สิ่งที่หวงไท่โฮ่ววางแผนไว้ไม่ง่ายดายเลย องค์จักรพรรดิทรงระแวดระวังมาก ทันทีที่เขาสร่างอาการมึนเมาจากยา เขาก็ไม่เต็มใจที่จะรับการถวายโอสถอีกต่อไป เพราะเขาเห็นแล้วว่าหวงไท่โฮ่วใจอ่อนกับเซี่ยจื่ออัน
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงเจี๋ยไม่ได้ตั้งใจจะดำเนินการตามแผนของหวงไท่โฮ่ว เขาพยายามโน้มน้าวแล้วโน้มน้าวอีก เพียงเพื่อให้หวงไท่โฮ่วยอมอนุญาตให้จื่ออันเข้าวังซีเหวยอย่างถูกต้อง
หลังจากที่เขาพาจื่ออันไปพบหวงไท่โฮ่วแล้ว เขาก็พาจื่ออันไปที่วังซีเหวย
ระหว่างทาง จื่ออันถามเขาว่า “ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลย หากข้าเข้าไปรักษาพระอาการของฝ่าบาท ที่นั่นจะมีกลอุบายใดซ่อนอยู่หรือไม่? ท่านไม่กลัวเลยหรือ?”
“พวกเขาต้องคิดกลอุบายไว้แน่ ข้อสันนิษฐานของข้าคือซุนฟางเอ๋อร์อาจออกตัวว่านางสามารถรักษาพระอาการประชวรของฝ่าบาทได้ ทว่าเสด็จแม่ไม่อนุญาตให้นางเข้าไป สิ่งที่ข้ารอคอยคือ รอให้เสด็จแม่ปฏิเสธ ทันทีที่เจ้าเข้าไปแล้ว ข้าจะออกคำสั่งให้ปิดกั้นวังซีเหวยอย่างครอบคลุมทันที โดยห้ามมิให้ผู้ใดเข้าใกล้ และไม่อนุญาตให้ทหารองครักษ์หย่อนยานการปฏิบัติหน้าที่ ต่อให้ต้องการพักผ่อน ก็ต้องพักผ่อนอยู่ในวังซีเหวยเท่านั้น”
“แต่ฝ่าบาททรงไม่เห็นด้วยที่จะให้ข้าเข้าไปรักษา ท่านมั่นใจหรือว่าจะสามารถเกลี้ยกล่อมพระองค์ได้?” จื่ออันอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
“ข้าอาจทำไม่ได้ก็จริง แต่มีบางคนที่สามารถทำได้” มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างมั่นใจ
“ใครหรือ?”
“เดาไม่ออกหรือ? เจ้าลองเดาดูสิ!”
จื่ออันนึกถึงใครบางคนขึ้นมาได้ “หวงไท่โฮ่ว?”
มู่หรงเจี๋ยยิ้ม “หวงไท่โฮ่วไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อม เพียงออกคำสั่งก็สำเร็จแล้ว ทว่านางมิได้อยู่ที่นี่”
“เช่นนั้นใครกัน? ท่านอย่าเอาแต่ลีลาสิ” จื่ออันไม่อยากใช้สมองคาดเดาในตอนนี้
มู่หรงเจี๋ยส่ายหน้า “ช่างใจร้อนเสียจริง เอาล่ะ ข้าจะบอกเจ้า เป็นท่านน้า ฝ่าบาททรงติดหนี้ท่านน้าอยู่ ดังนั้นเขาย่อมเชื่อฟังคำกล่าวของท่านน้าอย่างไม่ต้องสงสัย”
“ท่านไปขอให้จ้วงจ้วงเกลี้ยกล่อมฝ่าบาทหรือ? แล้วจ้วงจ้วงเต็มใจหรือไม่?” จ้วงจ้วงเกลียดองค์จักรพรรดิยิ่งกว่าอะไรดี
“ขณะที่เจ้าอยู่ในคุก ข้าได้ส่งคนไปส่งข่าวถึงท่านน้าเป็นการส่วนตัว ก่อนที่พวกเราจะเข้าวัง ท่านน้าคงเข้าวังไปก่อนแล้ว”
จื่ออันยิ้มกว้าง “คนที่ว่านี้ก็คือเหล่าไท่จวินใช่หรือไม่?”
ทั้งจื่ออันและมู่หรงเจี๋ยไม่อาจล่วงรู้ได้ว่าจ้วงจ้วงเกลี้ยกล่อมองค์จักรพรรดิอย่างไรบ้าง ถึงกระนั้น เมื่อพวกเขาไปถึงวังซีเหวย พวกเขาก็เห็นว่าจ้วงจ้วงและอ๋องหลี่กำลังเดินออกมาจากวังพอดี จ้วงจ้วงพยักหน้าให้มู่หรงเจี๋ย “เข้าไปเถอะ”
อ๋องหลี่กลายเป็นผู้ที่ดึงดูดความสนใจของจื่ออัน เขาสวมหมวกขนสุนัขจิ้งจอกปิดบังเส้นผมเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของเขามีสิวขึ้นเห่อเป็นจำนวนมาก เมื่อยืนอยู่ข้างจ้วงจ้วงเช่นนี้ สามารถสังเกตเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเอาแต่ยื่นมือออกไปข่วนเกาตามเนื้อตัวของตนเองแรง ๆ ราวกับถูกมดนับพันตัวไต่ยุบยับอย่างไรอย่างนั้น
จื่ออันเอ่ยถาม “ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไปหรือ? ป่วยไข้ตรงไหนหรือไม่?”
อ๋องหลี่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น “ข้าไม่เป็นไร”
“แล้วทำไมใบหน้าท่านถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ?” จื่ออันเหมือนถูกกระตุ้นจรรยาบรรณทางวิชาชีพ อดไม่ได้ที่จะก้าวออกไปดูให้เห็นชัดเจนขึ้น
อ๋องหลี่รีบก้าวถอยหลัง ก่อนจะขึ้นเสียงอย่างเกรี้ยวกราด “อย่าเข้ามา ข้าบอกว่าไม่เป็นไรไงล่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...