สำหรับอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่า คนในบ้านต้องกินข้าวด้วยกัน
ความจริงแล้วจื่ออันไม่เคยกินอาหารเย็นกับกุ้ยไท่เฟยเลย จึงไม่เคยกินกับบรรดาน้องชายของจักรพรรดิด้วยเช่นเดียวกัน
เมื่อมู่หรงเจี๋ยกลับมาในตอนบ่าย เขาก็บอกกับจื่ออันตามตรงว่า “ไม่ต้องกินอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่ากันสองคน พวกเรากลับไปกินข้าวกับแม่ยายแก่กันเถอะ”
“แม่ยายก็คือแม่ยาย เหตุใดต้องเพิ่มคำว่าแก่เข้าไปด้วย? นางยังไม่ถึงสี่สิบเลย!” จื่ออันพูดไม่ออก
มู่หรงเจี๋ยนั่งกินเมล็ดแตงโม “ไม่ว่าจะอายุน้อยเพียงใด ก็ยังต้องเป็นแม่ยายแก่”
“พวกเราจะกลับไปกินข้าวกันงั้นหรือ? จะไม่ดีหรือเปล่า? พี่สามที่ท่านคิดว่าตายไปแล้วจะต้องพูดถึงเราอีกแน่” จื่ออันพูด อ๋องหลี่ให้ความสำคัญกับครอบครัวและขนบธรรมเนียมเหล่านี้มาก
“หากเขาพูดถึงพวกเรา เจ้าก็แค่ถามเขาว่า อาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าจำเป็นต้องกินกันทั้งครอบครัวหรือเปล่า? พวกเรากับแม่ยายก็เป็นครอบครัวเดียวกัน หรือเจ้าจะไปกินในวังก็ได้ หากเจ้าไม่กลัวจะถูกสาว ๆ มารบกวน” มู่หรงเจี๋ยกำลังคายเมล็ดแตงโม เมื่อก่อนเขาไม่กินของว่าง แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก
“เช่นนั้นก็กลับบ้านไปกินข้าวกันเถอะ” จื่ออันพูดด้วยรอยยิ้ม ความจริงนางอยากกลับไปกินข้าวที่บ้านจริง ๆ นี่เป็นวันตรุษจีนใหญ่ ใครจะอยากกินข้าวด้วยความกระอักกระอ่วนใจ?
จื่ออันกลับบ้านชั่วคราวเพื่อไปกินอาหาร แต่วันนี้นางไม่ได้พูดอะไร กุ้ยไท่เฟยที่เรือนชิงหนิงจึงคิดอยู่เสมอว่า นางคงสั่งให้ใครสักคนเตรียมอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่าแน่ จึงไม่สนใจจะสั่งให้คนหุงหา เพียงบอกกับอ๋องหนานหวายไว้ว่า นางจะไม่ออกไปจนกว่าอีกฝ่ายจะมาเชิญด้วยตัวเอง
หลังจากรอมานาน ในที่สุดนางก็หมดความอดทน เมื่อคนครัวเข้ามาถามว่าถึงเวลาอาหารเย็นแล้วหรือยัง นางถึงรู้ว่าเซี่ยจื่ออันและมู่หรงเจี๋ยไม่อยู่จวนเพื่อรับประทานอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่าร่วมกัน
กุ้ยไท่เฟยโกรธมาก แม้ว่านางจะไม่ได้อยากกินข้าวกับเซี่ยจื่ออันเลย แต่สุดท้ายคนที่ต้องตัดสินใจว่าจะกินหรือไม่กินนั้นไม่ใช่เซี่ยจื่ออัน
นางลักพาตัวลูกชายของนางไปกินอาหารเย็นวันส่งท้ายปีเก่า โดยไม่ได้บอกอะไรสักคำ ช่างกระด้างกระเดื่องเสียจริง
“ยกอาหารมาเลย!” อ๋องหนานหวายเห็นว่ากุ้ยไท่เฟยไม่พอใจ จึงสั่งเบา ๆ
“เป็นกล่องผ้าเล็ก ๆ ใบหนึ่ง น่าจะมีเครื่องประดับอยู่ข้างใน และผ้าหนึ่งผืนเพคะ” เสี่ยวหงตอบ
“น่าจะเป็นเครื่องประดับงั้นหรือ? เจ้าไม่เห็นหรือ?” อ๋องหนานหวายถาม
เสี่ยวหงส่ายหน้า “บ่าวไม่เห็นเพคะ แม่นางซุนสั่งให้บ่าวเปิดดู แต่ตอนแรกนางบอกว่านางไม่ต้องการมัน แล้วจู่ ๆ นางก็สั่งให้บ่าวนำมันกลับไปเพคะ”
กุ้ยไท่เฟยโบกมือให้นาง จากนั้นมองอ๋องหนานหวาย “หูฮวนสี่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาของเจ้าและเซี่ยจื่ออัน การที่นางให้ของขวัญฟางเอ๋อร์นั้นหมายความว่าอย่างไร?”
“ยุยงให้แตกแยกหรือ? ต้องการบอกเราว่านางส่งของบางอย่างให้ฟางเอ๋อร์ เพื่อให้เราเข้าใจผิดว่าฟางเอ๋อร์มีการติดต่อกับพวกนางหรือเปล่า?” อ๋องหนานหวายคิดถึงเรื่องนี้ก่อน
“ไม่ ถ้าเป็นการยุยงให้แตกแยก ตราบใดที่ซุนฟางเอ๋อร์ไม่ยอมรับ การยุยงก็จะไม่สำเร็จ” กุ้ยไท่เฟยกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...