ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 973

“เพคะ เพคะ บ่าวผิดไปแล้ว!” เสี่ยวเยว่ตกใจจนใบหน้าซีดเผือด ไม่กล้าพูดอะไรอีก ในขณะที่ลู่เซิงเซิงหยีตาลงแล้วจ้องมองไปที่ลู่ยวนหลีและหลิงหลงที่กำลังเอะอะโวยวาย นางสะบัดแขนเสื้ออย่างแรงแล้วเดินจากไป...

ในเวลาเดียวกัน ณ ตำหนักหนิงปี้

จักรพรรดินีให้ทุกคนออกไป เหลือเพียงนางและหนานหว่านเยียนสองคน

“นังหนูหว่านมานั่งสิ” นางกวักมือเรียกหนานหว่านเยียนให้นั่งข้างๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย

หนานหว่านเยียนไม่ปฏิเสธอะไร และนั่งลงอย่างเชื่อฟัง

จักรพรรดินีมองดูใบหน้าละเอียดอ่อนของหนานหว่านเยียนด้วยแววตาอ่อนโยน "นังหนูหว่านข้าได้ยินมาว่าเจ้ากลับมาพร้อมกับหงหลิงวันนี้หรือ?"

ดวงตาของหนานหว่านเยียนสั่นไหวเล็กน้อย และนางไม่ได้คิดที่จะปิดบังมัน "ใช่แล้วเพคะ"

เมื่อได้ยิน ใบหน้าของจักรพรรดินีก็เปลี่ยนไปทันที นางกังวลขึ้นมาเล็กน้อย "การเดินทางของเจ้าเป็นความลับ นางรู้ได้อย่างไร?"

“หงหลิงก่อปัญหาอีกแล้วใช่หรือไม่ หรือว่านางทำให้เจ้าลำบากใจ?”

ไม่ว่าลู่เจียวเจียวจะเป็นยังไง นางก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยท่านน้า หนานหว่านเยียนกลัวว่านางจะผิดหวังเกินไป จึงไม่พูดเรื่องที่ลู่เจียวเจียวแอบไม่ลงรอยกับนาง

ยิ่งกว่านั้นหงหลิงนางเองก็รับมือได้ ไม่จำเป็นต้องให้ท่านน้าออกหน้า นางจึงเปลี่ยนหัวข้อพูดแบบขอไปที

“ท่านน้ากังวลเกินไปแล้ว หงหลิงแค่บังเอิญผ่านเขตอู้ไห่พอดี ข้าก็เลยกลับมากับนาง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”

“ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้ายังคิดว่านางจะก่อเรื่องวุ่นวายอีก จนทำให้เจ้าเดือดร้อน” ใบหน้าของจักรพรรดินีผ่อนคลายลง นางตบมือของหนานหว่านเยียนเบาๆและพูดอย่างจริงจัง

“เจ้าก็รู้ ว่าเจ้าเด็กหงหลิงถูกข้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่นางยังเด็ก และนางคุ้นเคยกับการเอาอกเอาใจ ดังนั้นนางจึงมีนิสัยที่ค่อนข้างเย่อหยิ่งไม่มีเหตุมีผล”

“ข้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ แต่หลายปีมานี้ ข้าก็ดูแลนางกับหงหลิงประดุจบุตรีในไส้ และก็ไม่รุ้จะต้องลงโทษยังไงดี แต่ว่า หากภายหลังนางยังกล้าพูดจานินทาต่อหน้าเจ้า เจ้าจะสั่งสอนก็สอนเลย จะลงโทษก็ลงโทษได้ ไม่ต้องสนใจความเห็นข้า”

สำหรับลู่เจียวเจียวแล้ว อาจกล่าวได้ว่านางเป็นห่วงเป็นใยอย่างมาก

แต่เด็กคนไหนในโลกบ้าง ที่ไม่ทำให้พ่อแม่ต้องวิตกกังวลกัน

หนานหว่านเยียนเข้าใจความรู้สึกของจักรพรรดินีอย่างมาก ตอบกลับอย่างแผ่วเบาว่า "เพคะ หมิงหวงทราบแล้ว"

จักรพรรดินีถอนหายใจ จ้องมองไปยังหนานหว่านเยียนอีกครั้ง "ใช่สิ ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลย เกิดอะไรขึ้นตอนที่ข้าไปหากู้โม่หานเมื่อวานนี้ เขาได้รังแกเจ้าหรือเปล่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีหรือไม่?"

เมื่อกล่าวถึงกู้โม่หานดวงตาของหนานหว่านเยียนก็ทะมึนลง

ไม่รู้ว่าเมื่อวานถูกเขาจูบไปกี่ครั้ง และนานแค่ไหน หากถือเป็นการกลั่นแกล้ง แต่เรื่องแบบนี้จะให้พูดออกไปก็น่าขายหน้า นางไม่มีหน้าไปบอกท่านน้าหรอก

นิ้วที่เรียวยาวอ่อนนุ่มของหนานหว่านเยียนกำแขนเสื้อแน่นโดยไม่รู้ตัว "ทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยดี ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น และกู้โม่หานยังถือได้ว่า... สุเกรงใจข้า"

“แต่ว่า แค่เกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อยก็พอแล้ว คาดไม่ถึงว่าอันอันและน่าวน่าวเด็กน้อยสองคนนั้นจะชอบกู้โม่หานมากขนาดนี้”

จนถึงเมื่อกี้นี้ที่พวกเขากลับมาที่วัง เด็กน้อยทั้งสองยังคงเกาะติดกับเกี๊ยวน้อยและซาลาเปาน้อย ต้องการฟังเรื่องของกู้โม่หานมากขึ้น

เมื่อเห็นสีหน้าเศร้าหมองของหนานหว่านเยียน จักรพรรดินีก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ "ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถตัดขาดได้"

“กู้โม่หานเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดพวกเขา ก็สมเหตุสมผลแล้วที่พวกเขาจะชอบเขา เจ้าคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้?”

ภายในหัวของหนานหว่านเยียนยุ่งเหยิงไปหมด ลูกคือจุดอ่อนของนาง เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆอยากเจอพ่อแท้ๆ แต่.....

ตราบใดที่ท่านน้าไม่ได้จำวิธีการผิดไป นางก็สามารถตรวจสอบได้ว่าสิ่งที่กู้โม่หานพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่!

จักรพรรดินีมองไปที่หนานหว่านเยียนซึ่งกำลังครุ่นคิดอย่างหนัก และจู่ๆก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา นางเปิดปากถามด้วยความสงสัย

“นังหนูหว่านทำไมจู่ๆ เจ้าถึงสนใจพิษนี้เล่า? เจ้ารู้ไหมยาพิษ ‘แจ๋'ถูกห้ามผลิตมาเป็นเวลานานแล้ว เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่มีเพียงบุคคลผู้สูงศักดิ์ในราชวงศ์เท่านั้นที่มี เจ้า ..."

“ไม่มีอะไรหรอก”หนานหว่านเยียนขัดการคาดเดาของจักรพรรดินี นางมองจักรพรรดินี นัยน์ตาทั้งคู่ดูสงบ คาดเดาไม่ได้

“ข้าแค่สงสัยหลังจากอ่านหนังสือทางการแพทย์ ไม่คิดว่าจะมีพิษน่ากลัวที่สามารถฆ่าคนโดยที่มองไม่เห็นเช่นนี้ได้”

“ท่านก็รู้ด้วยว่าหว่านเยียนชอบศึกษาสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว ดังนั้นจึงสงสัยและอยากถามท่าน ท่านน้าไม่ต้องเป็นกังวลไป”

เมื่อเห็นว่าปฏิกิริยาของหนานหว่านเยียนดูเป็นธรรมชาติ จักรพรรดินีก็ขจัดความสงสัยไป และพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "เอาล่ะ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าจะไม่ถามต่อแล้ว"

“นั่งรถม้าเหนื่อยมาทั้งเช้าแล้ว เจ้าควรกลับไปพักผ่อนก่อน”

“เพคะ งั้นหว่านเยียนต้องขอตัว" หนานหว่านเยียนลุกขึ้นและทำความเคารพ แล้วออกไปจากตำหนักหนิงปี้ แต่แววตาของนางหลังเดินออกจากประตูก็เผยความดุร้ายขึ้นมาทันที!

หากท่านน้าชายโดนพิษจริงๆ เช่นนั้นนางก็มั่นใจว่าการลอบฆ่าในตอนนั้น จะต้องเป็นการกระทำจากพ่อบ้านกาวแน่นอน ต่อให้ไม่ใช่เจตนาเดิมของเขา แต่ต้องเป็นหยุนอี่ว์โหรวที่ยุยงอยู่เบื้องหลัง!

หว่างคิ้วของนางค่อยๆดูดุดันขึ้น สีหน้าเคร่งเครียดจนดูน่ากลัว

กาวม่านหย่วนผู้นี้ก็พอได้จริงๆ ตอนแรกไม่เพียงแต่ตาบอดจนจำนายผิดคน คาดไม่ถึงว่าเขายังทำผิดพลาดร้ายแรงเช่นนี้อีกด้วย!

นางขอสาบาน ว่านางจะตามหาเขาเจอแน่นอน และหยุนอี่ว์โหรวก็ด้วย จะชดใช้ให้ท่านน้าโม่หวิ่นหมิงด้วยชีวิต!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้