ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 58

หลิงอวี๋และทั้งสี่คนถูกไป่ซุ่ยพาไปลานจวนเล็ก ๆ ลานหนึ่งที่อยู่ข้างกัน ลานจวนนี้สะอาดเรียบง่ายเป็นสถานที่พักผ่อนรวมตัวตระกูลที่เป็นสตรี

ครั้นรอให้ไป่ซุ่ยออกไป แม่นมลี่ให้หลิงซินไป ก่อนจะดึงหลิงอวี๋มาข้าง ๆ เอ่ยเสียงแผ่ว

“คุณหนู ท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดบ่าวถึงสนับสนุนให้อยู่ต่อ?”

หลิงอวี๋เดาว่าแม่นมลี่คงไม่เสนอให้ตนอยู่ต่อหากไม่มีสาเหตุจึงเอ่ยถามเสียงเบา

“เป็นเพราะฮูหยินใหญ่เหลียงผู้นั้นมีฐานะที่พิเศษรึ?”

แม่นมลี่มองนางอย่าจนปัญญา กล่าวเสียงแผ่วว่า “คุณหนู ท่านลืมไปแล้วรึ เมื่อท่านยังเด็กเคยพบนาง...นางแซ่เหลียง… ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันคือฮ่องเต้อู่อันและหมู่เฟย(1)ของฮ่องเต้ก็แซ่เหลียงเจ้าค่ะ!”

หลิงอวี๋ตกตะลึงชั่วขณะ เอ่ยถามว่า “หรือว่านางคือไทเฮา?”

หลิงอวี๋รู้เพียงว่าฮูหยินใหญ่ผู้นี้มีฐานะสูงศักดิ์ สง่าเกรียงไกร ยังคิดว่าเป็นคุณท่านหญิงจากสกุลร่ำรวยมากอำนาจจากบางแซ่

ผู้ใดจะไปรู้ว่าเป็นไทเฮาในพระราชวัง!

“นั่นน่ะสิ! คุณหนู… เมื่อครู่บ่าวเป็นห่วงท่านแล้ว! หากท่านรักษาไทเฮาไม่หาย พวกเราต้องตายกันหมดเจ้าค่ะ!”

แม่นมลี่ประสานมือ ก่อนจะท่องนะโม อมิตาภพุทธะ แล้วเอ่ยว่า “ยังดีที่คุณหนูช่วยชีวิตนางได้! ไม่งั้นบ่าวก็มิบังอาจแนะนำให้ท่านอยู่ต่อ...”

“คุณหนู ตราบใดไทเฮาซาบซึ้งในบุญคุณท่าน ชีวิตความเป็นอยู่ของท่านและเยว่เยว่ก็จะดีขึ้นแล้วจะมิมีผู้ใดกล้ามารังแกท่านในภายภาคหน้า!”

“ข้าเข้าใจแล้ว! ขอบคุณความทุ่มเททั้งกายทั้งใจของแม่นม!”

หลิงอวี๋คิดชั่วขณะกล่าวว่า “ไทเฮาไม่ยอมพูดถึงฐานะของตัวเอง พวกเราก็แสร้งเป็นไม่รู้ควรทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นเถิด! ข้าควรจะสอนวิธีรำไท่เก๊กให้พระนางวันพรุ่งแล้วเราก็กลับตำหนักกัน!”

“คุณหนู บ่าวเข้าใจแล้ว บ่าวจะไปแจ้งเหล่าปี้(2)ให้เขากลับไปกราบทูบท่านอ๋อง พวกเราพักอยู่วัดชิงเหลียนหนึ่งคืน ให้พวกเขาค่อยมารับเราในวันพรุ่ง!”

แม่นมลี่วิ่งช้า ๆ จากไป

หลิงอวี๋หรี่ตาสักพัก ไทเฮางั้นหรือ?

นางอยากหย่าร้างกับเซียวหลินเทียนและกลุ้มว่าจะเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ให้เห็นด้วยได้อย่างไร!

บางทีไทเฮาอาจเติมเต็มความปรารถนานี้ของตนได้

หลิงอวี๋ไม่มีเวลาพักผ่อน บอกให้หลิงซินไปหาพู่กันกับกระดาษมาแล้วก็เริ่มเขียนอาหารแสลงลงไป ทั้งยังออกตำรับอาหารบำรุงสุขภาพหลายอย่างให้ไทเฮาอีกด้วย

นางสั่งให้หลิงซินส่งไปให้แม่นมเว่ยห้องข้าง ๆ ดูก่อน

หลังจากหลิงซินไป แม่นมเว่ยก็นำตำรับที่หลิงอวี๋ส่งมาถวายแก่ฮูหยินใหญ่เหลียง

ฮูหยินใหญ่เหลียงเอนลงบนแท่นบรรทม ไม่รับสิ่งของและกล่าวเกียจคร้านว่า

“เจ้าอ่านให้ข้าก็พอแล้ว! แก่แล้วดวงตาก็พร่ามัว มองอะไรล้วนไม่ชัดเจนแล้ว!”

แม่นมเว่ยส่งยิ้มตอบ “บ่าวก็ไม่ต่างกันหรอกเพคะ? ให้ซุ่ยเอ๋อร์อ่านเถอะเพคะ!”

นางเอาตำรับส่งให้ไป่ซุ่ยและนางก็อ่านขึ้นอย่างตั้งอกตั้งใจ

ฮูหยินใหญ่เหลียงกำลังหลับตาฟังไป่ซุ่ยอ่านไปอยู่พักใหญ่

แม่นมเว่ยตอบอย่างระมัดระวังว่า “เป็นเช่นนี้จริง เนื่องงานอภิเษกสมรสของนางกับท่อนอ๋องอี้ กอปรกับเรื่องเด็กผู้นั้นสะนั่นอลหม่านไปทั่วเมืองหลวง ฉะนั้นในวังมีงานเฉลิมฉลองอันใดในช่วงสองสามปีมานี้ล้วนมิเคยเชิญนางทั้งสิ้นเพคะ!”

ไทเฮาเหลียงฟังแล้วทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ครู่ใหญ่ถึงตรัสว่า

“ให้ซุ่ยเอ๋อร์กลับไปแจ้งขันทีเซี่ยว่าเพื่อขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตอายเจียเลยเห็นด้วยที่จะจัดวันพระราชสมภพ และให้พวกเขาเชิญอาคันตุกะมาน้อยลงด้วย!”

“อีกทั้งสั่งให้ขันทีเซี่ยส่งบัตรเชิญมาให้อายเจียสักสองสามใบ อายเจียจะเชิญสหาย!”

หัวใจของแม่นมลี่เต้นผิดจังหวะ ถามหยั่งเชิงว่า “ไทเฮา ท่านทรงคิดจะเชิญชายาอ๋องอี้เข้าร่วมใช่หรือไม่เพคะ?”

ไทเฮาเหลียงยิ้มอ่อนตรัสว่า “ทองคำ เงินหรืออัญมณีล้วนไม่พอแสดงความขอบคุณต่อเด็กผู้นี้ที่มีบุญคุณช่วยชีวิตอายเจียได้เลย แถมยังมีวิธีดูแลรักษาเหล่านี้อีก...”

“จะมอบของกำนัลก็ควรมอบสิ่งที่ชายาอ๋องอี้ปรารถนาสิ!”

แม่นมเว่ยพยักหน้า กล่าวด้วยรอบยิ้มว่า “ไทเฮาช่างปราดเปรื่อง… ท่านยกย่องนางมากเช่นนี้ ชีวิตของชายาอ๋องอี้ในวันข้างหน้าจะต้องดียิ่ง ๆ ขึ้นไป”

ไทเฮาส่ายหน้ากล่าวว่า “นางต้องเดินตามเส้นทางของตน… แม้อายเจียจะยกย่องนางยิ่ง แต่นางต้องบากบั่นต่อสู้ด้วยตนเองด้วยเช่นกัน...”

หมู่เฟย(母妃) ใช้เรียกมารดาที่เป็นพระสนม

เหล่าปี้ (老毕) ปี้ คือนามสกุล ส่วนเหล่าเป็นคำนำหน้าที่แสดงถึงเพื่อนเกลอ ดังนั้นเหล่าปี้ แปลว่า สหายปี้

เหล่าซื่อ (老四)หมายถึง ลูกคนที่สี่ แปลว่า น้องสี่

อายเจีย (哀家) แปลว่า ผู้น่าสงสารเพราะเป็นม่ายร้างพระสวามี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา