ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 131

บทที่ 131 รับผิดชอบจวนอ๋อง

เมื่อเดินทางมาถึงหน้าจวนแม่ทัพ พ่อบ้านอุ้มหมาจิ้กจอกหางสั้นกำลังรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นอันหลิงหยุนและกงชิงวี่ จึงรีบกุลีกุจอเดินหน้ามาทักทาย

หมาจิ้งจอกหางสั้นเห็นว่ากงชิงวี่หายโกรธแล้ว จึงคิดจะโผเข้าสู่อ้อมแขนของอันหลิงหยุน แต่ทันทีที่มันคิดจะโผเข้าสู่อ้อมแขนอันหลิงหยุน ก็ถูกกงชิงวี่ขวางเอาไว้ซะก่อน

“เจ้านายเจ้ายังไม่หายไข้....เป็นหวัด”กงชิงวี่เปลี่ยนวาจาอย่างกะทันหัน

เดิมทีเขาไม่รู้ว่าอันใดคือเป็นหวัด เขาเรียกมันว่าได้ไข้ตลอด นางมักจะพูดว่าเป็นหวัดอยู่ตลอด ตอนแรกเขาก็ไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว

เพียงแค่ว่าทั้งสองโลกเรียกไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง

หมาจิ้งจอกหางสั้นก้มหัวลงอย่างหดหู่ อยากเข้าใกล้อันหลิงหยุนมากส่งเสียงร้อง กี๊ด กี๊ด อันหลิงหยุนกล่าวว่า “เจ้าไปที่อ้อมแขนเขา”

หมาจิ้งจอกหางสั้นเงยหน้าขึ้น ค่อนข้างจะไม่เต็มใจนัก แต่มันก็ไม่กล้าขัด

แต่กงชิงวี่ก็ไม่ยอม “ปล่อยให้มันเล่นเองเถอะ”

จิ้งจอกหางสั้นเลยจำยอมต้องกลับไปอยู่ในอ้อมแขนพ่อบ้าน มองไปที่อันหลิงหยุนด้วยความเศร้าสลด และนอนนิ่งไม่ขยับตัวอีก

“ท่านแม่ทัพออกจากจวนไปแล้ว คุณท่านกับคุณหนูเชิญไปพักผ่อนก่อน ข้าน้อยจะให้คนจัดเตรียมอาหารให้” พ่อบ้านจัดแจง อันหลิงหยุนถามคำถามเกี่ยวกับท่านแม่ทัพสองสามข้อ ท่านแม่ทัพไปดื่มเหล้ามงคลแล้ว แม่ทัพรองที่เป็นลูกน้องใต้บังคับของแม่ทัพอันเข้าพิธีแต่งงานวันนี้ แม่ทัพอันได้เดินทางไปแต่เช้าแล้ว

เมื่อแม่ทัพอันไม่อยู่ อันหลิงหยุนก็รู้สึกว่าอยู่ต่อก็ไม่มีความหมาย ไม่รับประทานอาหารเช้าก็เดินทางกลับจวนอ๋องเสียนแต่เช้า ระหว่างทางกงชิงวี่ก็ซักถามอันหลิงหยุนเกี่ยวกับโลกอนาคตอีก ยิ่งถามเขายิ่งประหลาดใจ ยิ่งกลัวว่าอันหลิงหยุนจะหนีหายไป

เตือนอันหลิงหยุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่าถ้านางหนีจากไป เขาจะทำลายจวนแม่ทัพให้ย่อยยับ

อันหลิงหยุนรู้สึกหดหู่ใจยิ่งนัก นางไม่น่าจะพูดเลย

กลับถึงจวนอ๋องเสียนกงชิงวี่กลับเข้าไปในเรือนถามอันหลิงหยุน “ความหมายของพระชายาวันหน้าท่านจะปรับปรุงลานโอวหลานนี่ทั้งหมดหรือ?”

“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แต่ว่าข้าชอบเรือนที่อบอุ่นในฤดูหนาวและเย็นสบายในฤดูร้อน อย่างเช่นตอนนี้อากาศค่อนข้างหนาว เตาไฟไม่ได้ใช้แล้ว แต่ว่าห้องก็ยังหนาวอยู่ดี

แต่เรือนท่านอ๋องมีเตียงอุ่นอยู่ ก็เลยไม่หนาว เพราะฉะนั้นหม่อมฉันจึงคิดวางแผนปรับปรุงตกแต่งซะหน่อย หากทำแล้วเรือนยังไม่อุ่นขึ้น งั้นหม่อมฉันคงต้องตั้งเตาไฟในเรือนแทนแล้วกระมัง”

“ตกแต่ง?” ละเลยไม่สนใจเรื่องอื่น กงชิงวี่ค้นหาคำที่อันหลิงหยุนพูดถึงเกี่ยวกับโลกอนาคตโดยละเอียด แต่ไม่มีคำพูดนี้

อันหลิงหยุนอธิบายว่า “เป็นเพียงการปรับปรุงเรือน ทาสีใหม่ ดูว่ามีอันใดที่จะต้องเปลี่ยนหรือต้องทำอันใดใหม่เพิ่ม ก็เหมือนการจัดวางสิ่งของก่อนการแต่งงานเท่านั้นเอง”

“อืม”

กงชิงวี่พยักหน้ารับ เพื่อแสดงว่าเขาเข้าใจ

“ท่านอ๋อง วันนี้ท่านไม่ไปเข้าเฝ้าถวายการรับใช้ฝ่าบาทหรือ?” แม้ว่าจะถามช้าไปหน่อย อันหลิงหยุนรู้สึกว่าอย่างน้อยนางควรรู้ว่าวันๆหนึ่งกงชิงวี่ทำอันใดบ้าง

“พระชายาไม่สบายอยู่ ข้าได้ให้คนไปแจ้งเรื่องที่วังแล้ว ไม่ต้องเข้าวัง” กงชิงวี่ลุกขึ้น “ข้ายังมีธุระ พระชายาจะตกแต่งต้องการเงิน หากต้องการใช้ก็หยิบจากตู้ได้เลย”

“ขอบพระคุณท่านอ๋อง” อันหลิวหยุนกล่าวขอบคุณ

กงชิงวี่ออกจากประตูไป

ออกจากลานโอวหลาน สีหน้ากงชิงวี่ไม่สู้ดีนัก ในด้านข้างห้องโถงหน้าเรือนมีคนรออยู่นานแล้ว

พ่อบ้านกับอาหยู่คุกเข่าอยู่ ส่วนถางเหอแค่ก้มหัวยืนอยู่

ประตูเปิดออกกงชิงวี่เข้าไป กงชิงวี่นั่งลงบนเก้าอี้หยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วดื่มคำหนึ่งแล้วมองลงไปที่พ่อบ้านกับอาหยู่

“อาหยู่ ป้ายของคุกใต้ดินอยู่กับเจ้า เจ้านำไปช่วยอาซิวโดยพลการ เรื่องนี้เจ้าจะยอมรับหรือไม่” กงชิงวี่กล่าวอย่างใจเย็น

อาหยู่ก้มหัว “หม่อมฉันยินดีรับโทษด้วยความตาย”

“โทษตายให้ละเว้นไป พระชายาช่วยเจ้ารับผิดชอบแล้ว หากข้ายังจะลงโทษเจ้าอีก พระชายามีหรือจะยอมนิ่งเฉย” กงชิงวี่ถือถ้วยน้ำชาดื่มต่อ

อาหยู่ค่อยๆเงยหน้าขึ้น ความรู้สึกมากมายหลากหลายในใจ เขาไม่รู้ว่าควรประหลาดใจที่ท่านอ๋องกลัวเมียแล้ว หรือจะบอกว่าท่านอ๋องเปลี่ยนไปดี

ถางเหอแค่นึกแปลกใจ วันนี้ท่านอ๋องอารมณ์ดี

“ท่านอ๋อง ข้าน้อย.....” พ่อบ้านเช็ดน้ำตา “ละอายใจต่อท่านอ๋อง”

“จากวันนี้เป็นต้นไปพระชายาจะเป็นคนรับผิดชอบดูแลเรื่องในจวนอ๋องเต็มตัว เดี๋ยวพ่อบ้านจัดการคัดแยกบัญชีแล้วนำไปส่งให้พระชายาดู อาหยู่ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้ารับผิดชอบปกป้องความปลอดภัยของพระชายา ส่วนถางเหอ” กงชิงวี่เลิกคิ้วมองไป “หันหน้าเข้ากำแพงรำลึกความผิดสิบวัน สิบวันนี้ห้ามเจ้าออกไปไหนเป็นอันขาด ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าออกไปละก็ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่

“หม่อมฉันขอบคุณท่านอ๋องที่กรุณา”ถางเหอยกมือขึ้นคารวะ

กงชิงวี่วางถ้วยชาลง “ใช่ว่าข้าจะยอมปล่อยเจ้า เพราะพระชายาไม่ให้ข้าลงโทษเจ้า ครั้งหน้าหากมีผู้ใดกล้าคิดร้ายต่อพระชายาอีก ข้าจะไม่ยอมปล่อยมันผู้นั้นไปแน่”

“พวกหม่อมฉันไม่กล้าอีกแล้ว” ถางเหอรีบตอบรับอย่างเร็ว

หลังจากนั้นกงชิงวี่ก็ออกจากประตูไป

พ่อบ้านเช็ดน้ำตาออก รีบไปเตรียมบันทึกสมุดบัญชีให้อันหลิงหยุนทันที

ร่างกายอันหลิงหยุนเริ่มดีขึ้นนิดหน่อย พอเห็นสมุดบัญชีก็ลืมเรื่องนั้นไปเลย

เวลานี้อันหลิงหยุนถูกใจเตียงอุ่นของกงชิงวี่นัก เรือนก็ไม่กลับแล้ว ให้หงเถาลุ่ยหลิ่วนำผ้าห่มมาให้ทางนี้ แล้วก็พิงอยู่ด้านบน สมุดบัญชีวางอยู่บนโต๊ะ อันหลิงหยุนพิงบนผ้าห่มหยิบสมุดบัญชีเล่มหนึ่งขึ้นมาดู กลิ่นธูปหอมโชยบางๆ อันหลิงหยุนดูเข้าไปแล้ว

อันหลิงหยุนดูเล่มที่หยิบมาจนจบก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ “จวนอ๋องของเราแต่ละปีรายจ่ายเยอะกว่าหรือรายรับเยอะกว่า?”

กงชิงวี่เงยหน้าชำเลืองมอง ไม่ได้กล่าวอันใดก้มหน้าก้มตาดูสมุดบัญชีต่อ

อันหลิงหยุนกล่าวต่อว่า “ลูกของคนรับใช้ ที่เป็นหญิงแต่งงาน จะต้องผ่านความเห็นชอบการเลือกเขยของข้า ถ้ามีคนรับใช้ที่มีความรักต่อซึ่งกันและกัน ให้มารายงานข้าก่อน หากข้าตรวจสอบชัดเจนว่าเป็นความต้องการของทั้งสองฝ่ายจริง ไม่ได้มาจากการบีบคั้นของพ่อแม่ ข้าจะเป็นแม่งานให้

หากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ชายด้านนอกไม่ให้เข้าลานท้ายเรือนโดยง่าย และไม่อนุญาตหญิงลานท้ายเรือนคนใดเกี่ยวข้องส่วนตัวกับคนด้านนอก

แต่หากไม่ถูกใจชายในจวนของเรา มาหาข้า บอกให้ชัดเจนว่าถูกใจชายบ้านใด ข้าสามารถตรวจสอบให้ชัดเจน ถ้าคนผู้นั้นซื่อสัตย์และจริงใจ เป็นคนดีคนหนึ่ง ข้ายินยอมให้มารับคนไป

ลูกของคนรับใช้คนใดก็ตาม แต่งงานกับชาวบ้านยากไร้ ก็มีสิดสอดให้ก้อนหนึ่ง แต่คงไม่เยอะ พิจารณาจากอารมณ์ของข้า

ถ้าฝ่ายชายถูกใจหญิงนอกจวน อยากแต่งเข้าจวน ต้องรายงานก่อน เมื่อข้าอนุญาตแล้ว จะดำเนินการให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอให้ และจวนอ๋องออกค่าใช้จ่ายการแต่งงานให้

นอกเหนือจากนี้ เด็กทารกที่เกิดในจวน ห้าขวบขึ้นไปต้องเริ่มเรียนรู้ตัวอักษร เด็กชายต้องเรียนวรยุทธ์ เด็กหญิงต้องเรียนดีดพินวาดภาพและการเขียนตัวอักษร ดูจากคุณสมบัติของแต่ละคน หากว่าคุณสมบัติสูง จะได้รับส่งเสริมอย่างดี

คุณสมบัติที่ไม่สูงนัก ก็จะถูกกำหนดให้ทำงานในสถานที่ต่างๆตามกฎ แต่ถึงจะเป็นแค่คนทำงาน ก็จำเป็นต้องมีการศึกษา ต้องเรียนรู้

จวนอ๋องของเรา เด็กชายต้องเป็นคนเที่ยงธรรม เด็กหญิงต้องมีความเมตตากรุณา เรื่องอื่นไม่มีข้อเรียกร้องใดเป็นพิเศษ

ข้าเห็นเด็กๆในจวนอ๋องของเรา ส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ โดยเฉพาะผู้หญิง นอกจากแต่งงานมีลูกแล้ว ก็ต้องทำแต่งานหยาบ

จวนอ๋องเราต้องการคนทำงานก็จริง แต่คนเราทุกคนก็มีความปรารถนาของตนเองไม่ควรจะถูกบังคับ และไม่สมควรปิดกั้นความสามารถพวกเขาได้

พ่อบ้านเหลือบมองไปที่กงชิงวี่ที่กำลังเอนตัวดูสมุดบัญชีอยู่ ท่านอ๋องไม่เสียดายที่ยอมให้พระชายารับผิดชอบจวนอ๋องจริงๆ เป็นอย่างนี้ต่อไป เงินของจวนอ๋องจะไม่ถูกใช้จนหมดหรือ

“พระชายากล่าวได้ถูกแล้ว” พ่อบ้านตอบกลับ

อันหลิงหยุนสั่งว่า “เริ่มแต่วันนี้ไป จัดเตรียมสถานที่ที่เงียบๆที่ลานท้ายเรือน ให้พวกเด็กๆได้ใช้สำหรับการเรียน ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนทางจวนอ๋องจะจัดเตรียมให้ เมื่อเด็กๆไปเรียนแล้ว หากมีผู้ใดขัดขวางไม่ให้เด็กๆได้เรียน มาหาข้า

เรื่องนี้ฝากให้ท่านถางไปดำเนินการ”

“เรื่องนี้”พ่อบ้านกังกลอย่างมาก

อันหลิ่งหยุนถาม “พูดเถอะ มีเรื่องอันใด”

พ่อบ้านมองกงชิงวี่ไม่มีปฏิกิริยาใด เลยทำใจกล้าพูดว่า “เป็นเพราะเรื่องของอาซิว ท่านถางไปหันหน้าเข้ากำแพงรำลึกความผิด อาจใช้เวลาสิบวัน”

อันหลิงหยุนมองไปทางกงชิงวี่ คิดสักพัก “ท่านอ๋องให้ท่านถางหันหน้าเข้ากำแพงรำลึกความผิดก็ถือเป็นการลาพักของเขา ให้เขามาสร้างห้องเรียนไม่ดีกว่าหรือ”

กงชิงวี่ตอบอืมคำหนึ่ง พ่อบ้านตัวสั่น นี่ยังเป็นท่านอ๋องอีกหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน