ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 640

“ท่านไม่ลองไปพูดหน่อย”

“ฝ่าบาทไม่มีทางฟังคำข้า” เสิ่นอี่ว์ขมวดคิ้ว จริงๆ แล้วเขาไม่กล้าบอกกู้โม่หาน เรื่องหยุนอี่ว์โหรวเข้าวังมาแล้ว

ช่วงนี้เขาอยู่กับกู้โม่หานมาตลอด ย่อมรู้ว่ากู้โม่หานสิ้นหวังขนาดไหนเพราะหนานหว่านเยียน

หากให้กู้โม่หานรู้ว่าหยุนอี่ว์โหรวถูกไทเฮารับเข้าวังมาแล้ว เกรงว่าจะโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ

อีกทั้ง เขาไม่อยากให้ฝ่าบาทเกี่ยวข้องอะไร กับสตรีอสรพิษนั้นเป็นการส่วนตัว

เฉินกงกงเห็นเสิ่นอี่ว์ไม่กล้า ตนเองก็ยิ่งไม่กล้า

แต่จะก้าวเข้าไปก็เป็นนาย จะถอยออกไปก็เป็นนาย เขาไม่กล้าที่จะละเลยทางใดทั้งนั้น จึงฝืนใจ เดินเข้าไปในห้องทรงพระอักษร

“ฝ่าบาท...” เฉินกงกงเรียกเบาด้วยเสียงสั่นเครือ

กู้โม่หานไม่เงยหน้าขึ้นมาแม้แต่น้อย “ข้าบอกแล้วว่า ไม่มีเรื่องอันใดห้ามมารบกวน”

วาจาราบเรียบ แต่เหมือนมีแรงกดดันมากล้น ทำให้สองขาเฉินกงกงอ่อนแรง เหงื่อแตกพลั่กไม่หยุด

เขาหมอบลงกับพื้น โขกศีรษะอย่างแรง

“ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิต กระ กระหม่อมมิได้ตั้งใจมารบกวนพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!”

“มะ มีพระเสาวนีย์ของไทเฮานางกำนัลอาวุโสของพระนางเรียกโหรวเฟยเหนียงเหนียงเข้าวังมาวันนี้ ตะ ตอนนี้รออยู่ที่ตำหนักพระบรรทมของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ...”

โหรวเฟย?

นัยน์ตาดำขลับของกู้โม่หานเปลี่ยนเป็นดุดัน ดวงตาแดงก่ำดุร้ายน่าสะพรึงกลัวยิ่ง

“โหรวเฟยอะไร ไทเฮาเอาสตรีที่ไหนมาอีกกัน ไล่ออกไป!”

เสด็จย่าช่างอยู่ไม่สุขเสียจริง ช่วงนี้พยายามทุกวิถีทางเพื่อส่งสตรีมาให้เขา

เฉินกงกงที่หมอบกับพื้นตกใจจนกลืนน้ำลายไม่หยุด รู้สึกเสียวสันหลัง เหมือนตนเองก้าวเท้าเข้าไปในโลงศพครึ่งหนึ่งแล้ว

เขาเอ่ยตะกุกตะกักว่า “ทะ ทูลฝ่าบาท โหรว ทะ ท่านผู้นั้นคืออดีตพระชายารองของพระองค์ นางกำนัลอาวุโสของไทเฮาเรียกเข้าวังมาด้วยตนเอง แล้วส่งไปที่ตำหนักพระบรรทมของพระองค์ พวกกระ พวกกระหม่อมมิกล้าขัด...”

ตั้งแต่ฮองเฮาเหนียงเหนียงจากไป นิสัยของฝ่าบาทก็เปลี่ยนไปมิใช่น้อย น่ากลัวเกินไปจริงๆ...

อดีตพระชายารองของเขา หยุนอี่ว์โหรวรึ

ดวงตาหงส์ของกู้โม่หานหรี่ลง ราวกับเพิ่งนึกได้ว่าสองเดือนมานี้หยุนอี่ว์โหรวอยู่นอกวัง ดวงตาเย็นชาเฉียบคม บนใบหน้าคมสันราวกับเปลวเพลิงคุกรุ่น

ไทเฮาเกลียดหยุนอี่ว์โหรวที่สุดในชีวิต แต่ตอนนี้กลับส่งนางเข้าวัง เพื่อให้เขา “หลุดพ้นจากความเศร้า” โดยเร็ว

ดูท่าตัดสินใจแน่วแน่แล้ว

กู้โม่หานรู้ว่าต่อให้เจ้าไปโต้เถียงกับไทเฮา ก็มีแต่จะเสียเวลา

ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ฉวยโอกาสนี้ พูดกับหยุนอี่ว์โหรวให้ชัดเจนพอดี

เฉินกงกงกลั้นหายใจมองกู้โม่หานสะบัดแขนเสื้อออกจากห้องทรงพระอักษรไป แต่เหมือนทั้งร่างกายจิตวิญญาณว่างเปล่า ทิ้งไว้ในห้องทรงพระอักษร

“ฝ่าบาท” เสิ่นอี่ว์มองกู้โม่หานออกไป รีบพอองครักษ์หลายคน ตามไปทันที

ภายในตำหนักพระบรรทม หยุนอี่ว์โหรวนั่งอยู่ริมหน้าต่าง ชมจันทราดวงดารานอกหน้าต่าง ดวงตาสงบนิ่ง

“ไม่ต้อง” ดวงตาหงส์ของกู้โม่หานหรี่ลงราวกับคมมีด ทิ่มแทงใบหน้าหยุนอี่ว์โหรวอย่างโหดร้าย น้ำเสียงไม่มีความรู้สึกให้เลยแม่แต่น้อย “เก็บข้าวของ อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนส่งเจ้าออกจากวัง”

เมื่อได้ยิน ปี้หยุนพลันเหลือบมองหยุนอี่ว์โหรวอย่างตื่นตระหนก

ดวงตาหยุนอี่ว์โหรวประกายความประหลาดใจ ราวกับคาดไม่ถึงว่ามีการพิพาทกับกู้โม่หานอย่างไม่เข้าใจ

แต่นางไม่ยอม เพิ่งจะเข้าวังมาก็จะถูกไล่ออกไปแล้ว นี่ไม่ใช่สิ่งที่นางต้องการ

หยุนอี่ว์โหรวกำแขนเสื้อแน่น เงยหน้าขึ้นมองกู้โม่หาน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยอัดอั้นตันใจ

“ฝ่าบาท โหรวเอ๋อร์เพิ่งมา พระองค์ก็จะไล่โหรวเอ๋อร์ไปแล้วหรือเพคะ”

“โหรวเอ๋อร์รู้ว่าช่วงนี้พระองค์ปฏิเสธสตรีที่เสด็จย่าจัดเตรียมให้พระองค์มากมาย และรู้ว่าพระองค์ถวิลหาเพียงฮองเฮาเหนียงเหนียง กระทั่งไม่ยอมรับการเสียชีวิตของพระนาง แต่พระองค์อย่าลืมว่า โหรวเอ๋อร์ก็แต่งเข้ามาให้ท่านอย่างเปิดเผยเหมือนกัน”

“หรือพระองค์จะใจดำ ถึงขนาดต้องการทิ้งโหรวเอ๋อร์กับลูกในท้องของโหรวเอ๋อร์เลยหรือเพคะ”

“ตอนนั้นโหรวเอ๋อร์เคยช่วยชีวิตพระองค์หนึ่งหน หรือพระองค์ลืมมันไปหมดแล้วเพคะ”

ขณะพูด นางก็ไปดึงแขนกู้โม่หาน

มือของหยุนอี่ว์โหรวเกือบแตะโดนแหวนที่นิ้วก้อยของกู้โม่หาน ดวงตาชายหนุ่มหดเกร็ง เอียงกายหลบทันที เหลือบมองแหวนที่นิ้วก้อยอย่างกระวนกระวาย แล้วจ้องมองหยุนอี่ว์โหรวอย่างเย็นชา ความเย็นยะเยือกนั้น แทบทำให้หายใจไม่ออก

กู้โม่หานเผยอริมฝีปากบางขึ้น พูดอย่างเย็นชาว่า

“หยุนอี่ว์โหรว ข้าพูดไปหลายครั้งแล้ว ข้าไม่มีความรู้สึกอะไรให้เจ้านานแล้ว ส่วนบุญคุณช่วยชีวิตของเจ้า เป็นข้าที่ติดหนี้เจ้า แต่ข้าก็คืนไปบ้างแล้ว”

“หรือว่า เจ้ายังอยากให้ข้าตายให้เจ้าสักครั้ง ถึงจะถือว่าชดใช้ให้แล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้