ขณะนั้นเอง ที่เรือนเซียงหลิน
เด็กทั้งสองคนตื่นแล้ว หนานหว่านเยียนกินขนมกับพวกนาง แล้วให้พวกนางเล่นอยู่ในห้องพักหนึ่ง แล้วพรุ่งนี้ค่อยเข้าเรียน
วันนี้เด็กทั้งสองคนสำราญใจมาก เล่นกลศาสตร์เงียบๆ อยู่ในห้อง
ส่วนหนานหว่านเยียนนั่งข้างพวกนาง ครุ่นคิดอะไรไปเรื่อย
นางรู้ว่า พิธีอภิเษกของกู้โม่หานถูกเลื่อนออกไป และนางก็รู้ว่า กู้โม่หานเตรียมก่อกบฏในวันอภิเษกสมรสของกู้โม่หลิง
ตอนนั้น สถานการณ์จะชุลมุนวุ่นวาย ถึงตอนนั้น ก็เป็นโอกาสที่ดีที่นางจะจากไป
แต่ว่าก่อนหน้านั้น...
หนานหว่านเยียนมองเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยที่เล่นกลศาสตร์อย่างเงียบๆ อยู่ข้างๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน
นางลูบผมหนานุ่มของเด็กทั้งสองคน แล้วพูดเบาๆ ว่า “พวกเจ้า อยากพบเสด็จย่ามาโดยตลอดใช่หรือไม่”
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยที่กำลังเล่นสนุกสนาน เมื่อได้ยินคำถามหนานหว่านเยียน ต่างหยุดการเคลื่อนไหวไปโดยปริยาย
เกี๊ยวน้อยมองหนานหว่านเยียนอย่างคาดหวังเล็กน้อย “อื้อ! แต่ครั้งที่แล้วท่านแม่บอกว่า สุขภาพเสด็จย่าไม่ค่อยดี ต้องพักรักษาตัวไม่ใช่หรือ”
ซาลาเปาน้อยก็เงยหน้าขึ้น มองหนานหว่านเยียน
หนานหว่านเยียนบีบแก้มจ้ำม่ำของเกี๊ยวน้อย ตอบอย่างเอาใจว่า “ตอนนี้สุขภาพเสด็จย่าดีขึ้นมาก พูดคุยได้แล้ว นางบอกว่าอยากเจอพวกเจ้ามาก”
นางจะจากไปแล้ว หยีเฟยก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ดังนั้นนางก็ควรจะให้หยีเฟยได้เจอ หลานสาวของนาง
“สุขภาพเสด็จย่าดีขึ้นมากแล้วรึ!” ดวงตาเกี๊ยวน้อยเป็นประกายขึ้นมา “ดีเลย! ท่านแม่ งั้นพวกข้าไปพบเสด็จย่ากันเถอะ!”
ซาลาเปาน้อยก็ยิ้มกว้างเช่นกัน เอ่ยคล้อยตามอย่างไพเราะ “ในที่สุดก็จะได้ให้ขนมหวานๆแก่เสด็จย่ากินได้แล้ว!”
หนานหว่านเยียนเห็นบุตรสาวดีใจเช่นนี้ ก็อดอบอุ่นใจขึ้นมาไม่ได้
นางอุ้มเด็กทั้งสองคนขึ้นมาจากเก้าอี้ วางลงพื้นอย่างนุ่มนวล
“แต่ว่า ตอนนี้เสด็จย่ายังไม่อาจพูดอะไรมากได้ พวกเจ้าต้องอดทนฟังนางพูดให้จบก่อน แล้วค่อยตอบ เข้าใจหรือไม่”
เกี๊ยวน้อยตบหน้าอกให้คำมั่นทันที “อื้อ! ข้ารับรองว่าจะฟังเสด็จย่าพูดอย่างเชื่อฟังเจ้าค่ะ!”
ซาลาเปาน้อยก็พยักหน้ายืนยัน
“ข้ารู้อยู่แล้วว่า พวกเจ้าสองคนเป็นเด็กดีเชื่อฟังที่สุด!” หนานหว่านเยียนรู้สึกปลื้มใจ จูบแก้มทั้งสองข้าง แล้วจูงมือพวกนาง ไปข้างนอก
ณ เรือนจิ้งฉานหวางหมัวมัวที่กำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ในเรือน เงยหน้าขึ้นมาเห็นหนานหว่านเยียนจูงเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยเข้ามา ดวงตาก็โค้งยิ้มมีความสุขทันที แล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหา
“พระชายา เหล่าเสี่ยวจวิ้นจู่ พวกท่านมาแล้วรึ”
แม้นางจะไม่รู้ว่า ทำไมเหนียงเหนียงถึงเปลี่ยนมาชอบพระชายาขนาดนี้กะทันหัน แต่เมื่อความรักใคร่สนิทกลมเกลียวทั้งครอบครัว นางที่เป็นบ่าวรับใช้ ก็มีความสุขจากใจจริงเช่นกัน
ในเมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว จะมีสีหน้าหน้าอมทุกข์ ใช้ชีวิตจมอยู่กับความจงเกลียดจงชังทั้งวี่ทั้งวันก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ
หนานหว่านเยียนเห็นท่าทีของหวางหมัวมัวใจดีขึ้นมาก ก็ไม่ประหม่าเหมือนเมื่อก่อนอีก คิดว่าน่าจะเพราะเสด็จแม่พูดอะไรบางอย่างกับหวางหมัวมัว
นางแสร้งทำเป็นไม่สังเกต พูดกับหวางหมัวมัวด้วยรอยยิ้มบางๆ “ข้าพาเด็กทั้งสองมาเยี่ยมเสด็จแม่ ตอนนี้เสด็จแม่กำลังพักผ่อนอยู่หรือเปล่า”
หวางหมัวมัวส่ายหน้าทันที “หลังเหนียงเหนียงคุยกับท่านอ๋องเสร็จก็พักครู่หนึ่ง แต่ตอนนี้ตื่นแล้วเพคะ”
“พระชายากับเสี่ยวจวิ้นจู่ทั้งสองท่านเชิญตามบ่าวเข้าไปเถอะเพคะ”
“รบกวนหวางหมัวมัวแล้ว” หนานหว่านเยียนจูงมือเด็กทั้งสอง ตามหวางหมัวมัวไป
สองพี่น้องก็ยิ้มอย่างอ่อนหวาน เอ่ยพร้อมกันว่า “ขอบคุณหวางหมัวมัว!”
หยีเฟยที่นอนอยู่บนเตียงก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ มองเจ้าตัวเล็กทั้งสองตัวแข็งอยู่ข้างเตียง พลันนึกถึงรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ของตนเอง ก็เริ่มใจสั่นสะท้าน
นางพยายามไม่ให้สีหน้าของตนเองเปลี่ยนไป เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ตะ ตกใจ ไป แล้วรึ”
“ขะ ขอโทษนะ ตอนนี้ รูปลักษณ์ ย่า ไม่ค่อย งามเท่าใด...”
“ไม่ใช่นะ!” ซาลาเปาน้อยไม่หยีเฟยพูดจนจบ ก็เอ่ยขัดทันที ใบหน้าเล็กแดงระเรื่อ ดวงตาขึ้นฝาดเล็กน้อย “เสด็จย่า ซาลาเปาน้อยไม่ได้คิดว่าท่านไม่งามเลยนะ”
หนานหว่านเยียนก็ตกตะลึงกับเสียงตะโกนนี้
ปกติ ซาลาเปาน้อยเป็นคนนิ่งเงียบ พูดจาเสียงเบา ตอนนี้กลับตาลปัตรเช่นนี้
และไม่รอให้นางได้ครุ่นคิด นางก็เห็นซาลาเปาน้อยพยายามยืนเขย่งปลายเท้า ยื่นมือเล็กๆ ออกไป จับปลายนิ้วที่เหี่ยวแห้งของหยีเฟยไว้แน่น
ซาลาเปาน้อยมองหยีเฟย เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เป็นทุกข์และปวดใจ “ข้า ข้าเพียงคิดไม่ถึงว่า เสด็จย่าจะป่วยหนักขนาดนี้”
“ข้ากับพี่สาวได้ยินมาว่า ท่านนอนอยู่บนเตียงนานแล้ว เดิมพวกข้านึกว่า ท่านเพียงพักผ่อนให้ดีก็พอแล้ว แต่ข้าคาดไม่ถึงว่า ท่านจะลำบากเช่นนี้...”
“ข้า ข้าเศร้า เศร้าเพราะเสด็จย่าต้องทรมานขนาดนี้”
พูดจบ นางก็ซบศีรษะถูไถกับฝ่ามือหยีเฟย
เกี๊ยวน้อยก็ดึงกลศาสตร์ออกมาจากอกมากมายอย่างระทมทุกข์สำนึกผิด ถือเอาไว้ในมือให้หยีเฟยดู
“ข้าก็เหมือนกัน เมื่อครู่ข้าไม่ได้ตกใจกลัวเพราะเสด็จย่า เพพียงแต่คิดว่าเหมือนตนเองทำไม่ถูก ข้าไม่รู้เลยว่าเสด็จย่าป่วยหนัก ยังเอาของเล่นพวกนี้มาคิดจะเล่นด้วยกันกับเสด็จย่า เพื่อคลายความเบื่อหน่าย”
“ขออภัยเสด็จย่าด้วย พวกข้าไม่ดีเอง ท่านงดงามมากนะ! ท่านกับท่านแม่ต่างงดงาม ในสายตาพวกข้า! ท่านไม่ต้องเสียใจไป!”
คำพูดอบอุ่นหัวใจเช่นนี้ ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสามที่อยู่ตรงนั้นตกตะลึงทันที...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...