ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 112

บทที่ 112 ช่างพูดช่างเจรจา

อันหลิงหยุนโกรธจนพูดไม่ออก มีคนแบบนี้ที่ไหนกัน ว่าเขาหน้าไม่อาย เขากลับยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน

“หยุนหยุน” แม่ทัพอันเรียกนาง อันหลิงหยุนหันกลับไปมองแม่ทัพอัน

“ท่านพ่อ”

“ท่านพ่อตา”

กงชิงวี่อยู่ดีๆพูดขึ้นมาเช่นนี้ ไม่เพียงแต่แม่ทัพอันเท่านั้น แม้แต่ขุนนางที่เดินผ่านไปผ่านมาล้วนตกใจ ตกใจจนอ้าปากค้าง อ๋องเสียนเป็นอะไรไปแล้ว?

อดไม่ได้ที่จะมอง มือของอ๋องเสียนยังกุมมือของพระชายาเสียนอยู่ ทำราวกับกลัวว่าจะถูกใครลักพาตัวไปกระไรอย่างนั้น

อันหลิงหยุนมีดีอะไร?

ใบหน้ามีอายุของแม่ทัพอันแดงก่ำ ถึงแม้ในใจรู้สึกมีความสุขมาก แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมา จึงทำเป็นมองกงชิงวี่อย่างไม่สบอารมณ์นักแล้วพูดว่า: “พวกเจ้าเองก็ไม่ยอมกลับบ้าน ข้าวสักมื้อก็ยังไม่ได้กิน ควรรีบกลับบ้านได้แล้ว”

แม่ทัพอันพยายามทำพูดเสียงให้ต่ำลง คนที่อยู่รอบข้างจึงไม่มีใครได้ยิน

“ข้าเองก็กำลังคิดเช่นนี้อยู่เหมือนกัน พรุ่งนี้อยากจะพาหยุนหยุนกลับไป” กงชิงวี่รีบพูดเสริม แม่ทัพอันเองก็ไม่มีอะไรจะพูดต่อ จึงจับแขนเสื้อให้เป็นระเบียบ สั่งความสองประโยค แล้วเดินจากไป

รอจนแม่ทัพอันจากไป อันหลิงหยุนและกงชิงวี่ก็พูดคุยเกี่ยวกับหัวข้อสนทนาที่ค้างไว้อยู่ต่อ โดยไม่ได้รู้สึกขาดตอนเลยแม้แต่น้อย

ส่วนด้านหลังของเขาทั้งสองคน มีสองพี่น้องเสินหยุนเอ๋อและเสินหยุนเจ๋เดินตามมา

“เจ้าก็รู้ว่าท่านพ่อไม่ชอบพวกเขา เจ้าก็ยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก เจ้าคิดอะไรกันแน่?” เสินหยุนเอ๋อเห็นอันหลิงหยุนก็รู้สึกโกรธ พูดโดยไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย

เสินหยุนเจ๋มองอันหลิงหยุนอยู่ตลอด เมื่อได้ยินคำพูดเสียดแทงจึงหันไปมองเสินหยุนเอ๋อ: “ฟังข้านะ หาคนดีๆสักคน แต่งงานเป็นภรรยาหลวง อย่าไปเป็นพระชายารองให้ใคร ไม่ว่าจะดีจะร้ายยังไงก็ยังเป็นภรรยาหลวง อาศัยฐานะของบ้านตระกูลเสินของเราแล้วนั้น การที่เจ้าจะหาชายหนุ่มที่ถูกใจสักคนมาเป็นสามีก็ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าหากเจ้ายังยึดมั่นที่จะเป็นพระชายารองให้ได้ ภายหน้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น จะไม่มีใครสนใจเจ้าแน่นอน”

“ข้าไม่ต้องการให้ท่านมาสนใจ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ จิตใจของท่านล้วนอยู่ที่นังสารเลวคนนั้น” เสินหยุนเอ๋อยิ่งแสดงความโกรธแค้นออกมามากขึ้น นางไม่สนใจแล้ว นางเป็นพระชายารองเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น สักวันนางจะต้องได้เป็นพระชายาเอก

“เจ้าว่าอันใด?”

เสินหยุนเจ๋ทำหน้าตาดุร้าย

เสิยหลุนเอ๋อยิ้มเยาะ: “ข้าเรียกนางว่านังสารเลว ทำให้ท่านไม่พอใจเช่นนั้นหรือ ท่านรู้หรือไม่ว่า เดิมทีตำแหน่งพระชายาอ๋องเสียนเป็นของข้า แล้วจู่ๆมาบอกว่าเป็นของนางได้กระไร?”

“เจ้านี่มันเกินเยียวยาจริงๆ”

เสินหยุนเจ๋เดินออกจากประตูไป ตอนที่อันหลิงหยุนมองเห็นเขา เขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแล้ว ในมือถือกระบี่โม่เย่เล่มนั้นอยู่

เมื่อมองเห็นเสินหยุนเจ๋ อันหลิงหยุนก็ยืนมึนงงอยู่สักสองสามวินาทีอย่างเลี่ยงไม่ได้

กงชิงวี่ดึงนาง: “มองอะไร มีอะไรน่าดูอย่างนั้นหรือ?”

“ท่านอ๋อง ท่านรู้จักกระบี่โม่เย่หรือไม่เพคะ?” อันหลิงหยุนพบว่า นางไม่เพียงแต่สนใจเกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรและการรักษาโรคเท่านั้น แต่นางยังสนใจเกี่ยวกับอาวุธด้วย

“ข้าไม่รู้จัก กระบี่โม่เย่เล่มนั้นได้มาตอนที่ข้าทำศึก เมื่อกลับมาถึงก็ถวายให้กับฮ่องเต้” กงชิงวี่พูดเบาๆ ฟังไม่ออกเลยแม้แต่น้อยว่าเขารู้สึกดีใจหรือไม่ดีใจ อันหลิงหยุนจึงอดไม่ได้ที่จะหันมองเขา

“ท่านไม่โกรธหรือ?”

“ข้าเองก็เป็นของฮ่องเต้ มีอะไรให้น่าโกรธ พระองค์ทรงชอบก็ดีแล้ว ข้าถวายให้พระองค์แล้ว จะทรงใช้กระไรก็เป็นเรื่องของพระองค์”

“หากท่านพูดเช่นนี้ หมายความว่าต่อไปภายหน้าหากฮ่องเต้ต้องการข้า ท่านก็จะต้องมอบให้เช่นนั้นหรือ?”

“พูดจาเหลวไหล เจ้าคิดว่าฮ่องเต้จะเต็มใจอย่างนั้นหรือ?” กงชิงวี่ลากอันหลิงหยุนออกจากวังไป อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้า นี่มันคำพูดอะไรกัน หรือว่านางไม่มีใครติองการอย่างนั้นหรือ?”

ตอนที่กำลังจะเดินจากไป จุนฉูฉูและอ๋องตวนถูกคนเข้ามาขวางไว้ เป็นคนของฮั๋วไท่เฟย กงกงเชิญพวกเขาไปพบ ทั้งสองเดินตามคนของฮั๋วไท่เฟยไป

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าสีหน้าของจุนฉูฉูไม่สู้ดีเอาเสียเลย อีกทั้งตอนนี้แม้แต่จะแสร้งทำให้น่าดูก็ไม่ไหวแล้ว

มองตามนาง กงชิงวี่เคาะหัวของนางหนึ่งครั้ง: “มองอะไร?”

อันหลิงหยุนพูดว่า: “ข้าเห็นพระชายาตวนไม่สบายใจ ตำแหน่งฮองเฮาที่นางตั้งตารอคอยคงจะไม่ได้มาถึงในเร็วๆนี้แล้ว ตอนนี้จะว่าไปแล้ว น่าจะเป็นไปไม่ได้อีก”

“นั่นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เจ้าเป็นห่วงตัวเจ้าเองก่อนเถอะ แม้แต่ไข่สักฟองก็ยังไม่มี”

กงชิงวี่ทำตาเข้ม อันหลิงหยุนยิ่งไม่พอใจ: “ไม่มีไข่แล้วโทษข้าอย่างนั้นหรือ ทำไมท่านไม่ลองถามตัวเองดูบ้างล่ะว่า ท่านเองหรือเปล่าที่หว่านไถไม่เป็นรึ?”

“ไอ้หยา นี่ข้าน้อยมาได้ยินเรื่องที่ไม่ควรจะได้ยินใช่หรือเปล่า” ไห่กงกงรีบเอามือปิดหน้า ตอนนี้เองมี่อันหลิงหยุนเพิ่งจะเห็นว่าไห่กงกงมาแล้ว

“ขายหน้าท่านกงกงจริงๆ” กงชิงวี่พูดอย่างตรงไปตรงมา อันหลิงหยุนรู้สึกละอายใจแทนเขาจริงๆ

ไห่กงกงรีบพูดว่า: “ไทเฮาสั่งให้ข้าน้อยมารอท่านอ๋องเสียนและพรชายาเสียน อ๋องเสียน พระชายาเสียน เชิญทางนี้”

อันหลิงหยุนแปลกใจ ทำไมวันนี้ทั้งไทเฮาและไท่เฟยเหมือนจะปรึกษากันมาเป็นอย่างดี ต่างก็เข้ามาขวางคนไว้

กงชิงวี่จูงอันหลิงหยุน ตอบรับแล้วจึงเดินตามไป

มาถึงวังเฉาเฟิ่งก็พบกับหวางฮองไทเฮา อันหลิงหยุนถึงเพิ่งจะรู้ว่า วันนี้ทำไมจึงถูกตามตัวมา คงจะไม่ใช่เรืองดีอย่างแน่นอน

“ตำหนักทั้งสองของฝ่าบาทมีความเคลื่อนไหวแล้ว รู้ใช่หรือไม่?” หวางฮองไทเฮามองกงชิงวี่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ทำราวกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกงชิงวี่

“ทราบพ่ะย่ะค่ะ เพิ่งจะทราบเมื่อครู่” ดูเหมือนว่ากงชิงวี่คนเดียวก็พอจะต่อกรกับหวางฮองไทเฮาได้ อันหลิงหยุนพบว่าจริงๆแล้วนางคงจะไม่ต้องเป็นกังวลอะไร

หวางฮองไทเฮาถอนหายใจเบาๆ: “ฮ่องเต้ไม่ทรงมีบุตรมาหลายปี ครั้งนี้กลับมีเรื่องยินดีพร้อมกันถึงสองเรื่อง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะเซียวกุ้ยเฟยนำพรของพระเจ้ามาประทานให้หรือไม่ ข้าเองรู้สึกดีใจจริงๆ”

อันหลิงหยุนรู้สึกว่า มองไม่ออกแม้แต่นิดเดียวว่ารู้สึกดีใจ

แต่ฮ่องเต้ชิวหยู่เองก็เป็นลูกชายของหวางฮองไทเฮา ลูกชายมีผู้สืบสกุล ผู้เป็นแม่ควรจะดีใจถึงจะถูก แต่กลับรู้สึกว่าหวางฮองไทเฮาไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น

กงชิงวี่พูดเบาๆ: “ลูกเองก็ร้อนใจ นี่ไม่ใช่ว่า เพิ่งจะเข้าหอเพียงไม่กี่วันมิใช่หรือ”

“ขอบพระทัยเสด็จแม่” อันหลิงหยุนหน้าแดง จะเป็นหลักกระไร ให้ลูกชายของท่านหว่านไถบ่อยๆเช่นนั้นหรือ?

“หากคำนวณดูเช่นนี้ ไม่เกินหนึ่งเดือนก็น่าจะมีข่าวดี ไม่แน่ว่าอาจภายในหนึ่งหรือสองวันนี้”

อันหลิงหยุนกดดันอย่างหนัก นี่เป็นจังหวะที่จะต้องมีลูก

กงชิงวี่เผยรอยยิ้มออกมา: “ลูกคงจะต้องขยันสักหน่อยแล้ว”

“......” หวางฮองไทเฮาไม่ได้สนใจเขา: “พอแล้ว ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็กลับกันเถอะ ข้าจะรอฟังข่าวดีของพวกเจ้า”

อันหลิงหยุนออกมาจากพระตำหนักเฉาเฟิ่ง ก็รู้สึกจนปัญญา ถ้าหากไม่มีลูกจะทำเช่นไร?

ในวังฮั๋วหยาง

“ข้าว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า จริงๆแล้วหลายวันก่อนฉูฉูเองก็พูดไปแล้ว แต่ข้าเองไม่ได้นำมาใส่ใจ บังอิญว่าหลายวันก่อน อันกั๋วกงเข้าวัง ข้าจึงพูดเรื่องนี้ขึ้น เขาก็รู้สึกสนใจขึ้นมา เจ้าเองก็รู้ หลานสาวคนเล็กของอันกั๋วกง ชอบเจ้ามาตั้งแต่เด็กๆ แต่ข้าเองไม่เคยรับปากเรื่องนี้มาก่อน เป็นเพราะว่าเจ้าไม่ชอบ ไม่เหมือนกับฉูฉูที่รู้เหตุรู้ผล

ในเมื่อตอนนี้อันกั๋วกงมีใจ ข้าจึงได้รับปากไปแล้ว

เลือกวันสักวัน จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ถือเสียว่าจะได้คลายความกังวล”

จุนฉูฉูจะขยับก็ไม่ขยับ นั่งอยู่ข้างๆ

อ๋องตวนไม่ยอมรับ: “เสด็จแม่ เรื่องนี้ต้องรออีกหน่อย ฉูฉูเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์แล้ว อีกไม่กี่วันจะต้องมีข่าวดีแน่นอน ตอนนี้สู่ขอพระชายารอง ลูกเพิ่งจะแต่งงานหมาดๆ จะไปสู่ขอได้กระไร? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ลูกไม่ได้ชอบหลานสาวคนเล็กของอันกั๋วกง และจำนางไม่ได้ด้วย”

“เหลวไหล เรื่องนี้ให้เจ้าตัดสินใจเองได้หรือ ข้าปรึกษากับฉูฉูแล้ว เจ้าจะร้อนใจอะไร?” เดิมทีฮั๋วไท่เฟยก้ไม่ได้สนใจอ๋องตวน แต่กลับไปปรึกษากับฉูฉูโดยตรง

จุนฉูฉูรู้สึกอึดอัดใจจนทนไม่ไหว วันนี้ที่ห้องโถงใหญ่ ได้เห็นกงชิงวี่เอาใจใส่อันหลิงหยุนขนาดนั้น ทำให้นางโกรธจนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

อีกทั้งฮ่องเต้ยังทรงประกาศเรื่องการตั้งครรภ์ของสองพระองค์ ใจของนางแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

แต่เดิมนางก็เคยคิดที่จะแต่งงานกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แต่เมื่อเห็นว่าไม่อาจจะคาดหวังอะไรได้ จึงล้มเลิกความคิดนั้นลง

มาวันนี้ จะมีหรือไม่มีลูกแล้วจะมีประโยชน์อะไร อ๋องตวนไม่อาจเลื่อนขั้นได้ ฮ่องเต้เองก็มีทายาท แล้วนางจะยังมีความหวังอะไรอีก

“ฉูฉู”

ฮั๋วไท่เฟยท่าทางไม่ค่อยพอใจนัก สีหน้าเริ่มเย็นชา

จุนฉูฉูรีบตั้งสติ ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า: “ที่เสด็จแม่พูดมา ล้วนเป็นเรื่องที่ลูกเองก็คิดอยู่ เสด็จแม่ ครอบครัวของอันกั๋วกงเองก็กว้างขวางไม่น้อย ฉูฉูเองก็ได้ยินเรื่องราวของอันกั๋วกงมาบ้างเล็กน้อย หากเป็นน้องสาวของครอบครัวอันกั๋วกง เรื่องนี้ก็ขอให้ท่านแม่เป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนเรื่องฤกษ์นั้น ลูกจะหาคนมาดูให้”

“อืม ฉูฉูช่างรู้เหตุรู้ผลจริงๆ เข้าใจหลักการ เจ้านี่นะ......” ฮั๋วไท่เฟยมองใบหน้าซีดเผือดของอ๋องตวน แล้วโบกมือ แสดงว่าให้ออกไป

อ๋องตวนหันมองจุนฉูฉู ถึงแม้เรื่องของพระชายารองจะเคยพูดถึงเมื่อนานมาแล้ว แต่เขาไม่คิดว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ

อีกทั้งนางยังตอบตกลงอย่างใจเย็น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน