“จื่ออัน ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ!” นางเดินเข้ามาภายในท้องพระโรง ขณะที่มู่หรงเจี๋ยยืนอยู่ข้างนอก
องค์จักรพรรดิจ้องมองนาง พลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องมากพิธี นั่งลงเถิด”
“ขอบพระทัยฝ่าบาทเพคะ!” จื่ออันรู้ถึงจุดประสงค์ขององค์จักรพรรดิในการเชิญนางเข้ามาในพระราชวังครั้งนี้อย่างดี ถึงกระนั้นนางยังคงเผยท่าทีนิ่งเฉย
“ตอนนี้แม่ของเจ้าเข้ามาอาศัยอยู่ในวังแล้ว ข้าคิดว่านางจะอยู่ที่นั่นเสียอีก ในฐานะลูกสาว เจ้าควรจะไปพบหน้านางบ่อย ๆ แต่ข้าก็ไม่เห็นเจ้าไปที่นั่นเลย” องค์จักรพรรดิเริ่มกล่าวทักทาย
จื่ออันตอบด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ของหม่อมฉันเข้าวังเพื่อสอนศิลปะแก่องค์หญิงและองค์ชาย แล้วจื่ออันจะรบกวนนางบ่อย ๆ ได้อย่างไร? หากเป็นเช่นนั้น องค์จักรพรรดิจะไม่ตำหนิจื่ออันหรือเพคะ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” องค์จักรพรรดิระเบิดหัวเราะ “เจ้าช่างเจรจาเสียจริง บางทีมันอาจจะเรียกว่าทั้งรักทั้งเกลียดก็ได้กระมัง”
“องค์จักรพรรดิยกย่องเกินไปแล้วเพคะ” จื่ออันคลี่ยิ้มเช่นกัน ถึงกระนั้นนางก็ยังรู้สึกว่าคำกล่าวทักทายของอีกฝ่ายชวนอึดอัดใจเกินไป ดังนั้นจึงตัดสินใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
เห็นได้ชัดว่าแท้จริงแล้วองค์จักรพรรดิไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นอย่างแท้จริง เขาจึงรีบโพล่งถามว่า “จริงสิ อ๋องเจ็ดส่งจดหมายถึงเจ้าบ้างหรือไม่?”
“ไม่เพคะ” จื่ออันส่ายหน้า
“เจ้าเด็กคนนั้นไม่เคยส่งจดหมายถึงเจ้าเลยรึ ให้ตายสิ ข้านึกว่าเขาส่งจดหมายให้เจ้าเป็นการส่วนตัวเสียอีก”
“องค์ชายคงยุ่งอยู่กับการจัดการกองทหารและรูปแบบกองทัพ แล้วเขาจะมีเวลาว่างเขียนจดหมายถึงหม่อมฉันหรือเพคะ?” เนื่องจากในตอนนี้มู่หรงเจี๋ยแฝงตัวอยู่ในเมืองหลวงแล้ว ดังนั้นจื่ออันจึงอดเป็นกังวลไม่ได้
“หืม จริงรึ?” องค์จักรพรรดิมองนางด้วยสายตาเฉียบคม สีหน้าและน้ำเสียงของเขาต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
จื่ออันจ้องมองเขาพร้อมรู้สึกหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่รู้ว่าเหตุใดวันนี้พระองค์ถึงเรียกจื่ออันมาเข้าเฝ้า เกิดอะไรขึ้นหรือเพคะ?”
องค์จักรพรรดิสงวนท่าทีพลางกล่าว “เรื่องมีอยู่ว่าอ๋องเป่ยโม่ฉีส่งสาส์นตราตั้งมาถึงข้าว่าภัยพิบัติทางธรรมชาติในเป่ยโม่ทำให้เกิดโรคระบาดร้ายแรง เป็นผลให้มีประชาชนล้มตายนับหมื่นคน ดังนั้นเป่ยโม่จึงขอความช่วยเหลือจากแผ่นดินต้าโจว ข้าจึงหวังว่าเจ้าและผู้ช่วยจะสามารถยับยั้งโรคระบาดนี้ได้ เจ้ามีข้อสงสัยหรือไม่?”
แม้จะไม่พอใจที่สามีของนางต้องเดินทางกลับมาเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ แต่ก็ยังดีว่าถกเถียงเรื่องของราชสำนักต่อหน้าองค์จักรพรรดิ
“อืม” องค์จักรพรรดิตอบอย่างนิ่งเฉยขณะเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย เป่ยโม่จะทำตามสัญญาหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องสนใจ ข้าถามเจ้าว่าเจ้าสมัครใจที่จะไปที่นั่นหรือไม่?”
จื่ออันตอบได้เพียงว่า “หากฝ่าบาทรับสั่งให้จื่ออันไปที่นั่น จื่ออันก็ต้องไปเพคะ”
ดูเหมือนว่าองค์จักรพรรดิจะพึงพอใจกับคำตอบของนางยิ่งนัก จากนั้นเขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “อย่ากังวลไป ข้าจะส่งองครักษ์ไปปกป้องเจ้า ดังนั้นเจ้าจะไม่ได้รับอันตรายจากเป่ยโม่อย่างแน่นอน”
จื่ออันเผยท่าทีเชื่อฟังพลางกล่าว “เพคะ จื่ออันจะปฏิบัติตามรับสั่งของฝ่าบาทอย่างเคร่งครัด”
องค์จักรพรรดิกล่าว “ข้าจะแจ้งอ๋องเจ็ดเกี่ยวกับเรื่องนี้เอง เจ้าจะได้ออกเดินทางด้วยความสบายใจ หากเจ้าทำได้ดีและสงครามสงบลงแล้ว อ๋องเจ็ดก็สามารถกลับมายังเมืองหลวงได้”
จื่ออันรู้ดีว่าอ๋องเจ็ดจะรับมือเรื่องนี้ด้วยตนเอง ดังนั้นนางจึงกล่าวมากกว่านี้ไม่ได้ “เพคะ จื่ออันขอทูลลา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...