใจและกล่าวว่า "ปกติคุณท่านก็ทานอาหารที่มีโภชนาการดีอยู่แล้ว ไม่ต้องการอาหารเสริมเพิ่มเติมหรอกครับ ถ้าเป็นคนที่ร่างกายอ่อนแอดื่มก็มีประโยชน์เป็นธรรมดา แต่ว่าสำหรับคุณท่านแล้ว ถ้าดื่มเข้าไปความสมดุลในร่างกานจะถูกทำลาย และอาจจะอันตรายถึงแก่ชีวิตได้!"
หลังจากได้ยินดังนี้ ฉู่หยุนซีโพล่งออกมาด้วยความตกใจ "เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? หวังอี้หลินเรียนหมอมานะคะ เธอไม่ทำผิดพลาดแบบนี้แน่!"
เมื่อคุณหมอได้ยินดังนั้น เขาก็มองไปที่หวังอี้หลินอย่างครุ่นคิด “เพราะเธอรู้เรื่องการแพทย์นี่เอง เพียงแต่ว่าชานี้ไม่ควรให้ผู้สูงอายุนะครับ อย่างไรก็ดีเธอก็ยังช่วยคุณท่านไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นท่านคงรอจนผมมาไม่ไหว"
"คนที่ช่วยคือคุณนายฉู่ครับ" หลินเฟิงพูดขึ้น หวังอี้หลินหน้าแดงด้วยความละอาย
คุณหมอประหลาดใจ เขาหันไปทางฉินซู
ฉินซูเพียงยิ้มบาง ๆ พลางพูดว่า "คุณหมอคะ อาการของคุณย่ายังไม่ดีเท่าไร และก่อนหน้านี้ท่านก็เป็นโรคลมชักมาก่อนด้วย พาท่านส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจให้ละเอียดจะดีกว่าไหมคะ?"
แม้ว่าซ่งจิ่นหรงจะตื่นขึ้นแล้ว แต่ใบหน้าของเธอก็ยังคงซีดอยู่ เธอไม่มีแม้แต่แรงจะพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วุ่นรักวิวาห์ลวง
เมื่อไรคะรอนานคะ...
รอๆๆๆอ่านต่อ...
ติดตามอ่านมาตลอด จะกรุณาอัพโหลดบทให้จบเรื่องได้มั้ยคะ...