บทที่ 101 อธิบายอย่างชัดเจนเพื่อดำเนินการได้อย่างลุล่วง
คำอธิบายตามจิตใต้สำนึกของอันหลิงหยุน: “ท่านอ๋อง เรื่องนี้ทำมากไปไม่ดีต่อร่างกาย หม่อมฉันประมาทเกินไป คือหม่อม......”
ทนฟังปากเล็กที่พูดพล่อยของนางไม่ได้อีก จึงจูบกลับ
พูดไร้สาระมากมายเพื่อต้องการให้เขากลับไป
รู้สึกเหมือนนางต้องรับผิดชอบต่อสิ่งนี้ ต้องการจากไปให้พ้น
อันหลิงหยุนจึงเข้าใจ ติดค้างอะไรก็ต้องคืนอยู่ดี
แต่ก่อนที่ทำใบหน้าเล็กอันหลิงหยุนแสดงออกให้เห็นยอมตายดีกว่ายอมเชื่อฟัง ปฏิเสธไม่ให้เข้ามาใกล้
“ข้าไม่อยากใช้ความรุนแรง”
กงชิงวี่หน้าบึ้งตึง เรื่องนี้ไม่ทำไม่ได้
อันหลิงหยุนกอดผ้าห่ม: “มีเรื่องหนึ่ง ต้องพูดเพคะ”
“ทำไปพูดไป” กงชิงวี่กอดอันหลิงหยุน อันหลินหยุนส่ายหน้า
“งั้นรีบพูด”
“วันนั้น ท่านกับจุนฉูฉูอยู่ที่วิหารบรรทมรองในวัง ตอนข้าเข้าไปพวกท่านทำอะไรอยู่เพคะ?” อันหลิงหยุนรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้างเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หากไม่ได้เป็นเรื่องหลับนอนด้วยกันก็แล้วไป แต่วันนี้ถ้าไม่ถามเรื่องนี้ให้ชัดเจน นางจะอัดอั้นตันใจ ก็จะนึกถึงมันอยู่เสมอ
กงชิงวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นึกขึ้นได้และไม่ปิดบัง: “วันนั้นพระชายาตวนมาเยี่ยมข้า นางบอกมีเรื่องจะคุยเป็นการส่วนตัว ข้าเองก็อยากรู้ว่านางต้องการพูดอะไร จึงตอบตกลงนาง”
“อืม?” อันหลิงหยุนไม่เชื่อ
กงชิงวี่หงุดหงิด: “วันนั้นร่างกายข้าเป็นเช่นนั้น มีอะไรน่าสงสัย?”
“แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ชุดนางกระเซิง ท่านก็เปลือยกาย หากท่านบอกว่าไม่มีเรื่องอันใด เพียงแค่พูดคุยกัน พูดคุยท่านถอดเสื้อ ชุดนางกระเซิง พวกท่านเป็นน้องชายพี่สะใภ้ ไม่กลัวเป็นเลื่องลือออกไปทำให้ขายขี้หน้าราชวงศ์ ได้ชื่อกระทำผิดเรื่องร้ายยางอายหรือเพคะ?” อันหลิงหยุนยิ่งคิดยิ่งโมโห
“ข้าเป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องวันนั้นข้าสาบานกับสวรรค์ได้ หากสิ่งที่ข้าพูดในวันนี้มีคำเท็จแม้แต่คำเดียว ขอให้ประเทศชาติล่มจมทนทุกข์ทรมาน”
อันหลิงหยุนรู้สึกหวั่นไหว: “ท่านไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายจริงๆ หรือเพคะ?”
“จริง” กงชิงวี่เปิดผ้านวม มุดเข้าไปข้างใน อันหลิงหยุนไม่ได้ปฏิเสธ ทั้งสองแนบชิดอยู่ด้วยกัน
แต่ไม่มีผู้ใจรีบร้อนเกินไป อันหลิงหยุนยังมีเรื่องต้องพูด
“มีเรื่องอะไรถามก็ให้เข้าใจในคราเดียว ในวันข้างหน้าข้าอาจไม่พูด” กงชิงวี่ยังตั้งใจที่จะชี้แจงเรื่องนี้ เก็บเอาไว้ก็มีแต่หายนะ
“งั้นพวกท่านถอดเสื้อผ้าทำไมเพคะ?” อันหลิงหยุนสงสัย
“เจ้า! ข้าไม่สวมเสื้ออยู่แล้ว เหมือนข้าไม่เคยเปลือยกาย?” พูดถึงเรื่องนี้ อันหลิงหยุนครุ่นคิด เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตอนที่นางอยู่ เขาก็ถอดเสื้ออยู่บ่อยๆ
“สำหรับพระชายาตวน วันนั้นนางพูดกับพระกระยาหาร่า นางแต่งกับอ๋องตวนเพราะถูกราชครูจุนหลอก ยังบอกอีกว่านางทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าไม่ตอบสนองอะไร แต่นางปลดเปลื้องเสื้อผ้าเผยด้านหลังให้ข้าดู หลังของนางมีร่องรอยการถูกทำร้ายด้วยแซ่มาก่อน”
อันหลิงหยุนตะลึง: “นั่นก็หมายความว่าจุนฉูฉูยังคงตัดใจจากท่านไม่ได้ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้อง ……”
“เพ้อเจ้อ นางคือพระชายาตวน เป็นพี่สะใภ้รองของข้า กฎหมายไม่ปรานีใคร ไม่สมเหตุสมผลที่จะยอมรับได้ แม้ข้าจะหน้ามืดตามัว ก็ไม่มีทางทำอะไรเช่นนั้นแน่นอน
นางคือพระชายาตวน เข้าคืออ๋องเสียน ความสัมพันธ์ในอนาคตจะเป็นเพียงน้องชายและพี่สะใภ้เท่านั้น ไม่มีทางเป็นอื่นใด” ใบหน้ากงชิงวี่หนักแน่น อันหลิงหยุนกลับรู้แปลก
“งั้นก็แสดงว่า ท่านไม่มีความรู้สึกกับนางตั้งนานแล้วหรือเพคะ?”
“ความรู้สึกรึ?”
กงชิงวี่รู้สึกประหลาดใจชั่วขณะ: “ข้ากับนางมันเพื่อนเล่นกันโดยไม่ได้คิดอะไรจริงๆ รักในวัยเด็ก อย่าบอกว่าตัวข้าเองเลย แม้แต่ทั้งเมืองหลวง ก็เกรงว่าจะไม่มีผู้ใดคิดว่าเราจะกลายเป็นน้องชายและพี่สะใภ้
สายเกินไปที่อันหลิงหยุนจะต่อต้านอีกครั้ง ทำได้เพียงตอบสนองต่อกงชิงวี่เท่านั้น
นางได้รับความโยนในตอนแรก แต่ต่อมาไม่รู้สึกถึงความนุ่มนวลใดๆ หลังจากกงชิงวี่ลงมือทำสวาทรักมันอย่างรุนแรง ราวกับนำศิลปะการต่อสู้เกือบทั้งสิบแปดชนิดที่มาใช้
ทำสวาทรักเรื่อยๆ ก็ถึงพลบค่ำ นอนพักครู่หนึ่ง ก็ถูกปลุกให้ตื่น แล้วทำมันอีกรอบ และแล้วก็ผ่านไปอีกขั้น
เป็นเวลาสามวันติดที่ไม่ออกจากห้อง ที่จวนอ๋องเสียนมีคนปากพล่อย ในไม่ช้าความจริงที่ว่าพระชายาเสียนเป็นที่โปรดปรานของ อ๋องเสียนเป็นเวลาสามวันติดต่อกันก็แพร่กระจายไปทั่วจวนอ๋องเสียน ผู้อาวุโสฟังแล้วละอายใจ คนที่อายุน้อยฟังแล้วก็เคอะเขิน
หลานวันมานี้อันหลิงหยุนได้ฟังแต่สิ่งเหล่านี้ ทำให้ไม่อยากพบป่ะผู้คน นอกจากทำยา ก็จะอยู่แต่ในห้อง จากนั้นก็ถูกกงชิงวี่ทำสวาทรักในตอนกลางคืน
วันนี้ฟ้ามืดค่อนข้างช้า กงชิงวี่ก็กลับมาค่อนข้างสาย
อันหลิงหยุนอยู่ในจวนอย่างเบื่อหน่าย ว่างจึงทำไพ่กระดาษชุดหนึ่ง เตรียมพร้อมเล่นไพ่กระดาษกับอาหยู่หงเถาและลุ่ยหลิ่ว แต่กำลังจะเริ่มเล่น ก็เห็นว่ามีคนเข้ามาอย่างรีบเร่ง
“พระชายา หลังลานมีคนได้ถูกพิษ ท่านไปตรวจดูหน่อยเถิด หมอจวนก็ดูอาการไม่ออก พ่อบ้านรีบบอกกล่าว”
อันหลิงหยุนไม่สนย่างอื่นและไปที่หลังลาน ไปถึงหลังลานอันหลิงหยุนจึงรู้ว่า ผู้ที่โดนพิษคือแม่นมของจวน จะว่าไปแม่นมผู้นี้หน้าคุ้นๆ แต่อันหลิงหยุนเป็นคนขี้ลืม นึกไม่ออกว่าในทันทีว่าเคยพบแม่นมผู้นี้เมื่อใด
“ข้าดูสิ” อันหลิงหยุนนั่งยองๆ และกุมมือแม่นม แม่นมก้มหน้าไม่กล้ามองอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนก็ไม่ใส่ใจอะไร
เริ่มทำการสแกนอันหลิงหยุนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เปิดแขนเสื้อแม่นมดู มองดูแขนที่เป็นแผลเปื่อยของแม่นมอย่างไม่น่าแปลก
"ท่านได้รับสิ่งนี้มาได้อย่างไร?”
ผู้คนในจวนไม่รู้ว่าแม่นมถูกพิษ เชื่อว่าแม่นมเองไม่รู้ว่าตนถูกพิษ ดังนั้นพ่อบ้านบอกว่ามีคนถูกพิษ เพียงเห็นว่าริมฝีปากของแม่นมเปลี่ยนเป็นสีม่วงและดำ ก็ตัดสินว่าแม่ถูกวางยาพิษเสียแล้ว
แต่แผลเปื่อยนี้ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ มีเพียงแม่นมเท่านั้นที่รู้ และแม้ว่าจะรู้ว่าแผลเปื่อยแล้ว แม่นมอาจไม่รู้ว่าถูกพิษ
เมื่อได้ยินอันหลิงหยุนถาม แม่นมลุกขึ้นและคุกเข่าให้อันหลิงหยุน ร้องไห้พร้อมกับคุกเข่าคำนับ ขอร้องให้อันหลิงหยุนช่วยชีวิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...