ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 1047

ทันใดนั้นอาฉวิ่นก็ปล่อยมือจากนาง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติว่า “เจ้าเป็นอะไรไป? คนแปลกหน้าบุกถึงในห้อง เจ้ากลับไม่มีลางล่วงรู้วิกฤติ ทั้งยังไม่มีความระมัดระวังเอาเสียเลย”

จื่ออันห่อตัวให้มิดชิด เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็หรี่ตาลงและมองดูเขาอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงยื่นมือออกไปดึงหน้าเขา ดึงหนวดเครากองหนึ่งออก เผยใบหน้าที่คุ้นเคยและน่ารำคาญในเวลาเดียวกัน

นางสะดุ้งโหยง ทันใดนั้นความสุขก็เติมเต็มทั้งจิตใจและหัวใจ นางกอดเขาไว้แน่น “ท่านกลับมาได้อย่างไร?”

หลังจากกอดเขาไปสักพัก จู่ ๆ นางก็จดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้

“เจ้า มู่หรงเจี๋ย เจ้าแกล้งปลอมตัวเป็นคนบ้าใบ้เพื่อทำให้ข้ากลัวหรือ?” จื่ออันโกรธมาก ยกกำปั้นขึ้นทุบเขาซ้ำ ๆ

เขาไม่ต่อต้านหรือหลบเลี่ยง “รีบตีให้พอใจเร็ว ข้ายังอยากทำอย่างอื่นอยู่”

นางตะคอกและเอ่ยว่า “ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย คืนนี้อย่าได้คิดจะแตะต้องข้าด้วย ใครบอกให้ท่านทำข้ากลัวเช่นนั้นกัน”

“ใครคิดจะแตะต้องเจ้า ข้าแค่อยากอาบน้ำ ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน ฝุ่นเต็มตัวไปหมด” หลังจากที่มู่หรงเจี๋ยพูดจบ เขาก็เลื่อนตัวลงไปอยู่ในอ่างแล้ว ส่งเสียงครางด้วยความสบาย

จื่ออันอดไม่ได้ที่จะทุกข์ร้อนตามเขา เดินอ้อมอ่างไปเพื่อช่วยสระผม ผมของเขาไม่ได้สระมาเป็นเวลานาน ทำให้เส้นผมยุ่งเหยิงพันกันไปหมด จื่ออันบีบแชมพูที่เตรียมไว้แล้วลูบเบา ๆ ให้เขา

“ในที่สุดก็ได้กลับบ้าน” มู่หรงเจี๋ยถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยื่นมือออกไปจับข้อมือของนางไว้ ลากนางให้โน้มตัวลงมาข้างหน้าพร้อมกับจ้องมองนาง “ตอนที่ข้าอยู่ที่ชายแดน ข้าสาบานกับตนเองไว้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ได้เจอหน้าเจ้า ข้าจะพูดคำคำนี้อย่างตรงไปตรงมา”

จื่ออันรู้ว่าเขาไม่ค่อยพูดจาดี ๆ สักเท่าไหร่ เขามักจะเป็นเช่นนี้เสมอ มองนางอย่างจริงจัง พูดด้วยความรักเป็นบางครั้ง แต่คำพูดจากปากเขาอาจทำให้นางสำลักตายได้

นางล้างหน้าด้วยฟองสบู่บนมือ แล้วกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ได้ บอกข้ามาสิว่าท่านอยากพูดอะไร ข้าพร้อมรับฟังแล้ว”

เขาจับมือนางแล้วเอ่ย “ข้ากำลังจะพูดถึงเรื่องที่จริงจังมาก ดังนั้นเจ้าอย่าเพิ่งยุ่งอยู่กับอะไรสิ”

“เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าว่างแล้ว ท่านพูดได้เลย” จื่ออันจุ่มมือลงในอ่างแล้วมองหน้าเขา

“ข้ารักเจ้า” จู่ ๆ มู่หรงเจี๋ยก็ระเบิดคำสามคำนี้ออกมา

จื่ออันตกใจอยู่ครู่หนึ่ง “ท่านว่าอย่างไรนะ?”

ข้าหูฝาดไปหรือไม่? เขากล่าวสามคำนี้ออกมาจริง ๆ หรือ? แม้ว่านางจะรอคอยคำอื่น แต่สามคำนี้ก็ไม่เลวเช่นกัน

“มานี่!” มู่หรงเจี๋ยจับมือนาง ดึงนางมาอยู่ตรงหน้า แล้วพรมจูบริมฝีปากแดงเรื่อของนาง

จื่ออันเช็ดผมให้แห้ง จากนั้นทั้งสองก็นอนบนเตียงโดยห่มผ้าห่มผืนเดียวกัน

“ท่านกลับมาเช่นนี้ แล้วที่นั่นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? กองทัพทหารของเราเล่า? แล้วจะทำอย่างไรกับสงคราม?”

“เซียวเซียวไปอยู่ที่นั่นแทนข้าแล้ว เหตุที่เซียวท่าและซู่ชิงยืนกรานที่จะรอจนถึงตอนนี้ ก่อนกลับมายังเมืองหลวง ก็เพื่อรอให้เซียวเซียวตามไปสมทบ ตั้งแต่วันที่ข้าได้รับพระราชโองการ ข้าก็ไปที่ภูเขาน้ำแข็ง แต่ข้าก็ยังต้องรอคอยการมาถึงของเขา ใช้เวลากว่าสิบวันเขาจึงไปถึงที่หมาย”

“เซียวเซียวหายดีแล้วหรือ?” จื่ออันดีใจมาก “จ้วงจ้วงคงมีความสุขมากแน่หากนางรู้”

“ใช่แล้ว” มู่หรงเจี๋ยใช้นิ้วของเขาเล่นผมของนาง

“แต่มันเหมาะสมหรือไม่ที่เซียวเซียวจะเข้าไปรับหน้าที่แทนที่ท่าน ในขณะที่ท่านแอบกลับเมืองหลวงเป็นการส่วนตัว? ฝ่าบาทรู้หรือไม่? จะไม่เป็นการสร้างปัญหาหรอกหรือ?” จื่ออันถามอย่างกังวล

“จริงหรือ? ท่านอย่ารับปากสุ่มสี่สุ่มห้าไปหน่อยเลย ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต?” จื่ออันไม่เชื่อคำพูดของชายคนนี้ เมื่อเขาพูดเช่นนี้ เขาอาจจะหมายความเช่นนั้นอย่างจริงใจ แต่ความจริงใจของผู้ชายสามารถเปลี่ยนแปลงได้ บางครั้งพวกเขาอาจไม่เต็มใจ ทว่าไม่มีทางเลือกอื่น ในทางกลับกัน ผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน

จื่ออันไม่รู้ว่าทำไม แต่จู่ ๆ นางก็กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย อาจเป็นเพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้มีเหตุให้ทุกข์ใจมากเกินไป

ช่างเถอะ แค่มีเขาอยู่ที่นี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่นางได้เขากลับมาอยู่เคียงข้าง ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเซียวยังหายดีแล้ว นี่ถือเป็นข่าวดีที่ชวนให้มีความสุขที่สุดในวันนี้

จื่ออันนอนคว่ำหน้าอยู่ รู้สึกว่าศีรษะของตนเองคันยุบยิบแปลก ๆ จึงยื่นมือออกไปเกามัน “แปลกจริง เมื่อคืนนี้ข้าเพิ่งสระผมแท้ ๆ เหตุใดจึงรู้สึกคันขนาดนี้?”

มู่หรงเจี๋ยกระแอมไอแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นคืนพรุ่งนี้ค่อยสระอีกทีก็ได้”

“ได้!” จื่ออันเตรียมเข้านอน “นอนกันเถอะ ท่านคงเหนื่อยมากเช่นเดียวกัน”

มู่หรงเจี๋ยย่องขึ้นไปบนเตียง หยิบเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งมาพันรอบศีรษะของตนเองไว้

“ท่านคลุมหัวทำไมน่ะ?” จื่ออันถามด้วยความแปลกใจ

“ข้าชินแล้ว บริเวณชายแดนมีลมแรง มีพายุทราย อากาศยามค่ำคืนก็หนาวเหน็บ ข้าต้องเอาบางอย่างมาพันไว้รอบหัวเวลานอน ไม่อย่างนั้นจะเป็นหวัดเอาได้” มู่หรงเจี๋ยนอนตะแคงมองหน้านาง

“สองเดือนที่ผ่านมาคงหนักหนามากสินะ” จื่ออันมองเขาอย่างเศร้าใจ แม้ว่าเขาจะเคยออกสู่สนามรบบ่อยครั้งเมื่อก่อนหน้านี้ แต่หลายปีที่ผ่านมาเขาก็อยู่ในเมืองหลวงเป็นส่วนใหญ่ เมื่อต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบนอนกลางดินกินกลางทรายในที่เปิดโล่งแบบนั้น เขาอาจจะปรับตัวไม่ทันก็ได้

“กลางสนามรบมีสิ่งใดไม่หนักหนาบ้าง? อาชีพทหารก็เป็นเช่นนี้” มู่หรงเจี๋ยเอื้อมมือไปปิดตานางพร้อมกระซิบว่า “นอนเสียเถิด”

จื่ออันจะยอมนอนหลับไปในอ้อมแขนเขาได้อย่างไร? นางกลัวจริง ๆ ว่าหากตนหลับไปแล้ว เมื่อตื่นขึ้นอาจพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์