ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 871

ปกตินางมิเคยลุกขึ้นเร็วเช่นนี้มาก่อน ขาแข้งล้วนรู้ลึกคล้องแคล่วขึ้นไม่น้อย ยืนขึ้นบนพื้น หลังจากที่ทำความเคารพหนานหว่านเยียนแล้วนั้น ก็ออกจากห้องอักษรราวกับหนีออกไป เทียบกับท่าทีที่ร่างกายเสไปเสมาในตอนเข้ามานั้นก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ทว่าก่อนที่นายท่านหญิงเฉิงอวี้จะไปนั้น กลับจ้องเขม็งอย่างดุดันไปทีหนึ่ง พอเห็นสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของบุรุษนั้น ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก!

กล่าวตามตรงเป็นเพราะสนมชายผู้นี้ที่พึ่งมาก็หยอกล้อยั่วเย้าผู้อื่นไม่ทั่ว หากมิใช่ไอ้ไก่อ่อนผู้นี้ยั่วยวนเจียวเจียวแล้วล่ะก็ หลานสาวผู้น่ารักของนางจักไปล่วงเกินหมิงหวง ล่วงเกินเตี้ยนเซี่ยมากมายเช่นนั้นด้วยเหตุนี้ได้อย่างไร!

ตอนนี้ก็เยี่ยมไปเลย โม่เหยียนผู้นี้ยังได้รับความโปรดปรานจากหนานหว่านเยียน จมูกก็ยืดยาวไปถึงสวรรค์นู้นแล้ว ครานี้ยังกล้ายุแยงเสี่ยวซื่อจือทั้งสองคนให้มาทำให้นางรู้สึกลำบากใจ

โม่เหยียนใช่รึไม่?

นางไม่มีทางปล่อยเขาไปเป็นแน่!

ตระกูลลู่มิอาจสั่งสอนองค์หญิงได้ หรือว่าจักสั่งสอนสนมชายก็เป็นเรื่องยากงั้นรึ?!

นายท่านหญิงเฉิงอวี้หนีไปอย่างลนลาน สีหน้าของอันอันกับน่าวน่าวก็ยังแสดงอารมณ์ค้างคาอยู่ไม่น้อย แต่คนชั่วที่รังแกท่านแม่นั้นก็ไปแล้ว พวกเขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมากแบบสุดๆทันที ไขมันเด็กบนใบหน้าเล็กๆที่ทั้งขาวและชมพูนั้นล้วนสะบัดไปมา

พวกเขากระโดดขึ้นมาอย่างรู้ใจกับ ปะมือกับโม่เหยียนราวกับได้รับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ "เย้!"

"คนพวกนี้คงรู้แค่รังแกท่านแม่ ท่านแม่จิตใจดี พูดจาง่าย"

"คุณชายโม่เหยียน หากมิใช่ว่าวันนี้มีเจ้าอยู่ละก็ ท่านแม่จักต้องถูกรังแกอีกเป็นแน่!"

โม่เหยียนลูบหัวทั้งสองคนอย่างอ่อนโยน ในตากลับปรากฏแรงอารมณ์คล้ายกับเกล็ดหิมะชุบไฟขึ้นมาวูบหนึ่ง

นางถูกพวกคนผู้นี้รังแกอยู่บ่อยๆงั้นรึ?

หนานหว่านเยียนมองดูท่าทีเข้าอกเข้าใจกันของโม่เหยียนกับเจ้าก้อนแป้งทั้งสองจากบนที่สูง ภายในใจก็เกิดความรู้สึกลึกๆ เล็กน้อย นี่มิใช่ครั้งแรกที่นางเห็นอันอันกับน่าวน่าวชอบบุรุษผู้หนึ่งมากเช่นนี้

แม้ว่ากาลก่อนอันอันกับน่าวน่าวก็ชอบเย่เชียนเฟิงกับเฉิงซูหย่วน แต่ก็มิได้ตัวติดกันตลอดเวลา

แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ยังคิดว่าการกระทำของโม่เหยียนในวันนี้ยังไม่รู้จักกฎระเบียบเป็นอย่างมาก หากไม่สั่งสอนให้ดีสักครั้ง ก็ไม่รู้ว่าต่อมาเขาจักก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก

นางเดินมาด้วยสีหน้าเย็นยะเยือก ลากอันอันกับน่าวน่าวมาที่ข้างกายของตัวเอง แล้วหันหลังไปเอ่ยกับโม่เหยียนว่า "โม่เหยียน ที่นี่คือห้องอักษร เป็นที่ที่ข้าใช้จัดการราชการ"

"เมื่อก่อนข้ามิเคยสอนเรื่องกฎระเบียบให้เจ้า แต่ก็มิได้ให้เจ้าพาพวกเสี่ยวซื่อจือเข้ามาได้ตามอำเภอใจ อีกอย่าง เมื่อครู่ท่านนั้นคือนายท่านหญิงเฉิงอวี้ ไม่ว่าจักพูดเยี่ยงไรก็มิควรฉีกหน้าเช่นนี้"

"เจ้าทำไม่ดีเช่นนี้ ข้าจักต้องลงโทษเจ้า"

ดวงตาดำขลับของโม่เหยียนจ้องไปที่หนานหว่านเยียนไม่วางตา เม้มริมฝีปากบางลงเล็กน้อย แต่มิได้ตอบกลับอันใด

"ขอรับ องค์หญิง"

ทว่าพอเด็กทั้งสองคนได้ยินว่าหนานหว่านเยียนจักลงโทษโม่เหยียนนั้น ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที

น่าวน่าวนั่งลงกับพื้นอย่างรวดเร็ว น้ำตากล่าวจักไหลก็ไหล "ฮือฮือ มิเอา......"

"คุณชายโม่เหยียนเป็นคนดีมากๆ ท่านแม่ อย่าลงโทษเขา!"

อันอันก็กัดปากมองหนานหว่านเยียนอย่างน้อยใจ "ท่านแม่จักลงโทษคุณชายโม่เหยียนจริงๆงั้นรึขอรับ?"

"แต่เขามิ มิได้ทำผิดกระไร......"

พี่น้องทั้งสองกอดกันร้องไห้ น่าสงสารเป็นอย่างมาก น่าวน่าวร้องไห้ไปที่ปากก็พึมพำไม่หยุดว่า "ล้วนเป็นเพราะพวกข้ามิดีเอง หากท่านแม่โกรธก็ลงโทษพวกข้าเถิด อย่างลงโทษคุณชายโม่เหยียนเลย"

คุณชายโม่เหยียนนั้นเป็นท่านพ่อที่นำมาเป็นไม้ค้ำฟ้าในอนาคตเชียวนะ จะถูกท่านแม่ตีก้นได้เช่นไร?

เหตุการณ์และอารมณ์เช่นนี้ ก็คือเหตุการณ์ที่บิดาถูกมารดาลงโทษ ลูกๆทั้งสองแกล้งไห้ฮือฮือ ปกป้องบิดามิใช่หรือ เป็นความคิดที่แปลกพิลึกมาก แต่นางกลับคิดว่านี่คล้ายกับครอบครัวหนึ่งที่มีสี่คนจริงๆ......

ดูท่าโม่เหยียนจะเห็นซื่อจือทั้งสองท่านเป็นลูกแท้ๆในไส้เสียแล้ว ปกป้องเอาไว้รอบด้าน ทั้งปวดใจ แปลก แปลกเกินไปแล้ว......

ภายใต้นภานี้จักมีบุรุษที่ยอมให้ภรรยาของตัวเองไปมีลูกกันผู้อื่น แล้วตัวเองใช้ชื่อเป็นบิดาจริงๆงั้นรึ?

หนานหว่านเยี่ยนจ้อง"บุรุษ"ทั้งสามคนนี้ ปวดหัวจนแทบจะระเบิด

ในใจของนางรู้สึกไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้กล่าวออกมา โม่เหยียนผู้นี้ มองไม่ออกหรือไงกันว่าเด็กสองคนนี้ตั้งใจแสดงละครน่ะ?

ตกลงว่าเป็นเขาที่โง่เขลาหรือจงใจยอมหลงกลกันแน่?

ในขณะนี้เอง จู่ๆโม่เหยียนก็เงยหน้าขึ้นมาตั้งใจจ้องเขม็งไปที่หนานหว่านเยียน น้ำเสียงดุดันจริงจัง "คำตำหนิที่องค์หญิงกล่าวมา ข้าน้อยจดจำไว้หมดแล้วขอรับ ต่อจากนี้จักต้องนำมาปรับแก้ให้ถูกเป็นแน่ ท่านลงโทษขอน้อย แล้วทำให้ซื่อจือทั้งสองท่านเลิกร้องไห้เถิด"

ท่าทีของโม่เหยียนที่นอบน้อเช่นนี้ หนานหว่านเยียนยิ่งมองก็ไม่เข้าใจ นางจ้องมองใบหน้ารูปงานที่เย็นยะเยือกของบุรุษผู้นี้ คาดไม่ถึงว่าในสมองจักพลันปรากฏใบหน้าหนึ่งที่นางไม่อยากนึกถึงขึ้นมา

เมื่อก่อนกู้โม่หานก็เป็นเช่นนี้ที่ยอมหลงกลในเด็กหญิงทั้งสอง ต่อให้จักถูกกลั่นแกล้งรังแกก็มิเคยโกรธ อีกทั้งในตอนนั้นบุตรสาวทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใกล้สนิทสนมและชมชอบเขาเช่นนี้

ตามที่นางรู้ นอกจากคนในสายเลือดเดียวกันแล้วก็มิมีผู้ใดอาจทำถึงขั้นนี้ได้ แล้วก็มิอาจมีแรงดึงดูดมากมายมหาศาลเช่นนี้

หรือว่า......

ความคิดอันน่ากลัวอย่างหนึ่งปรากฎขึ้นมาในสมองของนาง สีหน้าของหนานหว่านเยียนพลันเปลี่ยนไปเลยในทันที นิ้วมือก็พลันเกร็งขึ้นมา

สายตาเฉียบแหลมดุจใบมีดของนางบินไปทางโม่เหยียนอย่างดุดัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้