หูฮวนสี่กล่าวว่า “นางเป็นคนร้ายกาจแน่นอน ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ฆ่าเจ้านายตัวเอง และแม่กับป้าแท้ ๆ ของนางด้วย หากเจ้าทำให้นางขุ่นเคือง นางจะยอมแลกทุกอย่างเพื่อต่อสู้กับเจ้าจนถึงที่สุด อีกทั้งนางยังเป็นคนที่มีความอดทนสูง อ๋องหนานหวายปฏิบัติต่อนางอย่างเลวร้าย แต่เพื่อจุดประสงค์ของนาง นางสามารถทนต่อคำสบประมาท และความทรมานที่อ๋องหนานหวายมอบให้นางได้ จื่ออัน เจ้ากับข้าต่างก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องเลวร้ายมาก ที่คนคนหนึ่งต้องอดทนกับความเป็นความตาย แต่ทุกคนล้วนมีจุดอ่อน ตราบใดที่เจ้าเข้าใจจุดอ่อนของนาง เจ้าก็จะสามารถทะลวงการป้องกันที่แข็งแกร่งของนางได้”
“แล้วเจ้าคิดว่าจุดอ่อนของนางคืออะไร?” จื่ออันถาม อันที่จริงนางไม่เคยเรียนรู้เรื่องซุนฟางเอ๋อร์มาก่อน นางแตกต่างจากหูฮวนสี่ หูฮวนสี่เคยเป็นประธาน ส่วนนางเคยเป็นแพทย์ทหาร เรื่องที่นางศึกษามามากที่สุดคือทักษะทางการแพทย์ ส่วนหูฮวนสี่ชอบศึกษาผู้คน
หูฮวนสี่วิเคราะห์ว่า “ข้าแอบสังเกตนาง นางชอบไปที่ที่มีชีวิตชีวา แต่นางไม่เคยเข้าใกล้ผู้คน นางแค่เฝ้าดูความมีชีวิตชีวาของผู้คน บางครั้งข้าเห็นความอิจฉาริษยาในดวงตาของนาง นี่เป็นความคิดที่ลึกซึ้งมาก คนส่วนใหญ่มองไม่ออก แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาเฉียบคมของหูฮวนสี่ผู้นี้ไปได้ นางเหงามาก โหยหาการติดต่อกับผู้คน โหยหาเพื่อน”
“เช่นนั้นเจ้าอยากเป็นเพื่อนนางหรือเปล่า? ฮวนสี่ คนผู้นี้เจ้าเล่ห์และร้ายกาจมาก ฉะนั้นอย่าไปเลยดีกว่า หากนางรู้ว่าเจ้าโกหกนาง นางจะฆ่าเจ้า” จื่ออันพูด
หูฮวนสี่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ “เจ้าเล่ห์หรือ? ข้าเจ้าเล่ห์กว่านางอีก เจ้าจื่อ ไม่ต้องห่วงข้าหรอก ข้าไม่ได้หลอกนาง หากนางไม่เป็นศัตรูกับข้า ข้าก็อยากเป็นเพื่อนกับนางจริง ๆ คนอย่างพวกข้าเป็นนักธุรกิจ มีมิตรเพิ่มหนึ่งคนย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่มหนึ่งคน”
จื่ออันยกยิ้ม “ใช่แล้ว ใครจะกล้าเล่นตลกกับจอมเจ้าเล่ห์เช่นเจ้า?”
เรือนชิงหนิง
“แม่นางซุนเจ้าคะ!” สาวใช้เสี่ยวหงเคาะประตูห้องซุนฟางเอ๋อร์
“เข้ามา!” น้ำเสียงเย็นชาตามปกติของซุนฟางเอ๋อร์ดังมาจากข้างใน
เสี่ยวหงเปิดประตูและเข้าไปข้างใน พร้อมกับผ้าและกล่องผ้าในมือ “แม่นางซุนเจ้าคะ นี่คือของขวัญจากเถ้าแก่เนี้ยสกุลหู บอกว่าทั้งหมดนี้สำหรับท่านเจ้าค่ะ”
ซุนฟางเอ๋อร์ตกตะลึง “สำหรับข้าหรือ?”
“เจ้าค่ะ ตอนที่นางเข้าประตูมา บ่าวอยู่ที่ประตูพอดี เมื่อนางเห็นบ่าวก็เรียกบ่าวออกไป แล้วมอบสิ่งนี้ให้บ่าว จากนั้นนางก็ไปหาพระชายาเจ้าค่ะ” เสี่ยวหงกล่าว
ซุนฟางเอ๋อร์คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ช่างเถิด เจ้าออกไปได้แล้ว”
เสี่ยวหงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่าจู่ ๆ นางก็เปลี่ยนใจ แต่นางก็มักจะทำตัวแปลก ๆ อยู่เสมอ นางจึงหันหลังเดินออกไปโดยไม่ได้ถาม
ซุนฟางเอ๋อร์เปิดกล่องผ้า และพบว่ามีหยกสีขาวใสชิ้นหนึ่งวางอยู่เงียบ ๆ ในกล่องผ้า หยกสีขาวถูกแกะสลักเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม พระพักตร์กลมและอ่อนโยน ดวงตาเปี่ยมด้วยเมตตา ทำให้คนมองรู้สึกมีความสุข
ซุนฟางเอ๋อร์เอื้อมมือไปลูบไล้หยกขาวด้วยสีหน้าแปลก ๆ จากนั้นเอื้อมมือไปสัมผัสผ้า ผ้านั้นนุ่มและเย็น แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เพราะเป็นวัสดุที่ดีที่สุด
“เจ้าเข้าหาข้าเพียงเพราะเซี่ยจื่ออัน ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก” ซุนฟางเอ๋อร์พูดอย่างเย็นชา
แต่ขณะที่พูดเช่นนั้น นางก็ห้อยเจ้าแม่กวนอิมหยกขาวไว้ที่คอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...