ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 509

หนานหว่านเยียนมองดูเสิ่นอี่ว์ด้วยความสับสน “เจ้าหมายความว่า หยุนอี่ว์โหรวไม่เคยช่วยกู้โม่หานมาก่อนหรือ?”

นางรู้ว่าเจ้าของร่างเดิมเคยช่วยชีวิตกู้โม่หานครั้งหนึ่ง นี่จึงไม่ได้แปลกอะไร แต่มองดูสีหน้าการแสดงออกของเสิ่นอี่ว์ ดูเหมือนเพิ่งจะรู้ว่าเจ้าของร่างเดิมเคยช่วยกู้โม่หานไว้เช่นนั้น......

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นอี่ว์ขมวดคิ้วและกระแอมสองครั้งก่อนจะพูดต่อว่า “ท่านอ๋องเคยบอกข้าน้อยว่า ตอนนั้นเขาอายุยังน้อย อีกทั้งเป็นเพราะการไม่รู้จักเก็บซ่อนความสามารถ หลังจากที่หยีเฟยเหนียงเหนียงเกิดเรื่อง ในวังก็มีคนไม่น้อยที่บีบคั้นเขา มีคืนวันหนึ่ง เขาเดินไปที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ก้าวพลาดตกลงไปในน้ำ”

“ในคืนวันนั้นแสงไฟสลัว ในน้ำยื่นมือออกไปก็ยิ่งมองไม่เห็นนิ้วทั้งห้า เขารู้สึกเพียงแค่อึดอัดหายใจไม่ออก ถึงกระทั่งแทบจะละทิ้งความปรารถนาที่จะมีชีวิตต่อ”

“จนมีเด็กหญิงตัวเล็กที่เห็นหน้าตาได้ไม่ชัดเจนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้น ฉวยคอเสื้อของเขาแล้วว่ายน้ำขึ้นไปด้านบน ช่วยเขาไว้ชีวิตหนึ่ง ร่างกายของเด็กผู้หญิงคนนั้นผอมแห้งอ่อนแอ เหมือนว่าเขาจะพูดกับเด็กผู้หญิงคนนั้นด้วยความสะลึมสะลือประโยคหนึ่งว่า “รอจนข้าโตแล้ว ข้าจะตอบแทนบุญคุณ ข้าจะแต่งงานกับเจ้า” ตอนนั้นเขาจับมือนางไว้ไม่ยอมปล่อย แต่ไม่ช้าก็หมดสติไป สลบไปไม่รู้ตัว.......”

สีหน้าท่าทางของหนานหว่านเยียนเปลี่ยนจากสงสัยจนกลายเป็นตะลึงงัน แล้วก็ไปถึงความเหลือเชื่อ

สถานการณ์นี้.......ตรงกับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมหรือไม่นางไม่รู้ แต่กับความทรงจำของนาง กลับตรงกันแล้ว!

ก่อนหน้านี้นางเคยช่วยชีวิตชายหนุ่มผู้หนึ่งไว้ ชายหนุ่มผู้นั้นก็พูดประโยคนี้ “รอข้าโตแล้ว ข้าจะตอบแทน ข้าจะแต่งงานกับเจ้า” ความเหมือนที่ทำให้คนตกตะลึงนี้ได้ทำให้นางเกิดความกลัวเล็กน้อย

แต่นางจำได้อย่างชัดเจนว่านั่นคือยุคปัจจุบัน แม้ว่าตอนนั้นริมฝั่งแม่น้ำจะมืดมิดไร้แสงไฟ นางไม่ได้ดูหน้าของเด็กผู้ชายคนนั้นให้ชัดเจน แต่ แต่จะเกี่ยวข้องกับกู้โม่หานได้ยังไง?

อีกอย่าง ไม่ใช่ว่าเจ้าของร่างเดิมช่วยกู้โม่หานหรอกหรือ.......

เสิ่นอี่ว์มองดูสีหน้าอันสับสนของหนานหว่านเยียน ก็ยังคิดว่านางไม่ยอมเชื่อ จึงฝืนพูดต่ออีกว่า

“พระชายา คนผู้นั้นก็คือท่าน นี่ไม่ผิดแน่ ไม่กี่เดือนมานี้ข้าน้อยล้วนกำลังสืบหาหลักฐานความจริงของเรื่องนี้ สืบไปถึงสถานที่นั้นที่ท่านอ๋องตกน้ำ ละแวกนั้นมีคนมากมายเห็นสาวน้อยผู้หนึ่งที่ช่วยคนแล้วก็วิ่งหนีไปกับตา”

“มีคนที่ตามเข้าไปดูด้วยความแปลกใจ บอกว่าสาวน้อยคนนั้น เดินกลับไปทางจวนเฉิงเซี่ยง นอกจากท่าน ก็ไม่มีคนอื่นแล้ว......แต่หลายปีมานี้ข้าน้อยเชื่อคำร่ำลือ เข้าใจผิดท่านมาโดยตลอด รู้สึกว่าท่านเป็นคนไม่ดี.......”

“ที่สำคัญที่สุดคือ ปีนั้นมีพระชายารองหยุนจงใจขัดขวาง ทำให้ท่านอ๋องเชื่อในกลอุบายของนาง เชื่อว่านางเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตเขา วันนั้นที่ข้าน้อยได้รู้ว่าความจริงก็โมโหเป็นอย่างมาก โกรธแค้น จึงไปถามเอาความกับนาง แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ที่แท้พ่อบ้านกาวก็สมรู้ร่วมคิดกับนางมานานแล้ว.......”

ความเป็นจริงทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏออกมา หนานหว่านเยียนแทบจะหยุดหายใจแล้ว มือที่จับอยู่ข้างเตียงค่อยๆซีดขาว ในสมองวุ่นวายสับสนเหมือนด้ายที่พันกัน

ดังนั้น คนที่มีบุญคุณช่วยชีวิตของกู้โม่หานมีเพียงแค่คนเดียว และไม่ได้เหมือนที่นางคิดไว้ว่า เจ้าของร่างเดิมและหยุนอี่ว์โหรวต่างก็เคยช่วยเขามาก่อน

กระทั่ง กระทั่งสามารถพูดได้ว่า พวกนางทั้งสองล้วนไม่เคยได้ช่วยกู้โม่หานมาก่อน คนที่ช่วยกู้โม่หาน เป็นตัวนางเองมาโดยตลอด

หนานหว่านเยียนตกตะลึง งงงัน ยากที่จะเชื่อได้

หรือว่า หรือว่า ตอนที่นางเป็นเด็กก็ข้ามเวลามาแล้ว เพื่อช่วยกู้โม่หาน......

หากว่าเป็นเช่นนี้จริง งั้นที่ตงเสวี่ยพูดมาก่อนหน้านี้ คนผู้นั้นที่มีคืนแรกกับกู้โม่หาน วาจาพฤติกรรมล้วนเป็นคนยุคปัจจุบันมาก ก็ไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม และก็ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นตัวนางเอง?

ตอนนั้นนางก็พูดแล้วว่า ที่เสิ่นอี่ว์เกิดเรื่องอาจจะเกี่ยวข้องกับหยุนอี่ว์โหรว กระทั่งเรื่องที่ฐานะของเจ้าตัวน้อยทั้งสองถูกเปิดเผย จะต้องเกี่ยวข้องกับหยุนอี่ว์โหรวเป็นแน่ แต่กู้โม่หานก็ยังต้องการให้นางช่วยคนอีก

ตอนนี้แม้ว่าเสิ่นอี่ว์จะบอกความจริงแล้วจะอย่างไร นอกจากจะมีหลักฐานที่แน่ชัด หยุนอี่ว์โหรวยอมรับผิดเอง หรือว่าพ่อบ้านกาวไปเป็นพยานชี้ตัวหยุนอี่ว์โหรว ไม่เช่นนั้น กู้โม่หานก็จะไม่เชื่อ

แน่นอน ที่หนานหว่านเยียนห้ามไม่ให้เสิ่นอี่ว์พูดความจริง สาเหตุที่สำคัญที่สุด ก็ไม่ใช่สองประเด็นข้างต้นนี้

และนางรู้สึกว่า ช่วงนี้ท่าทีที่กู้โม่หานปฏิบัติต่อนางแปลกประหลาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อครู่ สายตาที่เขามองดูนางประเภทนั้น รวมถึงความดึงดันการควบคุมความต้องการทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจ

หากเสิ่นอี่ว์พูดความจริงออกมาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นยังไง กู้โม่หานก็คงจะไม่ปล่อยให้นางจากไปแน่ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ อีกไม่นานนางก็จะพาพวกยัยตัวเล็กจากไปแล้ว ไม่อยาก และไม่สามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุใดขึ้นได้

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้กู้โม่หานและหยุนอี่ว์โหรวก็เป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้ว จะพูดเรื่องผู้มีพระคุณยอมรับผิดในตอนนี้อีก ความจริงก็ไม่ได้มีความหมายอะไร......

เสิ่นอี่ว์ไม่รู้ความคิดของหนานหว่านเยียน

เขาเห็นท่าทางที่ผิดปกติของหนานหว่านเยียน ก็ยังคิดว่าหนานหว่านเยียนลำบากใจเพราะท่าทีของกู้โม่หานที่มีต่อหยุนอี่ว์โหรว

เขาขมวดคิ้วแล้วกล่าว “พระชายา ไม่แน่ว่าท่านอ๋องอาจจะไม่เชื่อความจริง ข้าน้อยสามารถสัมผัสได้ ต่อท่านแล้วตอนนี้ท่านอ๋องมี.......”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้