องค์รัชทายาทกล่าวด้วยความโกรธ “ข้าต้องการเข้าวัง เจ้ายังกล้าฆ่าข้าอยู่หรือไม่?”
กล่าวจบแล้วก็ย่างสามขุมตรงไปที่ประตูพระราชวังทันที
ท่านเซียวโหวไม่ลังเลเลย ยกดาบในมือขึ้นแล้วฟาดฟันลงไป องค์รัชทายาทรู้สึกถึงลมเย็นที่พัดวูบเหนือศีรษะ จนหนังศีรษะของเขาชาไปชั่วขณะ มองไปอีกทางก็เห็นกระจุกเส้นผมตกลงบนพื้นแล้ว มงกุฎขนนกก็กระจัดกระจาย
“บังอาจนัก เจ้ากล้าใช้ดาบฟันองค์รัชทายาทหรือ?” ก่อนหน้านี้องค์รัชทายาทเหงื่อแตกพลั่ก แต่แล้วท่าทีก็เปลี่ยนเป็นโกรธจัด
ท่านเซียวโหวตอบกลับอย่างเย็นชา “สิ่งต่อไปที่จะร่วงลงพื้น ก็คือศีรษะขององค์รัชทายาทอย่างท่านนั่นเอง”
องค์รัชทายาทโกรธจัดจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ทว่าเขากลัวดาบเล่มนั้นจริง จึงได้แต่สาปแช่งอย่างมาดร้าย “ฝากไว้ก่อนเถอะ หากข้าขึ้นครองบัลลังก์เมื่อไหร่ ตาแก่อย่างเจ้าจะถูกสับคอเป็นคนแรก”
ท่านเซียวโหวหัวเราะเยาะ ใบหน้าของเขาไร้ซึ่งความแยแส
อ๋องอันก้าวไปข้างหน้าทันที โน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อมองดูอ๋องหนานหวาย ก่อนจะกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เจ้ากลับไปเดี๋ยวนี้ ยังพอมีเวลา!”
อ๋องหนานหวายกอบมือเข้าด้วยกัน “เสด็จพี่ ข้าแค่มาที่นี่เพื่อร้องขอความกระจ่าง ไม่ได้ตั้งใจจะสร้างปัญหาแต่อย่างใด”
“เจ้าต้องการขอความกระจ่างเรื่องใดล่ะ? ฝ่าบาททรงเป็นแผลหน้าผีจริงหรือไม่งั้นหรือ?”
“ใช่ ข้าอยากรู้แค่นั้นเอง”
อ๋องอันคลี่ยิ้มช้า ๆ “หากเป็นจริงแล้วอย่างไร? หากไม่ได้เป็นแล้วอย่างไร?”
อ๋องหนานหวายตอบกลับ “หากเป็นจริง ข้ามีผู้ใต้บังคับบัญชาที่สามารถถวายการรักษาได้ หากไม่จริง ข้าจะรีบออกไปสยบข่าวลือในหมู่ประชาชน”
อ๋องอันพยักหน้า “ท่านอ๋องก็บอกเจ้าอยู่มิใช่หรือว่าฝ่าบาทไม่ได้เป็นแผลหน้าผี คราวนี้เจ้าก็ออกไปสยบข่าวลือในหมู่ประชาชนได้แล้ว”
หวงไท่โฮ่วกระวนกระวายใจมาก “แม่ควรทำอย่างไรดี? เจ้ายังไม่ส่งกองกำลังออกไปอีกหรือ? ขืนรอให้กองกำลังทหารของราชครูและกองทัพของอ๋องหนานหวายมาถึงคงสายเกินแก้กันพอดี”
มู่หรงเจี๋ยยิ้ม “เสด็จแม่อย่าได้กังวลไป ข้ากำลังรอให้พวกเขานำกองกำลังมาสมทบอยู่พอดีเชียว”
“อะไรนะ?” หวงไท่โฮ่วตื่นตระหนก “เราไม่อาจล่วงรู้ว่าครั้งนี้อ๋องหนานหวายจะนำกองทัพมาที่นี่กี่นาย นับประสาอะไรกับกองทัพทหารม้าใต้บังคับบัญชาของราชครู หากเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา ฝ่ายเราไม่มีโอกาสชนะแน่ แม้กระทั่งกองทัพจักรพรรดิเองก็มีคนของเขาอยู่”
มู่หรงเจี๋ยลุกขึ้นประคองหวงไท่โฮ่วให้นางนั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม และปลอบโยนนาง “ท่านจะกังวลเรื่องอะไร? หากพวกเขาจะปลงพระชนม์ท่านขึ้นมาจริง ๆ ท่านก็มีข้าคอยยืนขวางหน้าอยู่ทั้งคนมิใช่หรือ? กว่าจะทำอะไรท่านได้ ก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน อย่าลืมว่าข้าแข็งแกร่งพอประมาณ อย่างน้อยก็สามารถต้านดาบได้สักร้อยเล่ม หากข้าไม่ถึงคราวตาย พวกเขานั่นแหละที่ต้องตายก่อนเพราะความอ่อนล้า”
แม้ว่าหวงไท่โฮ่วจะอยู่ในอาการร้อนใจ กระนั้นนางก็รู้สึกขบขันไปกับเขาเช่นกัน “ไร้สาระ กล่าวราวกับว่าสถานการณ์ไม่ร้ายแรงอย่างนั้นแหละ แม่กำลังจะตายด้วยความวิตกกังวลอยู่แล้ว เจ้ายังมัวมีอารมณ์ขันอยู่ได้”
ซุนกงกงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หวงไท่โฮ่วอย่าทรงเป็นกังวลไป ท่านอ๋องมีแผนดังนี้ ประการแรก ตอนนี้เรากำลังประวิงเวลา ประการที่สอง เป็นเพราะเราต้องการเห็นคนเหล่านั้นเดินหน้าแบ่งฝักฝ่ายอย่างชัดเจน เราจะดำเนินการต่อไปได้ก็ต่อเมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกเขามีใจกบฏจริง จากนั้นก็จะปล่อยให้เฉินไท่จวินเริ่มจัดการกับพวกเขา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...