ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 888

คำพูดมาถึงมุมปากแล้วกำลังจะโพล่งออกมา แต่จู่ๆ เกี๊ยวน้อยก็นึกขึ้นได้ กัดฟันและรั้งม้าหน้าผา ลับตัวยังทันทันที

นางกำผ้าไว้ในมือเป็นก้อนกลมแต่ก็มิได้ส่งให้หนานหว่านเยียน แต่กลับแอบเก็บไว้ในอ้อมอกตน แสร้งทำเป็นมิได้เกิดสิ่งใดขึ้น

เพียงแต่สายตาที่นางมองโม่เหยียน เปลี่ยนและมิเหมือนเดิมอีกต่อไป สงสัย มิเข้าใจ โกรธเคือง ทั้งยังเจ็บใจ......

หนานหว่านเยียนกำลังรักษาบาดแผลให้โม่เหยียนอย่างพิถีพิถัน ยืมชายเสื้อตรงที่ว่างฉีกออกมาพันแผลให้โม่เหยียน ก็มิได้สังเกตเห็นการตอบสนองของลูกสาว

นางมองโม่เหยียนที่หมดสติมิยอมฟื้นและขมวดคิ้ว ยื่นมือไปวัดอุณหภูมิ พบว่าเขาเป็นไข้หนัก ก็ได้สั่งให้ซาลาเปาน้อยเอาถุงน้ำมาให้ ให้ยาลดไข้แก่โม่เหยียน หลังจากนั้นก็พาเด็กๆ ลงจากรถม้า

เกี๊ยวน้อยอาศัยว่าตนนั้นมีความสามารถแล้ว ก็เลยประมาทไป ศิลปะการต่อสู้ก็ได้เรียนมาบ้าง แต่แรงกำลังนั้นเป็นข้อด้อยของหนูน้อยนี่ สู้คนเลวมิได้ ทั้งยังทำให้คนของตนเดือดร้อน

นางสั่งสอนเกี๊ยวน้อยอย่างเคร่งขรึม เกี๊ยวน้อยก้มหัวลง“ท่านแม่ ข้ารู้ผิดแล้ว ขออภัย ต่อไปข้ามิกล้าอีกแล้ว”

ซาลาเปาน้อยและอันอันน่าวน่าวก็ฟังอยู่ด้านข้าง ก็ก้มหัวตามกัน โดนสั่งสอนไปพร้อมกัน

หนานหว่านเยียนเห็นว่าเกี๊ยวน้อยรู้ผิดจากใจจริง จึงเอ่ยว่า“ไปขอโทษพี่ๆ ทุกคน รอให้โม่เหยียนตื่นแล้ว ก็ขอโทษเขาดีๆ”

เอ่ยถึงโม่เหยียน สายตาของเกี๊ยวน้อยก็สับสนมากขึ้น“เพคะ”

……

มิรู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด โม่เหยียนรู้สึกว่าทั้งร่างกายนั้นร้อนและเจ็บปวด แผลที่แขนซ้ายก็ชา แต่ก็มิได้รู้สึกอึดอัดมากนัก

เขาลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก การมองเห็นเปลี่ยนจากพร่ามัวเป็นชัดเจน เขายกแขนและยืนขึ้น พบว่าตนนั้นยังอยู่บนรถม้า และก็ได้ยินเสียงของพวกเด็กๆ หัวเราะกันอยู่นอกรถ

โม่เหยียนมองมือขวาที่ถูกพันไว้ ถูขมับที่วิงเวียนของเขา วินาทีต่อมาภาพของเจ้าหญิงนิทราก็เข้ามาในม่านตาของเขาโดยมิคาดคิด

หนานหว่านเยียนก็นอนอยู่อย่างเงียบๆ ตรงด้านตรงข้ามกับเขา ขาทั้งสองขดเป็นก้อนกลม

แสงแดดส่องกระทบใบหน้าที่หลับใหลอันงดงามของนาง ทำให้ขนตาที่หนาและโค้งงอดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

ใบหน้าของนางสวยใสไร้ที่ติ แม้ว่าปากกระบอกแขนเสื้อจะเปื้อนเลือดไป แต่ก็มิได้ขัดขวางความงามที่ราวกับเทพเซียนที่สวมชุดขาวของนางได้ ตรงกันข้ามกลับเพิ่มเสน่ห์อันน่าทึ่งขึ้นมาอีกหลายเท่า

นัยน์ตาของโม่เหยียนอ่อนโยน เสียงหายใจก็เปลี่ยนเป็นเบาลง เกรงว่าจะไปรบกวนความฝันของหญิงสาว

เขามองไปที่นอกหน้าต่าง ก็พบว่ามีองครักษ์ยืนเรียงรายกันเฝ้าอยู่ เฟิงยางก็เฝ้าอยู่ข้างกายเด็กๆ ซากศพของพวกนักฆ่าก็ถูกจัดการจนสะอาดแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าตอนนี้ได้ปลอดภัยแล้ว

แต่เมื่อเห็นท่าทางหลับสนิทของนาง จู่ๆ เขาก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เขามีจินตนาการมากมายที่เขาได้อยู่ข้างกายนางทั้งเช้าตรู่และพลบค่ำ เวลาผ่านไปและโลกใบนี้ล้วนมิเกี่ยวข้องกับพวกเขา บัดนี้ความปรารถนาของเขาก็สำเร็จแล้ว จะให้เขามิโลภได้เยี่ยงไร เขาจะมิสามารถไปใกล้นางได้เยี่ยงไร

หากมิใช่เพราะความยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด เขาจะอดทนได้นานเยี่ยงนี้หรือ

โม่เหยียนค่อยๆ ไปด้านข้างหนานหว่านเยียนช้าๆ ปากบางปากบังริมฝีปากนุ่มของนาง สัมผัสอย่างแผ่วเบา ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า

ระยะห่างของใจสองดวงเข้าใกล้เรื่อยๆ สมองของโม่เหยียนขาวโพลน ได้ยินเพียงหัวใจของตนเองเต้นแรง

เขาปิดตาลง ปากบางอดมิได้ที่จะออกแรงอีกสักหน่อย นำพาความคิดถึง นำพาโหยหา ดูดอย่างตะกละตะกลาม......

เมื่อคืนวานหนานหว่านเยียนมิได้นอนเลย ตื่นก็เช้าอีก นางในตอนนี้หลับลึกมาก แต่ริมฝีปากก็คันๆ กรอบๆ ทำให้นางมิสบายตัว

รู้สึกราวกับยุงกำลังกัดนาง นางขมวดคิ้วและโบกมือไป ยุงก็เหมือนสงบไปได้นาน หลังจากนั้นมันก็ได้เริ่มมายุ่มย่ามกับหน้านางอีก

“ออกไป!”นางโบกมืออย่างรำคาญอีกครา แต่คราวนี้ได้มีสติมามิน้อย ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ในตาก็เห็นใบหน้าที่ขยายใหญ่ของโม่เหยียน......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้