ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ นิยาย บท 1072

งานเลี้ยงอาหารค่ำในวังหลังเริ่มต้นเมื่อสิ้นสุดยามโหย่ว ทั่วพระราชวังประดับประดาไปด้วยแสงไฟและของตกแต่งจำนวนมาก ทั้งหมดถูกจัดการจนแล้วเสร็จภายในวันเดียวอย่างพิถีพิถัน ด้วยคำสั่งของสนมเหมย

ทั้งขุนนางวังหลังและสนมเหมยต่างก็ทำงานเข้ากันได้ดี ตอนนี้ผู้ตรวจการแห่งวังหลังก็เริ่มคุ้นเคยกับการรายงานความคืบหน้าต่อสนมเหมย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ แม้ว่าสนมอี้จะเป็นถึงกุ้ยเฟย แต่ปัจจุบันสมาชิกวังหลังถือว่าสนมเหมยคือผู้นำของพวกนาง แม้กระทั่งจักรพรรดิก็ดูเหมือนจะยอมรับนางเช่นเดียวกัน

สนมเหมยไม่มีครอบครัวเดิมให้พึ่งพา ดังนั้นจักรพรรดิจึงรู้สึกสบายใจเป็นธรรมดาเมื่อเรียกใช้นาง

ในความคิดของจักรพรรดิ สนมอี้เคยเป็นคนประพฤติชอบมาก่อน ทว่านับตั้งแต่เขาประชวร เขาก็เริ่มตระหนักถึงความคิดเล็กคิดน้อยหลายประการของสนมอี้ ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับสนมอี้และองค์ชายที่จ้องจะก่อกบฏก็ค่อย ๆ ดังไปถึงหูของจักรพรรดิ แม้ว่าเขาจะทราบความจริงแน่ชัด แต่ย่อมมีความแค้นในใจแน่นอน

ข่าวลืออาจจะมาจากไหนสักแห่ง แต่ก็ใช่ว่าจะไร้มูลเหตุเสียทีเดียว

ดังนั้นภายในงานเลี้ยงอาหารค่ำคืนนี้ เขาจึงเรียกให้สนมเหมยมานั่งเคียงข้างเขา แทนที่จะเป็นสนมอี้

อ๋องเยี่ยได้รับคำสั่งให้นำผู้คนไปลาดตระเวนรอบ ๆ พระราชฐานในค่ำคืนนี้ ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดและชินอ๋อง ที่จริงเขาควรเข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนี้ด้วย แต่จักรพรรดิกลับส่งเขาออกไปแทน

เห็นได้ชัดว่าเขากลัวว่าอ๋องเยี่ยจะทำการใด ซึ่งผิดไปจากที่เขาคาดหวัง

งานเลี้ยงอาหารค่ำเพิ่งจะเริ่มต้นได้ไม่นาน ก่อนที่จักรพรรดิจะมีเวลาพูดอะไรสักสองสามคำ เขาก็เห็นอ๋องเยี่ยพาคนของเขาเดินเข้ามา

จักรพรรดิขมวดคิ้ว คืนนี้เขาถูกส่งให้ออกไปลาดตระเวนข้างนอกไม่ใช่หรือ?

อ๋องเยี่ยเดินตรงไปหา ลู่กงกงจึงเดินลงไปคำนับทันที “อ๋องเยี่ย ท่านไม่ได้กำลังลาดตระเวนอยู่ข้างนอกหรอกหรือ? เข้ามาที่นี่ทำไมกัน?”

อ๋องเยี่ยตอบกลับเบา ๆ “กงกง ข้ามีเรื่องต้องทูลรายงานต่อฝ่าบาท”

“หากไม่ใช่เรื่องที่สำคัญไปกว่าการต้อนรับแขกต่างชาติในคืนนี้ ไว้ค่อยทูลรายงานวันพรุ่งนี้ดีหรือไม่?” ลู่กงกงกล่าวอย่างชอบธรรม

อ๋องเยี่ยกล่าว “สำคัญมาก”

ลู่กงกงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยพูดว่า “อ๋องเยี่ย เช่นนั้นโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปกราบทูลฝ่าบาทก่อน”

การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของอ๋องเยี่ยทำให้ทุกคนกังวลเล็กน้อย เพราะทุกคนต่างรู้ว่างานหลักของเขาในคืนนี้คือการลาดตระเวนรอบนอกเขตพระราชฐาน

หลังจากได้ยินรายงานของลู่กงกงแล้ว องค์จักรพรรดิก็ตรัสว่า “ให้เขาเข้ามา”

“ที่แห่งนั้นเป็นโกดังสำหรับพักแรมชั่วคราว ไม่มีการเฝ้าระวัง เมื่อแม่ทัพจางพาคนเข้าไปตรวจค้น ก็เห็นชายคนหนึ่งลักลอบหลบหนี แม่ทัพจางส่งคนไปไล่ล่าเขาทันที แต่สุดท้ายแล้วชายคนนั้นกลับหนีเข้าไปใน…” เมื่ออ๋องเย่กล่าวมาถึงตรงนี้ เขาก็หยุดชั่วคราว และมองไปที่จักรพรรดิอย่างลังเล

จักรพรรดิรู้ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงตรัสถาม “เขาเข้าไปที่ไหน?”

อ๋องเยี่ยกล่าวต่อ “แม่ทัพจางรายงานว่าเขาไล่ตามชายคนนั้นไปตลอดทาง และพบว่าเขาหลบหนีเข้าไปในตำหนักของอ๋องหนานหวาย”

เมื่อจักรพรรดิได้ยินดังนั้น ใบหน้าของเขาก็ตกตะลึงแข็งค้างไปครู่หนึ่ง “จริงหรือ?”

“กระหม่อมไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกำลังลาดตระเวนรอบเขตพระราชฐาน แม่ทัพจางเร่งรุดมารายงานกระหม่อมตัวด้วยตนเอง จากนั้นกระหม่อมก็เข้ามารายงานต่อฝ่าบาท ขอฝ่าบาทโปรดตัดสินใจว่าจะออกคำสั่งให้เข้าตรวจค้นหรือไม่?”

จักรพรรดิคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตรัสว่า “เรียกแม่ทัพจางมาพบข้า”

ใช่ว่าเขาไม่เชื่อคำกล่าวของอ๋องเยี่ยอย่างสมบูรณ์ แต่เนื่องจากอีกฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับมู่หรงเจี๋ย ดังนั้นจึงยากจะคาดเดาว่าเขามีแผนการใดแอบแฝงหรือไม่

ลู่กงกงออกไปแจ้งแม่ทัพจาง ซึ่งกำลังรอข่าวจากอ๋องเยี่ยอยู่นอกพระราชวัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์