ทางด้านของจื่ออันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดี ทว่าทางด้านของกุ้ยไท่เฟยเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ
อ๋องหนานหวายกลับมาด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง หลังจากที่เข้ามาแล้วก็หย่อนบั้นท้ายนั่งลง และก็ไม่เอ่ยอะไร ได้แต่คร่ำครวญอยู่คนเดียว
กุ้ยไท่เฟยรู้ว่าเขาโมโหเรื่องอะไร จึงเอ่ยออกมาอย่างใจเย็น “เอาเงินมัดจำกลับมา ชุดนี้ไม่ต้องการแล้ว รอชุดต่อไป”
“แล้วจะเอากลับมาได้อย่างไร? คนพวกนั้นจ่ายเงินมัดจำเป็นสองเท่าให้กับพรรคอู่หลิน ตอนนี้พวกเราไม่ต้องการธนูเหล่านั้นแล้ว ยังต้องให้พวกเราจ่ายเงินมัดจำเป็นสองเท่าอีกด้วย ข้าบอกแล้วให้รอก่อน เมื่อแน่ใจเรื่องนี้แล้วค่อยหาพวกเขา มาตอนนี้เรียบร้อยแล้วกลายเป็นว่าเสียเงินจำนวนมากไปโดยเปล่าประโยชน์” อ๋องหนานหวายเอ่ยออกมาด้วยความขุ่นเคือง
กุ้ยไท่เฟยหงุดหงิดอย่างมาก “ใครจะไปรู้ว่าเขายังจะเหลือไม้นี้เอาไว้? นี่เดิมที่ก็เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว จู่ ๆ ก็มามีจดหมายปลดภรรยาเปลี่ยนแปลงตัวเลือกไปเสีย และยังให้เจ้าไปครวจสอบคดีของเหยาจื่อนั่น”
“เขาเป็นคนที่รับมือได้โดยง่ายเสียที่ไหนกัน? หากว่าโง่เขลาเช่นนี้ ลูกก็คงจะไม่อาจกลับเมืองหลวงมาได้หลายปีเช่นนี้หรอก เรื่องที่ท่านร่วมมือกันกับเหลียงซู่หลินเขาคงจะรู้แต่เนิ่นแล้ว เรื่องที่เหลียงซู่หลินช่วยเหลือใต้เท้าซุย เดิมที่ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ เกรงก็แต่ว่าตอนนี้จะถูกรายงานไปถึงทางด้านของหวงไท่โฮ่วแล้ว”
กุ้ยไท่เฟยนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาฉายแววคับแค้นใจ “ข้าประเมินเขาต่ำเกินไป ข้าเพียงแต่คิดว่าอย่างน้อยเขาคงจะคิดถึงความเป็นแม่ลูกบ้าง ต่อให้จะรู้ว่าข้าและเหลียงซู่หลินจะร่วมมือกัน อย่างมากเขาก็อาจจะหาผลประโยชน์จากในนั้น ใครจะคิดว่าเขาจะตัดทางหนีไปเสียเลย เขาบ้าไปแล้วจริง ๆ ตนเองก็ไม่คิดที่จะเป็นองค์จักรพรรดิ แล้วทำไมถึงไม่ยอมให้เจ้าเป็น? เขาพยายามถึงเพียงนี้ ไม่ใช่เพื่อตำแหน่งขององค์จักรพรรดิ และก็ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สมบัติ ท้ายที่สุดแล้วเพื่ออะไรกัน?”
“เสด็จแม่ช่างคิดได้อย่างไร้เดียงสาเสียจริง ท่านจะฆ่าเขาอยู่แล้ว แล้วเขาจะคิดถึงความสัมพันธ์แม่ลูกได้อย่างไร? หัวใจของเขาทำมาจากก้อนหิน ไม่มีทางใจอ่อนกับใคร”
“เขาปฏิบัติไม่เลวร้ายต่อเซี่ยจื่ออัน” กุ้ยไท่เฟยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าคิดว่าเซี่ยจื่ออันเป็นอย่างไร? จะสามารถเริ่มลงมือจากทางนางได้หรือไม่? ข้าไม่เชื่อหรอกว่านางจะไม่อยากเป็นฮองเฮา”
“ความรู้สึกก็มีราคาของมันอยู่ อีกทั้งพวกเขาเพิ่งอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน แล้วจะมีความรู้สึกมาจากที่ใดกัน?” กุ้ยไท่เฟยไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เรียกว่าความรู้สึก คนหนึ่งคนหนึ่งชีวิตไม่อาจไล่ตามได้เพียงแค่ความรู้สึก โดยที่ไม่อาจไล่ตามสิ่งที่จับต้องได้ “อีกทั้งนางว่านางเป็นคนที่ฉลาดแล้ว ก็ควรจะรู้ว่ามู่หรงเจี๋ยไม่คิดที่จะเป็นจักรพรรดิ ตอนนี้เขาเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่เรียกลมฝน ล่วงเกินคนไปมากมาย หากว่าไม่ได้ประโยชน์บางอย่างแล้ว ในตอนที่ลงจากอำนาจ แล้วนางจะทำอย่างไร? อำนาจเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น มีเพียงแค่มีเงินอยู่ในมือเท่านั้นถึงจะเป็นของจริง”
“พวกเราจะไปเอาเงินจากที่ใดมาซื้อตัวนางกัน?”
“เซียวเซียวเป็นตายยังไม่แน่นอน หากว่าเซียวเซียวตายไป ทรัพย์สมบัติของจ้วงจ้วงก็ตกลงไปในมือของตระกูลเซียว ตอนนี้มู่หรงเจี๋ยยังคงมีอำนาจอยู่ เขาสามารถออกคำสั่งให้รวบรวมทรัพย์สมบัติของจ้วงจ้วงกลับคืนเข้าสู่คลังของแคว้น แน่นอนว่าท้ายที่สุดแล้วจะกลับคืนเข้าสู่คลังของแคว้น เซี่ยจื่ออันก็สามารถลงมือได้”
“มู่หรงเจี๋ยจะเชื่อฟังเซี่ยจื่ออันอย่างนั้นหรือ?” อ๋องหนานหวายรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ เขาไม่เหมือนกันกับกุ้ยไท่เฟย กุ้ยไท่เฟยใช้ลักษณะนิสัยของตนเองในการคิดทุกเรื่อง นางคิดว่าทุกคนล้วนแต่สามารถซื้อตัวได้ เหมือนดั่งมู่หรงเจี๋ยที่ไม่ต้องการสิ่งใดนั้น แทบจะไม่มีอยู่ เซี่ยจื่ออันบุตรสาวที่ไม่ได้รับความโปรดปรานจากจวนมหาเสนาบดี มาจนถึงตำแหน่งของพระชายาผู้สำเร็จราชการแทนนั้น จะต้องใช้กลวิธีมาแล้วไม่น้อย นางเป็นคนที่มีความต้องการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...