หวงไท่โฮ่วมองไปยังองค์จักรพรรดิที่ทรงพิโรธ หัวใจราวกับถูกมีดทิ่มแทง นางนั่งลงบนเตียง กุมมือองค์จักรพรรดิเอาไว้ “ลูกแม่ แม่ยังอยู่ จะต้องอดทนเอาไว้”
องค์จักรพรรดิลืมตาขึ้นมา พยายามที่จะมองไปยังหวงไท่โฮ่ว เขาถอนหายใจออกมา
“เสด็จแม่ ข้าเกรงว่าจะไร้ประโยชน์…”
“อย่าพูดจาเหลวไหล อย่าได้พูดจาเหลวไหล” ในใจของหวงไท่โฮ่วเกิดความเศร้าสลดขึ้นมา ร้องไห้ไปพลางตรัสไป “เจ้าจะยินยอมให้พระชายาผู้สำเร็จราชการแทนเข้าวังมาดูอาการป่วยของเจ้าหรือไม่? หากว่าเจ้ายินยอม ข้าจะออกพระราชเสาวนีย์เดี๋ยวนี้”
“ไม่…” หน้าอกขององค์จักรพรรดิส่งเสียงครวญดังออกมา หายใจราวกับสูบลมเข้าไป กระทั่งราวกับว่าแทบจะทำให้ไม่อาจจับเส้นเสียงได้
ลู่กงกงและเปากงกงที่คอยรับใช้อยู่ด้านหน้าคุกเข่าลงพร้อมกัน “องค์จักพรรดิ ทักษะการแพทย์ของพระชายาสูงส่ง ไม่สู้เชิญนางเข้าวังมาวินิจฉัยอาการให้พระองค์เถิดพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่…” องค์จักรพรรดิยังคงปฏิเสธต่อไป คราวนี้ยิ่งหอบหายใจหนักกว่าเก่า สีหน้ากลายเป็นสีดำแดง ราวจะขาดลมหายใจอย่างไรอย่างนั้น
เรือนพักชาวบ้านถนนเมืองตะวันออกในเมืองหลวง
เซี่ยหว่านเอ๋อเช่าเรือนพักอยู่ที่นี่ เงินหนึ่งร้อยตำลึงนั่นใช้หมดไปแต่เนิ่นแล้ว ภายหลังเฉินหลิงหลงมาตามหานาง ค่าใช้จ่ายของสองแม่ลูกจึงจำต้องอาศัยเฉินหลิงหลงออกไปหาคนป่าให้ช่วยเหลือ ถึงแม้นางจะบอกว่ากลับมามีความสัมพันธ์กับรัชทายาทใหม่อีกครั้งแล้ว ทว่าในใจของนางกระจ่างแจ้งดี นางไม่อาจเป็นพระชายารัชทายาทได้ ฉะนั้นนางจะต้องคอยแต่งกายให้ตนเองฉุดรั้งหัวใจของรัชทายาทเอาไว้ ทางที่ดีที่สุดคือมีลูกชายลูกสาว ต่อให้จะไม่อาจเข้าวังได้ อย่างน้อยก็ได้เป็นฮูหยินอย่างไร้กังวล มีเพียงเช่นนี้ ถึงจะเป็นแผนการที่ดีที่สุด
เพราะอย่างไรแล้ว นางก็ไม่อาจแต่งงานกับผู้อื่นได้ ไม่มีใครยินดีรับนาง บุตรสาวของขุนนางต้องโทษ
นางหยิบกระเป๋าเงินของเฉินหลิวหลิ่วออกมา ในกระเป๋าเงินนั้นมีเศษเงินและตั๋วเงินอยู่ ตั๋วเงินนั้นจำนวนสามร้อยตำลึง เป็นตั๋วเงินของร้านติ้งเฟิง แน่นอนว่านางคงไม่โง่เขลาถึงขั้นที่จะนำมันออกมาตอนนี้
เครื่องประดับชั้นดีหลายชิ้น ล้วนแต่เป็นของดี เป็นบุตรสาวของจวนมหาเสนาบดีมาตั้งหลายปี แน่นอนว่านางย่อมแยกแยะออกว่าของชิ้นไหนราคาถูก ชิ้นไหนราคาสูง ต่างหู หมวก กำไลรวมกันแล้ว ก็มีมูลค่าหลายร้อยตำลึง อย่างน้อยก็สามารถให้นางสุรุ่ยสุร่ายไปได้ถึงหนึ่งปี
นางนำของเหล่านี้แอบซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี เมื่อได้ยินเสียงด้านนอกดังขึ้น นางก็เปิดประตูเดินออกไปด้านนอก “เงินรางวัลที่ตระกูลเฉินมอบให้เล่า? ท่านจะต้องแบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง”
“ท่านอย่าได้เอ่ยมาเสียให้น่าฟังเช่นนั้น คนที่เลี้ยงดูแลข้าไม่ใช่ท่าน ท่านก็เพียงแต่คลอดข้ามาก็เท่านั้น รอข้าตายไป ข้าจะคืนศพให้ท่านเป็นพอ อย่างไรก็ตาม เงินนี้จะต้องแบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง”
เฉินหลิงหลงจับกระเป๋าเสื้อโดยที่ไม่รู้ตัว ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน “อย่าได้คิดฝันไปเลย!”
เซี่ยหว่านเอ๋อเมื่อเห็นว่านางยังคงยืนกรานไม่มอบให้ จึงก้าวมาด้านหน้าลงมือแย่งชิง เอ่ยออกมาอย่างดุร้าย “ท่านยังกล้าจะเก็บเอาไว้คนเดียวอีกหรือ? หากว่ามิใช่ข้า แม้แต่สตางค์เดียวท่านคงไม่ได้มา”
“เจ้าพูดจาเหลวไหล คนนั้นเป็นข้าที่พบเข้า และก็เป็นข้าที่ให้คนยกเข้ามา เจ้าก็เพียงแต่ตามไปด้วยก็เท่านั้น ถือดีอะไรให้ข้าแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง? ออกไป!” เฉินหลิงหลงผลักนางออกไปด้วยความโมโห
“ท่านคิดว่าล้วนแต่เป็นความดีความชอบของท่านงั้นหรือ? หืม ท่านลองดูขวานในห้องเก็บฟืนเสียก่อน หากไม่ใช่ข้าที่ฟันจนนางบาดเจ็บ ท่านคิดว่าท่านจะได้เงินห้าสิบตำลึงมาโดยเปล่า ๆ หรือ?” เซี่ยหว่านเอ๋อเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา
เฉินหลิงหลงเก็บมือกลับมา มองยังนางด้วยความตกตะลึง “เจ้าว่าอะไรนะ? เป็นเจ้าที่ฟัน? เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? นางเป็นคนของตระกูลเฉินเชียวนะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...