จักรพรรดินีมองหนานหว่านเยียนอย่างสงสัยทีหนึ่ง แต่ไม่ได้พูดเลยอะไร
"ดี ในเมื่อเจ้าอยากเจอ ถ้าเช่นนั้นข้าจะสั่งการลงไปอย่างเงียบๆ"
"เวลานานก็เย็นแล้ว เจ้าเองก็รีบไปพักผ่อนเถิด"
หนานว่านเยียนมองจักรพรรดินีอย่างซาบซึ้ง สีหน้าอ่อนโยน "ได้เพคะ ขอบพระทัยท่านน้าเป็นอย่างมาก"
ทั้งสองคนต่างบอกลากันอีกสองคำ หนานหว่านเยียนจึงจะออกจากตำหนักของจักรพรรดินีไป
นางไม่ได้ตรงหาเย่เชียนเฟิงเลย แต่อ้อมทางไปที่ตำหนักจานกุ้ย
คืนนี้ฟ้าโปร่งไร้ดาว ตำหนักตะวันตกของตำหนักจานกุ้ยนั้นล้วนดับไฟไปหมดแล้ว
หนานหว่านเยียนสั่งนางกำนัลทั้งสองข้างให้ถอยออกไป แล้วเดินเข้าไปอย่างเบามือเบาเท้า เห็นเกี๊ยวน้อยกับซาลาน้อยทั้งสองพี่น้องกำลังนอนหลับสบาย
ในห้องมืดเล็กน้อย หนานหว่านเยียนช่วยบุตรสาวทั้งสองคลุมผ้าห่มให้ดีอย่างอ่อนโยน ค้อมตัวหอมข้างแก้มของทั้งสองพี่น้องอย่างแผ่วเบา "ฝันดีนะ"
หลังจากนั้น หว่านเยียนก็ไปที่ตำหนักทิศใต้ของอันอันกับน่าวน่าว กลับพบว่าไฟยังสว่างอยู่
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้งแล้วผลักประตูเข้าไป พบอันอันกำลังงอตัวนอนอยู่บนเตียงอย่างเป็นเด็กดี ส่วนน่าวน่าวกลับพิงกายอยู่ขอบเตียง ขาทั้งสองข้างห้อยลง แขวนขาน้อยๆทั้งสองข้างอยู่อย่างเบื่อหน่าย
เขาเท้าคางเหม่อมองพื้น ก้อนไขมันบนใบหน้าเล็กล้วนพองขึ้นมาแล้ว
วันนี้ในงานงานฉลองวันเกิด เขาได้ยินชื่อของท่านพ่อ แม้จะรู้ว่าท่านแม่ไม่ชอบท่านพ่อเป็นอย่างมาก แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะจินตนาการว่าท่านพ่อของตัวเองเป็นคนแบบใดอยู่ภายในใจ
เสด็จพี่บอกว่า เมืองทั้งสองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ก็สำคัญราวกับของกินอร่อยๆพวกนั้นที่เขาอดใจกินไม่ได้
ทว่าวันนี้ท่านพ่อกลับมอบเมืองทั้งสองให้กับท่านยาย ก็เหมือนกับประเคนของอร่อยๆให้มากมายจนเต็มไปหลายตำหนักเลยนี่
นี่เก่งมากจริงๆเสียด้วย
ตกลงท่านพ่อนั้นสูงหรือเตี้ยกันนะ?รูปงามเท่าคุณชายโม่เหยียนหรือไม่ วรยุทธ์จะเก่งกาจอย่างที่เสด็จพี่บอกหรือไม่กันนะ?แล้วก็ทำตัวไม่ดีกับท่านแม่จริงหรือไม่?
น่าวน่าวยิ่งคิดก็ยิ่งคึก ภายในใจจินตนาการ กู้โม่หานราวกับเท้าเหยียนอยู่บนเมฆเจ็ดสีมาอยู่ตรงหน้าเขา ข้างกายล้วนเป็นของกินอร่อยๆทั้งนั้น
เพียงแค่ท่านพ่อสะบัดมือ "นี่ล้วนเป็นของเจ้าทั้งหมด อย่างกินเท่าไหร่ก็กินเลย"
น่าวน่าวอดไม่ได้ที่จะปิดปากแอบขำ "คิคิ หากเป็นเช่นนั้นจริง เช่นนั้นก็ไม่แย่นะ......"
เหตุการณ์นี้บังเอิญโดนหนานหว่านเยียนเห็นเข้าพอดี นางเดินไปที่ข้างกายเขา ตีหัวของน่าวน่าวเบาๆหลายที เอ่ยถามเสียงเบาว่า "คิดอะไรอยู่หรือ ยังไม่นอนน่ะ?"
"ท่านแม่!" น่าวน่าวลุกขึ้นโดยพลัน กระโจนไปยังหว่านเยียน ยิ้มจนเห็นฟันไม่เห็นตา
หลังจากที่นึกได้ว่าเสด็จพี่นอนไปแล้วนั้น เขาก็แลบลิ้นอย่างขอโทษขอโพย แล้วก็ปรับเสียงให้เบาลงเล็กน้อย "ข้ากำลังคิดเรื่องเรื่องหนึ่ง จึงไม่ได้นอนขอรับ เหตุใดท่านแม่จึงมารึขอรับ?"
หนานหว่านเยียนเพื่อที่จะไม่รบกวนอันอัน จึงอุ้มน่าวน่าวไปนั่งข้างๆอย่างรวดเร็ว
นึกถึงโม่เหยียน นึกถึงกู้โม่หาน อารมณ์ของนางก็ซับซ้อนเล็กน้อย ไม่รู้จะเอ่ยปากกับลูกว่าอย่างไรดีอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
"ท่านแม่ก็นอนไม่หลับ เมื่อครู่พึ่งจะไปหาท่านยาย จึงคิดอยากจะมาดูพวกเจ้าว่ายอมเป็นเด็กดีนอนแล้วหรือไม่ คิดไม่ถึงว่าข้าจะจับแมวน้อยที่ยังไม่นอนได้พอดี"
นางจี้เอวของน่าวน่าวอย่างแผ่วเบา หยอกล้อเสียจนเจ้าก้อนแป้งต้องกดเสียงหัวเราะฮ่าฮ่า แล้วรีบอธิบายโดยเร็วว่า "ท่านแม่ ข้าเป็นเด็กดีมากนะ พวกเสด็จพี่ต่างหากที่ไม่เป็นเด็กดี เมื่อเย็นนี้พวกเขาทะเลาะกันด้วยล่ะ!"
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยทะเลาะกันงั้นรึ?!
หนานหว่านเยียนมองบุตรชายด้วยสายตาที่สงสัย ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถามอย่างยากที่จะเชื่อว่า "เจ้าแน่ใจหรือ พวกนางทะเลาะกันหรือ?"
นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกันนะ ความสัมพันธ์ของเกี๊ยวน้อยกับซาลาเปานั้นดีมาก ยามปกติไม่มีทางที่จะทะเลาะเบาะแว้งกันได้
น้ำเสียงเด็กๆที่ไม่ประสีประสานั้นดึงความคิดและอารมณ์ของหนานหว่านเยียนกลับมา นางอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เรื่องแบบนี้ ใครบอกเด็กๆอีกแล้วกัน?
นางบีบหน้าอย่างรักและทะนุถนอม ไม่นานก็เอ่ยเสียงเบาว่า "ท่านแม่จะไม่เอาเจ้าได้เช่นไรเล่า คืนนี้ท่านแม่จะนอนกันพวกเจ้า ท่านอาเย่ของเจ้านอนอยู่ห้องอักษรข้างๆ ไม่นอนกับพวกข้า"
คืนนี้นางเลือกเย่เชียนเฟิงแล้ว นั่นเพราะอยากให้ท่านน้าสบายใจ แล้วก็เพื่อให้กษัตริย์พวกนั้นทำตัวดีๆหน่อย
สำหรับนางกับเย่เชียนเฟิงจะนอนกันอย่างไร ก็จัดแจงไว้ตั้งแต่เนิ่นแล้ว เย่เชียนเฟิงนอนห้องอักษร นางนอนข้างนอกไม่ก็นอนกับพวกเด็กๆ จะนอนด้วยกันเสียที่ไหน
น่าวน่าวพลันกระโดดอย่างดีใจขึ้นมา ดีใจไม่หยุด แล้วในที่สุดก็มีอาการง่วงบ้างแล้ว "ท่านแม่ ข้าอยากนอนแล้ว......"
"ได้"
ภายในตำหนักจานกุ้ย ไม่นานตำหนักทิศใต้ก็ดับไฟลง
ยามอรุณเบิกฟ้าที่จวนองค์หญิง
หลังจากที่ลู่เจียวเจียวกลับมาจากจวนองค์หญิงนั้น ใช้ชีวิตอย่างที่เขาว่ากันว่า"เจ็บปวดรวดร้าวอย่างที่ไม่อยากมีชีวิตรอด"
แม้จะมีหมอหญิงมาคอยดูแลอยู่ข้างกายทุกวัน แต่ไม่รู้เพราะอะไร บาดแผลบนตัวของนางก็สมานตัวช้ามาก จนถึงตอนนี้ บนใบหน้าก็ยังพันผ้าบางๆไว้ มือทั้งสองข้างยังไม่ค่อยคล่องตัวเท่าไร ไม่ว่ากินหรือนอนล้วนต้องการคนช่วยพยุง
คืนนี้นางนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ไม่ว่าเช่นไรก็ไม่สบายตัว ในตอนที่เขากำลังคิดอยากเรียกโยวเอ่อเข้ามานั้น โยวเอ่อพลันผลักประตูห้อง มาเอ่ยเสียงเบาตรงหน้านางว่า "องค์หญิงท่านดูสิ!"
"ดูอะไรหา!"ลู่เจียวเจียวเขม็งใส่โยวเอ่ออย่างอารมณ์ไม่ดีทีหนึ่ง ไม่นานก็พบจดหมายฉบับหนึ่งที่โยวเอ่อกำไว้ในมือ
จดหมายฉบับนี้มองจากด้านนอกนั้นดูธรรมดา แต่ด้านหน้าเขียนไว้ว่า"องค์หญิงหงเหมิงเปิดเท่านั้น"ลายมือของหลายตัวอักษรนี้นางจำได้.....
ก็คือลายมือของคนลึกลับที่ส่งจดหมายให้นางครั้งก่อน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ อยากรู้ว่านางเอกจะใจอ่อนยอมยกโทษให้กู้โม่หานหรือเปล่า...
ฉันว่า ถ้าไม่ติดว่ามีไทเฮาคอยดูหนุนหลังรักและเอ็นดูนางเอก ป่านนี้น่าจะโดนกู้โม่หาน ทรมานจนตายล่ะ...
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...