จ้วงจ้วงตะลึงงัน “แปลกอย่างไร? เรื่องมือสังหารที่แฝงตัวอยู่ในตำหนักสีอันงั้นหรือ? คนเหล่านั้นชำนาญวิทยายุทธ์ทั้งหมด ทักษะวิชาตัวเบาของพวกเขาก็น่าทึ่ง ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่พวกเขาสามารถแฝงตัวอยู่ในตำหนักสีอันได้ ทว่าพวกเขาไม่รู้จักตรวจสอบสถานการณ์ วางกลอุบายเพียงทางเดียว จึงไม่รู้ว่าเหล่าไท่จวินเองก็อยู่ผู้ในตำหนักสีอัน มิฉะนั้นคงสังหารสำเร็จไปแล้ว”
จื่ออันกล่าว “นั่นก็จริง แต่ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ว่าเหล่าไท่จวินอยู่ที่นี่? ช่วงนี้เฉินไท่จวินเทียวเข้าเทียวออกตำหนักสีอัน ตอนเกิดเหตุเฉินไท่จวินก็กำลังจะจากไปอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีผู้ใดล่วงรู้การมีอยู่ของพวกมือสังหาร พวกเขาจะรอให้เฉินไท่จวินจากไปแล้วค่อยลงมือก็ย่อมได้ แต่รีบร้อนลงมือเกินไป นี่ไม่สมเหตุสมผลเลย นอกเหนือว่าพวกเขาต้องการฆ่าเหล่าไท่จวินด้วย ถึงเลือกลงมือก่อนที่นางจะออกไป”
“ใช่ หากเฉินไท่จวินตายไป เขาก็หมดสิ้นขวากหนามไปอีกหนึ่ง”
“แต่ทำไมอ๋องหวานหวายจึงต้องฆ่าซุนฟางเอ๋อร์ด้วย?” จื่ออันไม่เข้าใจประเด็นนี้เลย อ๋องหวานหวายและกุ้ยไท่เฟยคิดฆ่าซุนฟางเอ๋อร์ด้วยเหตุใด? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของซุนฟางเอ๋อร์กับหูฮวนสี่?
ทว่าซุนฟางเอ๋อร์ไปหาหูฮวนสี่หลังจากที่อ๋องหวานหวายออกจากเมืองหลวงไปแล้ว เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าซุนฟางเอ๋อร์สารภาพความจริงกับหูฮวนสี่ทุกอย่าง?
ต่อให้อ๋องหวานหวายสั่งให้คนเฝ้าติดตามซุนฟางเอ๋อร์ แต่คนของนางก็เฝ้าติดตามอ๋องหวานหวายตลอดเวลาเช่นเดียวกัน มั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครไปรายงานอ๋องหวานหวายในช่วงที่ผ่านมา
จื่ออันไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลยจริง ๆ
“ข้าได้ยินมาว่าซุนฟางเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากกริช แต่มือสังหารพวกนั้นใช้ดาบไม่ใช่หรือ?” จ้วงจ้วงถามทันที
จื่ออันกล่าวว่า “ใช่ ข้าก็ไม่เข้าใจประเด็นนี้เช่นกัน แต่เวลานั้นในตำหนักมีเพียงกุ้ยไท่เฟยและอาฝู เป็นไปไม่ได้ที่กุ้ยไท่เฟยจะฆ่าซุนฟางเอ๋อร์ เว้นเสียแต่แม่กู่ร่วมชะตาจะถูกแก้ไขได้แล้ว”
“เป็นไปไม่ได้ แม่กู่จะแก้พิษได้ก็ต่อเมื่อลูกกู่ตายแล้ว หากลูกกู่ยังไม่ตาย ก็ไม่อาจถอนพิษจากแม่กู่ได้”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?” จื่ออันถามด้วยความประหลาดใจ แม้แต่นางเองก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้
“ตอนที่ป้าอาเฉอมา ข้าลองถามนางดู”
“ป้าอาเฉอรู้วิธีถอนพิษกู่หรือ?”
จ้วงจ้วงคิดคำนวณ “ตอนนี้เขายังอยู่ในเมืองเฉียวใช่หรือไม่? เขาต้องออกเดินทางต่อแต่เช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ ระหว่างวันคงไม่ได้แวะที่ไหน หลังจากนั้นผ่านจุดที่มีผู้คนพลุกพล่าน ครั้นผ่านเมืองเฉียวไปแล้ว เขาควรหยุดพักแรมที่จวนซูเจียง จวนซูเจียงมีพวกโจรคอยสร้างปัญหาอยู่เนือง ๆ ฉะนั้นฆ่าอ๋องแปดเสีย ยัดเยียดความผิดให้โจร แผนการจึงจะแนบเนียน”
“อันที่จริงข้าอยากไว้ชีวิตเขาต่อไปอีกหน่อย ไม่ได้ตั้งใจจะปลิดชีวิตเขาในตอนนี้” จื่ออันกล่าว
จ้วงจ้วงขมวดคิ้ว “อย่างไรก็ตาม หากเราไม่ยอมตัดรากถอนโคน เกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมาไม่รู้จบ”
“ข้ารู้ ตอนนี้เรากำลังทำสงคราม ไม่สามารถสู้รบกับพลเรือนด้วยกันเอง” จื่ออันพูดไปอย่างนั้น แต่นางกลับรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ด้วยมีลางสังหรณ์ว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง
อ๋องหนานหวายสูญสิ้นสามัฐสำนึกถึงขั้นสามารถฆ่าแม่แท้ ๆ ของตนเองได้ เขากลายเป็นคนชั่วร้ายอย่างกู่ไม่กลับ ช่างน่ากลัวยิ่งนัก คนคนนี้สมควรกำจัดทิ้งแต่เนิ่น ๆ
“แล้วเจ้ายังกังวลเรื่องใดอีก?” เมื่อเห็นนางยังลังเล จ้วงจ้วงเผลอคิดว่านางใจอ่อน จึงอดไม่ได้ที่จะโกรธเคือง “หรือเจ้ายังคิดว่าเขาเป็นน้องชายของอ๋องเจ็ด จึงต้องการไว้ชีวิตเขา เจ้าลองตรองดูอีกที เจ้าปฏิบัติต่อเขาราวน้องชายเสมอมา แต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้นเลย เขาแทบจะฆ่าเจ้าให้ตายด้วยซ้ำไป”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...