จ้วงจ้วงยิ้ม “จื่ออันปล่อยเขาไปเถอะ ต้าจินมีหมัดเกาะ แต่เขาก็ยังนอนขลุกอยู่กับต้าจินทั้งคืน เขาจึงพลอยโดนหมัดกัดเอาด้วยเช่นกัน ส่วนอาหมานที่ติดหมัดก่อนหน้าโดนจับโกนขนหมดแล้ว เดือนถัดไปจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องนอนอีก”
อุ้บ!
จื่ออันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
อ๋องหลี่พูดด้วยความโกรธ “ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือว่าอย่าได้แพร่งพรายไป แต่เจ้าก็ยังพูดอีก? มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เสียหน่อย”
จ้วงจ้วงยักไหล่ “เอาเถิด อย่ากล่าวถึงเรื่องนี้อีกเลย ถึงอย่างไรทุกคนก็รู้กันหมดแล้ว”
มู่หรงเจี๋ยไม่สนใจเรื่องไร้สาระเหล่านี้ เขาถามจ้วงจ้วงว่า “ฝ่าบาทตรัสว่าอย่างไรบ้าง?”
“พระองค์พระราชทานอนุญาตให้จื่ออันเข้าไปได้ และทรงยินยอมให้จื่ออันตรวจดูอาการด้วย ทว่าข้าคิดว่าเขาก็ยังคงมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะตัดแขนตนเองทิ้ง วันนี้ข้าราชบริพารหลายท่านต่างก็เข้าวังไปขอร้องให้ตัดสินพระทัยใหม่แล้ว”
มู่หรงเจี๋ยตอบรับในลำคอ มองไปทางจ้วงจ้วง “ข้ารบกวนให้ท่านทำเรื่องยากเสียแล้ว”
เขารู้ดีว่าหากไม่มีความจำเป็น จ้วงจ้วงจะไม่เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิเด็ดขาด ทว่าความจริงแล้วนางเป็นนักเจรจาตัวฉมัง
จ้วงจ้วงส่ายหน้า “ไม่เป็นไร ข้าทำเพราะเห็นแก่หลานชายของข้า”
อ๋องหลี่โพล่งขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ว่า “พวกเจ้ายังไม่รีบเข้าไปอีกหรือ? มัวพูดคุยชักช้าโอ้เอ้อยู่ได้”
มู่หรงเจี๋ยพาจื่ออันเข้าไป ไม่ลืมกำชับให้นางถือกล่องยาอย่างระมัดระวัง
เนื่องจากประตูขนาดใหญ่ถูกปิดสนิทมาเป็นเวลานาน แสงจากภายในห้องบรรทมจึงไม่เพียงพอ อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นฉุนของยา ซึ่งยังคงอยู่เจือจางในอากาศ
ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ตัวเองไม่ควรให้ร่างกายสัมผัสกับสายลมและแสงแดดก็จริง ทว่าการป้องกันแบบปิดมิดชิดเช่นนั้นค่อนข้างเกินความจำเป็นไปหน่อย
องค์จักรพรรดินั่งพิงหัวเตียง ห่มผ้านวมผืนใหญ่ตั้งแต่คอลงมา ครั้นได้ยินเสียงฝีเท้า เขาก็เงยหน้าขึ้นมองมู่หรงเจี๋ยและจื่ออัน
มู่หรงเจี๋ยรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังตรัสถึงข่าวลือที่ว่าจื่ออันเป็นผู้แพร่งพรายข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยของเขา ดังนั้นเขาจึงตอบกลับว่า “ไม่ว่าฝ่าบาทจะทรงเชื่อหรือไม่ จื่ออันไม่เคยปล่อยข่าวจริง ๆ”
“เจ้าตรวจสอบดีแล้วหรือ?” องค์จักรพรรดิไม่ได้ใส่ใจกับคำถามนี้เท่าไรนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้จ้วงจ้วงวิเคราะห์ภาวะอารมณ์ของเขาที่มีต่อเซี่ยจื่ออันเมื่อครู่แล้ว เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเซี่ยจื่ออันจะถูกหรือผิด รู้เพียงว่าหากทุกเสียงชี้เป้าไปที่นาง นางก็ควรถูกลงโทษ
“เป็นหลี่เจี๋ยที่แพร่งพรายข่าว และเขาสิ้นชีพหลังจากทำเช่นนั้นทันที!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยอย่างใจเย็น
จื่ออันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขารู้อยู่แล้วหรอกหรือ?
แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกข้าก่อนอีกแล้วนะ?
“เป็นเขาหรือ?” องค์จักรพรรดิตกตะลึง รู้สึกไม่เชื่อถือ “เขาอยู่รับใช้ข้ามาหลายปี จะบังอาจหักหลังข้าได้อย่างไร?”
หลี่เจี๋ยเป็นราชองครักษ์คนสนิทที่อยู่เคียงข้างเขามาโดยตลอดตั้งแต่ยังเป็นองค์ชาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...