ซุนฟางเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น ใบหน้าของนางซีดเซียวทว่าเยือกเย็น “เจ้าค่ะ มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้วิธีรักษาพิษของกู่ร่วมชะตา หนอนกู่ต้องการเลือดของผู้ที่ฝังมันเข้าไป ดังนั้นหากท่านต้องการรักษา หนอนกู่ในตัวท่านต้องกินเลือดของข้า… หากข้าตาย ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อีก”
ดวงตาของอ๋องหนานหวายเปลี่ยนเป็นแดงก่ำด้วยความโกรธขึ้ง แต่แล้วเขาก็ระงับมันไว้ นั่งลงตรงขอบเตียง แล้วเอื้อมมือไปลูบแก้มเนียนเปล่งปลั่งของซุนฟางเอ๋อร์ “ดีมาก เช่นนั้นข้าควรไว้ชีวิตเจ้าใช่หรือไม่?”
ซุนฟางเอ๋อร์นิ่งเงียบไปชั่วขณะ “ฟางเอ๋อร์เพียงกล่าวเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น”
“เจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าเจ้าหรือ?” อ๋องหนานหวายฝืนยิ้มข่มความโกรธ
ซุนฟางเอ๋อร์มองอ๋องหนานหวาย “หรือไม่ใช่เล่าเจ้าคะ?”
อ๋องหนานหวายจ้องมองนาง ทันใดนั้นก็เผยรอยยิ้ม ยื่นมือออกไปตบแก้มนางเบา ๆ สองครั้ง “เจ้าฉลาดมาก แต่ความฉลาดก็ถูกความฉลาดของเจ้าก็เป็นภัยเช่นเดียวกัน เจ้าคงยังไม่ยอมแพ้ให้แก้มู่หรงเจี๋ยหรอกใช่หรือไม่?”
“ไม่ ข้ายอมแพ้แก่ชายที่ไร้ซึ่งความรู้สึก” ซุนฟางเอ๋อร์ปฏิเสธ
“เจ้าเปล่ายอมแพ้ เพียงแต่เจ้าทำอะไรไม่ได้ เขาไม่ใช่ชายที่ไร้ซึ่งความรู้สึก ในขณะที่เขาไม่ได้รักเจ้า เขากลับดีกับเซี่ยจื่ออันอย่างมาก”
“นั่นเป็นเพียงภาพที่เสแสร้งแสดงให้ผู้อื่นเห็นเท่านั้น ในเมื่อเขาไม่ได้รักข้า แล้วเขาจะรักเซี่ยจื่ออันได้อย่างไร?” ซุนฟางเอ๋อร์ไม่เชื่อเลย นางมั่นใจในความงามของตนเองยิ่งนัก
ก่อนหน้านั้น นางเคยฝังกู่เสน่ห์ไว้ในตัวมู่หรงเจี๋ย ทว่ามู่หรงเจี๋ยกลับไม่ได้รับผลใด ๆ เลยจากมัน นี่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเป็นคนที่ไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ตราบใดที่ในใจเขามีความคิดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งความรักเพียงน้อยนิดในตัวนาง กู่นั้นย่อมสำแดงฤทธิ์
อย่างไรก็ตาม เขารอดพ้นจากมันไปได้ แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นชายที่ไร้ความรู้สึก
อ๋องหนานหวายเผยสีหน้าเหี้ยมเกรียม “เจ้าลองดูสิ อย่างไรก็ตาม แผนการที่เจ้าเสนอมาจะต้องผูกมัดเซี่ยจื่ออันไว้ได้อย่างแน่นอน คราวนี้ขึ้นอยู่กับมู่หรงเจี๋ยแล้วว่าจะปฏิบัติต่อเซี่ยจื่ออันอย่างไรในเวลานั้น”
ซุนฟางเอ๋อร์กล่าวอย่างมั่นใจ “เขาไม่มีวันสังหารนาง อย่างมากก็ทำเพียงขับไล่นางออกไปเท่านั้น เขาทำเช่นนี้มาโดยตลอด ท่านไม่รู้หรือ?”
จื่ออันขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ต่อไปนี้ นอกเหนือจากรายการบัญชีที่ต้องแจกแจงอย่างละเอียดในแต่ละเดือนแล้ว จะต้องลงรายละเอียดในการรับสิ่งของต่าง ๆ ด้วย อย่างเช่นวัสดุยา มันไม่ควรอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายใน แต่ควรส่งไปยังสำนักแพทย์หลวงโดยตรง”
“เช่นนั้นเรารวบรวมให้ได้หลาย ๆ รายการก่อนแล้วค่อยลงบัญชีคราวเดียวไม่ได้หรือขอรับ? ทำเช่นนี้จะยุ่งยากเกินไปหรือไม่?” หัวหน้าโต้แย้ง
“ยุ่งยากตรงไหนกัน?” จื่ออันไม่เห็นด้วย “รายการสิ่งของที่ทางกิจการภายในแจกจ่ายให้ในแต่ละเดือนก็เพียงพอแล้วสำหรับแต่ละตำหนัก เช่น ผ้าไหม น้ำมันตั้งอิ๊ว ผงถ่าน เงิน เข็ม และด้าย ทั้งหมดนี้เป็นรายการพื้นฐาน เจ้าเพียงต้องระบุสิ่งของอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากนี้ มีปัญหาอะไรอีกหรือไม่?”
“อาหารเสริมก็อยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักแพทย์หลวงด้วยเหรอ?” เมื่อเห็นว่าจื่ออันไม่ง่ายเลยที่จะกลั่นแกล้ง ท้ายที่สุดหัวหน้ากิจการฝ่ายในจึงยอมประนีประนอม
“ใช่ ส่งไปให้สำนักแพทย์หลวงรับผิดชอบ แล้วหากเจ้าต้องการอาหารเสริม ค่อยไปยื่นคำร้องกับพระสนมเหมย หลังจากที่พระสนมเหมยตอบตกลง ก็เอาใบเสร็จที่มีตราประทับของพระสนมเหมยไปรับยาที่สำนักแพทย์หลวง ความจริงแล้วการส่งคำร้องขอยาไม่จำเป็นต้องผ่านพระสนมเหมยเสมอไป สามารถไปที่สำนักแพทย์หลวงเพื่อร้องขอได้เลย หากทางนั้นเห็นสมควรว่าจำเป็นก็จะส่งมอบให้”
“นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายจำพวกผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ผ้าห่มนวม พาหนะเดินทาง พรม รวมถึงของประดับตกแต่งในท้องพระโรงควรคำนึงถึงความประหยัดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะได้ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเพิ่มเติมมา หลังจากแจกจ่ายเสื้อผ้าประจำฤดูกาลทั้งสี่ฤดูตามลำดับยศแล้ว จะไม่ได้รับอนุญาตให้รับผ้าไหมและผ้าแพรเพิ่มอีกต่อไป แม้กระทั่งน้ำมันตะเกียงหรือเทียนขี้ผึ้ง ทุกสิ่งล้วนต้องใช้สอยอย่างประหยัด ตะเกียงบริเวณทางเดินภายในพระราชวังและในลานตำหนัก ไม่จำเป็นต้องติดตั้งในทุก ๆ ห้าก้าว ควรเว้นระยะห่างทุก ๆ สิบก้าวแทน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...