อ๋องหนานหวายใช้มือข้างหนึ่งขวางทางนาง และถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าต้องการอะไรกันแน่?”
จื่ออันถามกลับเล่นแง่ “ข้าไม่รู้จะตอบคำถามท่านอ๋องอย่างไร ข้าควรถามท่านอ๋องมากกว่า ว่าท่านต้องการอะไรกันแน่?”
อ๋องหนานหวายเตือน “เจ้าควรยับยั้งตนเองไว้ดีกว่า สำหรับเรื่องใดก็ตามที่ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า อยู่ให้ห่างเข้าไว้จะเป็นการดีที่สุด หากเจ้ายืนกรานที่จะมีส่วนร่วม เจ้าเองที่เป็นฝ่ายจะต้องเสียใจ”
จื่ออันคลี่ยิ้มจาง ๆ “ข้าจะรอดู”
“เจ้า…” ดวงตาของอ๋องหนานหวายไร้ความปรานี จู่ ๆ รัศมีแห่งจิตสังหารของเขาก็ปรากฏขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ตาวเหล่าต้าจึงก้าวเข้ามาขวางหน้าจื่ออันไว้ เลิกคิ้วพร้อมกล่าว “ท่านคิดจะทำอะไร?”
“ออกไปให้พ้น!” อ๋องหนานหวายเห็นว่าบ่าวรับใช้คนหนึ่งกล้าก้าวออกข้างหน้า เขาพลันตะคอกเสียงดัง ไม่สามารถระงับความโกรธไว้ได้อีกต่อไป คิดใช้ฝ่ามือฟาดไปทางอีกฝ่าย
ตาวเหล่าต้าชักมีดเล่มใหญ่ออกมาพร้อมกับเสียงแหวกอากาศ โดยที่จื่ออันเป็นผู้ส่งมีดเล่มใหญ่ให้เขาด้วยตัวเอง
“บังอาจชักมีดออกมาข่มขู่ข้าหรือ? เจ้ารนหาที่ตายหรืออย่างไรกัน?” ร่องรอยความอาฆาตอย่างรุนแรงฉายชัดในดวงตาของอ๋องหนานหวาย จากนั้นเขาก็เบนสายตามองไปที่จื่ออัน “คนของเจ้าหยิ่งผยองนักหรือ?”
“ใช่ คนของข้าหยิ่งผยองเช่นนี้มาโดยตลอด” จื่ออันตอบกลับ ไม่คิดจะห้ามปรามการกระทำของตาวเหล่าต้า
อ๋องหนานหวายปรบมือ ทันใดนั้นทหารยามประจำเรือนชิงหนิงก็รีบกรูกันเข้ามาล้อมตาวเหล่าต้าไว้
พลังโจมตีที่ดุร้าย รวมถึงการเคลื่อนไหวที่ดุดันของตาวเหล่าต้าเป็นที่รู้จักกันดี หากรูปแบบการโจมตีไม่เร็วพอ เขาไม่มีทางสู้รบตบมือกับทหารยามเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนดาบของชายคนนี้เร็วมาก ปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วยิ่ง แม้กระทั่งพลังโจมตีของดาบก็รุนแรง เพียงแค่สิบกระบวนท่าก็สามารถบีบบังคับให้ทหารยามต้องเป็นฝ่ายล่าถอย
เมื่อเห็นว่าใบหน้าอันหล่อเหลาของอ๋องหนานหวายกำลังจะแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงอย่างที่สุด จื่ออันก็โพล่งขึ้นอย่างใจเย็น “เสี่ยวตาว เรากลับกันเถอะ”
ตาวเหล่าต้าชักมีดกลับ ถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะกลับมายืนอยู่ตรงหน้าจื่ออันดังเดิม
ซุนฟางเอ๋อร์ขมวดคิ้ว ระงับความร้อนใจของตนเองเอาไว้ นางรู้สึกผิดหวังในตัวอ๋องหนานหวายมากขึ้นเรื่อย ๆ
“หากเจ้าไม่ไปพบนางเสียตั้งแต่แรก เราก็คงไม่ต้องเผชิญกับการข่มขู่ของนาง นอกจากนี้ จากคำกล่าวของนาง กู่ร่วมชะตาหมายความว่าอย่างไรกันแน่?” อ๋องหนานหวายหันหน้ากลับมา ย่างสามขุมตรงไปหานางทีละก้าวด้วยแววตาดุร้ายและอันตราย
ซุนฟางเอ๋อร์เริ่มไม่สบายใจเล็กน้อย แต่นางก็รู้ว่าตนไม่สามารถปิดบังเรื่องนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นจึงตอบว่า “ทั้งหมดเป็นคำสั่งของกุ้ยไท่เฟยเจ้าค่ะ นางให้ข้าฝังหนอนกู่ไว้ในตัวท่านและมู่หรงเจี๋ย เพื่อไม่ให้มู่หรงเจี๋ยคิดสังหารท่าน เพราะหากท่านตาย เขาก็จะตกตายตามไปด้วย”
“แล้วหากเขาตายล่ะ?” อ๋องหนานหวายถามอย่างเย็นชา กู่ร่วมชะตามีความหมายชัดเจนในตัวอยู่แล้ว ขึ้นชื่อว่าร่วมชะตา ก็คือสองชีวิตเกี่ยวข้องพันผูก คนหนึ่งตายอีกคนก็จะตายด้วย เขาไม่ได้โง่เขลา
“หากเขาตาย ท่านอ๋องจะมีเวลาสามวันในการรักษาพิษกู่” ซุนฟางเอ๋อร์กล่าว
“มีเพียงเจ้าเท่านั้นหรือที่รู้วิธีรักษาพิษกู่?” อ๋องหนานหวายเย้ยหยัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...