ซาลาเปาน้อยหรี่ตาลงเล็กน้อยจ้องมองพี่สาวแต่ก็ไม่ได้แฉโพย กินข้าวของตัวเองไปโดยไม่สนใจอะไร แต่จู่ๆ นึกอะไรขึ้นมาได้ ในที่สุดก็ดูโม่เหยียนและเตือนว่า “คุณชายโม่เหยียน เมื่อสักครู่ท่านบอกว่าแค่เป็นของขวัญที่พวกข้าเตรียมด้วยความตั้งใจท่านยายต้องชอบแน่นอน”
“แม้จะฟังเข้าท่า แต่ท่านยายก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิดอย่างนั้นเลย ส่วนที่อันอันกับน่าวน่าวบอกว่าเตรียมอาหารอร่อยให้ท่านยาย จริงๆ แล้วก็ไม่ค่อยมีประโยชน์อะไรหรอก”
โม่เหยียนมองซาลาเปาน้อยและขมวดคิ้ว ยังไม่ทันถามเหตุผลน่าวน่าวก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย “ทำไมเหรอ?”
ฉลองวันเกิดทำให้ท่านยายอารมณ์ไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?
เกี๊ยวน้อยกล่าว “ที่ท่านยายอารมณ์ไม่ดีคือเพราะในใจมีความวิตกกังวล”
ความวิตกกังวล?
โม่เหยียนขมวดคิ้วตั้งใจฟังสองพี่น้องเล่าอย่างต่อเนื่อง
“เคยได้ยินว่าเมื่อก่อนในวันที่ท่านยายฉลองวันเกิดวันนั้นเคยเสียคูเมืองไปสองแห่ง”
“แต่นั่นก็เป็นเรื่องนานมามากแล้ว เหมือนจะเป็นยี่สิบปีที่แล้ว ท่านยายเพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน แคว้นต้าเซี่ย แคว้นซีเหย่และแคว้นเทียนเซิ่งกำลังตกอยู่ในการตะลุมบอน”
เกี๊ยวน้อยตะลึง เงยหน้ามองโม่เหยียนแวบหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ในดวงตานั้นดูลึกซึ้ง
“ผลของยุทธการครั้งนั้นแย่มาก แคว้นต้าเซี่ยเป็นฝ่ายปราชัย จินหลิงกับหลานหลิงคูเมืองสองแห่งที่อยู่ภายในอาณาเขตแคว้นต้าเซี่ยในตอนแรกก็ถูกแคว้นเทียนเซิ่งแบ่งสรรไปด้วย”
“สูญเสียที่ดินของแคว้นไปก็เหมือนกับสูญเสียลูกของตัวเอง จะให้ท่านยายดีใจได้ยังไง งานฉลองวันเกิดทุกครั้งมักจะนึกถึงเรื่องเมื่อยี่สิบปีที่แล้วเลยรู้สึกกลุ้มใจมาก”
เกี๊ยวน้อยทำปากยื่น ดูเหมือนทุกข์ใจเล็กน้อย
เด็กน้อยสองคนก็กำลังครุ่นคิดอยู่ดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจทั้งหมดและก้มหน้ากินต่อ
ส่วนโม่เหยียนหางตาชี้หรี่ลงครึ่งหนึ่งและคิ้วอันโค้งเรียวเหมือนดาบขมวดอย่างแน่น
จินหลิงกับหลานหลิงเหรอ…
หนึ่งคืนผ่านไป ในที่สุดก็มาถึงวันจริงงานฉลองวันเกิดของจักรพรรดินี
ในวังคึกคักสุดๆ แขกเหรื่อที่ไปๆ มาๆ เริ่มเข้ามาในสถานที่งานเลี้ยงฉลอง
ในตำหนักหนิงปี้แขกมากันมากมายจนเต็มงาน ทุกคนรวมตัวกันทักทายปราศรัย หรือไม่ก็แอบกระซิบกระซาบเบาๆ
จูโหวศักดินา(เจ้านครรัฐ)ทุกคนนั่งอยู่ทางซ้าย สบตากันอยู่ตลอดเวลา สายตาลอยอยู่ในเลี้ยงฉลองเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่
ยังมีเวลาสักพักหนึ่งก่อนเริ่มงานเลี้ยงฉลองวันเกิด จู่ๆ กงแจ๋ลั่วฉู่ที่นั่งอยู่ซ้ายสุดเหมือนจะเห็นใครสักคนและหรี่ตาลงทันที เขายกแก้วขึ้นมาและเดินไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงฝั่งขวานับมาคนที่สอง และยังมีองครักษ์หลายคนตามอยู่ข้างหลังด้วย
เขารู้เรื่องที่ลู่เจียวเจียวสียโฉม และก็รู้ว่าวันนี้นางไม่สามารถมาเข้าร่วม แต่นอกจากหงเหมิงแล้วยังมีองค์หญิงหงหลิงอยู่ในวังนี้ เป็นลูกสาวบุญธรรมของจักรพรรดินีเหมือนกับลู่เจียวเจียว
ลู่เซิงเซิงสวมกระโปรงยาวสีฟ้าน้ำแข็งนั่งตัวตรงอยู่กับที่ ใบหน้างดงามลออ รอยยิ้มอ่อนโยนเรียบร้อย
กงแจ๋ลั่วฉู่เดินมาข้างหน้าลู่เซิงเซิงยกแก้วขึ้นมาแสดงความเคารพ
“องค์หญิงหงหลิง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
ลู่เซิงเซิงมองไปที่กงแจ๋ลั่วฉู่อย่างไม่ใส่ใจและยิ้มอย่างนุ่มนวล “โหวเยว่ (ท่านเจ้าพระยา)”
“ตอนออกเมืองท่านอายุยังน้อยอยู่เลย ไม่คิดเลยว่าตอนนี้ท่านได้เติบโตอย่างสะโอดสะองแล้ว ช่างแตกต่างจากตอนสาวน้อยมากเลยจริงๆ”
ลู่เซิงเซิงพูดจบปุบ สีหน้าของกงแจ๋ลั่วฉู่ดูแย่ลงทานที เหมือนเขาจะคิดไม่ถึงว่าลู่เซิงเซิงจะหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเช่นนี้
แต่องค์หญิงที่เขาสามารถเลือกได้ในตอนนี้มีไม่มาก ลู่เจียวเจียวแทบจะหมดอำนาจแล้ว ส่วนหนานหว่านเยียนนางเคยเป็นฮองเฮาแห่งแคว้นซีเหย่และไม่ได้เติบโตในแคว้นต้าเซี่ยอีกด้วย พวกเขาไม่รู้เส้นสนกลในอะไรเลย
ถ้าถึงตอนนั้นเขาไม่สามารถจับจุดอ่อนหนานหว่านเยียนได้ อย่างนั้นก็เท่ากับสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงให้กับตัวเอง
เพราะฉะนั้นมีแต่ลู่เซิงเซิงที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
พอคิดถึงจุดนี้ กงแจ๋ลั่วฉู่เปิดปากขึ้นมาเหมือนยังอยากพูดอะไรอีก ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังมาจากประตู “องค์หญิงหมิงหวงพาอานผิงจวิ้นจู่ อานเล่อจวิ้นจู่ สวี้เซิงซื่อจือและสวี้หมิงซื่อจือเสด็จมา--”
มีขุนนางหลายท่านที่เจอหนานหว่านเยียนเป็นครั้งแรก ต่างตื่นตระหนกตกใจกับความสวยของนางไปเต็มๆ จ้องมองนางอย่างตกตะลึงพรึงเพริดขยับตาไม่ได้เลย
วันนี้หนานหว่านเยียนสวมด้วยกระโปรงยาวสีแดงสด ดอกไห่ถังสีทองตกแต่งอยู่ตรงกลางคิ้ว ไม่ได้วาดเค้าโครงคิ้วอะไรมากก็พอดึงดูดวิญญาณและทำให้ทุกคนลุ่มหลงได้แล้ว
ข้างๆ นางนั้นเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยคนหนึ่งสง่าผ่าเผย อีกคนนุ่มนวลน่ารัก ไม่ใจร้อนเหมือนเด็กคนอื่นเลย
ส่วนด้านหลังหนานหว่านเยียนนั้นโม่เหยียนก็ได้ดึงดูดสายตาจากหลายๆ คนเช่นกัน ถึงแม้จะมีหลายคนได้ข่าวว่าหนานหว่านเยียนได้สนมชายคนใหม่เมื่อไม่นานมานี้ แต่ครั้งแรกที่เห็นโม่เหยียนก็ต่างตกตะลึงกัน
หน้าตาของเขาหล่อเหลาเย็นชา แม้จะมีฐานะเป็นสามัญชน แต่ลักษณะพลังที่ได้แสดงออกมาจากรอบตัวน่าหวาดเสียวอย่างมิอาจดูถูกได้เลย และกลับพอๆ กันกับเย่เชียนเฟิงที่ตระกูลมีฐานะและชื่อเสียงอีกด้วย
โม่เหยียนอุ้มอันอันกับน่าวน่าวในอ้อมแขน เด็กน่ารักสองคนสังเกตรอบตัวอย่างอยากรู้อยากเห็น เหมือนกับมีแรงที่ใช้ไม่หมดเลย
สายตาของหนานหว่านเยียนกวาดไปที่ลู่เซิงเซิงกับกงแจ๋ลั่วฉู่ เดินไปที่หลักทางขวาบนมองลงไปด้านล่างดูทุกคนอย่างเฉยเมยแต่ไม่ได้พูดอะไรมาก “ทุกท่านไม่ต้องพิธีรีตอง ลุกขึ้นมาเถอะ”
ทุกคนค่อยๆ ลุกขึ้นมา กงแจ๋ลั่วฉู่ตามองลงไปด้านล่างเล็กน้อย ความเยือกเย็นลอยผ่านเข้าตาและถอยเข้ากลับไปในที่ของตัวเองอย่างไร้เสียง…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...