ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 135

บทที่ 135 อ๋องตวนโดนซุ่มทำร้าย

อันหลิงหยุนจับมือเขาพลักออกไป “หน้าไม่อาย”

“พระชายาของข้าเองมีอันใดน่าอาย” พูดจบจัดความเรียบร้อยให้อันหลิงหยุนเล็กน้อย ดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อนแขน

อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ หันหน้าไปมองกงชิงวี่ “ท่านกอดข้าไว้ทำไม”

“ข้ารู้สึกหงุดหงิดจนกระวนกระวาย กอดสักพักช่วยให้ผ่อนคลายอารมณ์” คำพูดกงชิงวี่ถ้าไม่ทำให้คนประหลาดใจคงไม่ยอมรามือแน่ อันหลิงหยุนจ้องกงชิงวี่อย่างไม่สบอารมณ์ หน้าด้าน!

กอดกันไว้กงชิงวี่หอมแก้มนางตลอด อันหลิงหยุนรู้ว่ากงชิงวี่คิดเรื่องอย่างว่า เลยอยากดึงความสนใจของเขาไปทางอื่น ถามเรื่องฮั๋วไท่เฟยขึ้นมา

“ถ้าเดาไม่ผิด ฮั๋วไท่เฟยได้ส่งพระชายาตวนกลับตระกูลจุนแล้ว อ๋องตวนยังอยู่ในวัง ไม่แน่ว่าพระชายารองคนนั้นจะเข้าวังไปแล้ว”

กงชิงวี่กล่าวสบายใจ ถอดเสื้อผ้าอันหลิงหยุนออก ยังอยากเข้าใกล้นาง

ตัวของเจ้ามีกลิ่นหอมนมของเด็กทารก เนียนนุ่มเหมือนเด็กอ่อน

กลิ่นแบบนี้ ทำให้คนหลงใหล

ในที่สุดรถม้าก็มาถึงจวนอ๋องเสียน รถเพิ่งจอดลงอันหลิงหยุนก็ถูกอุ้มลงมา

เมื่อถึงลานโอวหลานให้คนไม่เกี่ยวข้องถอยออกไป อันหลิงหยุนถูกกงชิงวี่อุ้มเข้าห้อง ประตูปิดลง แล้วไปที่เตียงอุ่น

โคมไฟในห้อง ผ้าม่านข้างเตียงถูกปิดลง ปิดล้อมเตียงอุ่นเอาไว้

กงชิงวี่รีบร้อนถอดเสื้อผ้า เปิดผ้าห่มออกขึ้นไปด้านบน

อันหลิงหยุนกลอกตา “ท่านอ๋อง ทุกวันก็พักผ่อนเวลานี้ ไม่เห็นท่านจะรีบร้อนขนาดนี้?”

“มันจะเหมือนกันได้กระไร ข้าจะให้กำเนิดเด็กทารก หมอหลวงฮู๋บอกแล้วว่าสองสามวันนี้แหละ ข้าต้องทำเวลาแล้ว” หลังจากพูดจบดึงอันหลิงหยุน เข้าไปผูกพันในผ้าห่ม

อันหลิงหยุนรู้สึกบางอย่างผิดปกติไป มักจะรู้สึกว่าร่างกายแตกต่างจากเมื่อก่อน

แต่บอกไม่ถูกว่าต่างกันตรงไหน

เวลานี้จุนฉูฉูกำลังยืนรออยู่ตรงหน้าประตูตระกูลจุน ได้รับจดหมายจากอ๋องตวนจุนฉูฉูแค่รู้สึกน่าขำโยนจดหมายทิ้งไป อ๋องตวนยังไม่กล้าทรยศนาง นางไม่สนใจอยู่แล้ว

กลับเป็นประตูตระกูลจุน ทำให้ให้นางเศร้าโศก

จุนฉูฉูกลับมาถึงตระกูลจุนตอนฟ้ามืด ตอนแรกก็สามารถเข้าประตูได้ แต่บัดนี้ไม่เหมือนวันก่อน นางไม่เหลือฐานะอันใดแล้วในตระกูลจุน ทำให้ถึงอยากเข้าไป ก็เข้าไปไม่ได้

เห็นๆอยู่ว่าให้คนไปรายงานแล้ว ถึงแม้คนในจวนจะไม่มีใครออกมาก็ช่าง แต่แค่จะออกมาแจ้งให้ทราบยังไม่มี

จุนฉูฉูหนาวอยู่บนรถม้าหนึ่งคืน ในหนึ่งคืนนี้นางคิดทบทวนหลายๆเรื่อง ตระกูลจุนไม่สนใจ แต่ตัวนางไม่อาจจะไม่สนใจตัวเองได้

ในเมื่อแต่งกับอ๋องตวนแล้ว ก็ทำได้แค่ช่วยให้อ๋องตวนขึ้นครองราชย์ ทันทีที่อ๋องตวนได้เป็นฮ่องเต้ นางจะได้เป็นแม่ของแผ่นดิน ถึงเวลานั้น ตระกูลจุนแล้วยังอันใด

คิดถึงตรงนี้ จุนฉูฉูก็มีวิธีแล้ว นางจะยืมมืออันหลิงหยุน กำจัดลูกทั้งสองคนของฮ่องเต้ เช่นนั้นแล้วไม่เพียงแต่ให้จวนอ๋องเสียนถูกกวาดล้าง แม่ทัพอันก็จะถูกกำจัดไปด้วย นั่นจะทำให้นางมีวันที่ประสบความสำเร็จ

ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกไป ฮ่องเต้ไม่ปล่อยทุกคนในจวนอ๋องเสียนไปแน่

เมื่อไม่มีลูกของตัวเองแล้ว เขายังไม่มีรัชทายาทรับช่วงบัลลังก์ เช่นนั้นแล้วคงต้องยกบัลลังก์ให้กับอ๋องตวน

เมื่อฟ้าสร่าง ประตูตระกลูจุนเปิดออก คนเฝ้าประตูเดินออกมาจากข้างใน เห็นรถม้าจุนฉูฉูจึงเดินหน้ามาน้อมทักทาย “น้อมทักทายพระชายา”

“ไม่ต้องมากพิธี” จุนฉูฉูลงจากรถม้า มองหน้าขึ้นดูตัวอักษรสามคำจวนราชครูจุน ตามคนรับใช้กลับตระกูลจุน

พ่อบ้านออกมาแจ้งว่า “ราชครูให้พระชายาไปที่ห้องสถานธรรมหลังเรือนคัดลอกพระคัมภีร์ ต้องสามวันถึงจะออกมาได้”

จุนฉูฉูหน้าซีดเผือก ในสถานธรรมมีแต่พวกหญิงชรา นางไปคัดลอกพระคัมภีร์สามวัน มือของนางจะเอาไม่เอา?

ตอนนี้อากาศก็ไม่ค่อยจะอุ่นเท่าไหร่ คุกเข่าคัดลอก อนาคตขาของนางคงต้องเหลืออาการเจ็บป่วยไว้แน่

“ข้าอยากพบท่านปู่ เขาอยู่ที่ไหน?” จุนฉูฉูอยากไปขอร้อง

“ราชครูบอกว่า ท่านไม่อยากพบพระชายา”

จุนฉูฉูเกือบจะล้มลง ตอนที่หมุนตัวขาอ่อนไปหมด

ถ้ารู้แต่แรก นางควรจะแต่งกับกงชิงวี่ ถ้าไม่ใช่ว่านางยอมถอยให้ด้วยความเต็มใจ อย่างอันหลิงหยุนจะมีปัญญาอันใด จะมาได้กับกงชิงวี่

สวรรค์ ท่านช่างเล่นตลกใหญ่หลวงนัก

จุนฉูฉูไปที่สถานธรรมหลังจวนในใจเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ตอนแรกนางคิดว่าตอนเข้าประตูไปจะได้เห็นท่านย่าอยู่ในสถานธรรม แต่ข้างในกลับไม่มีผู้ใดอยู่เลย

บนพื้นมีฟูกอยู่ แต่ในห้องก็ยังหนาวเย็นยิ่งนัก

ทุกคนในตระกูลจุนต่างรู้ดี สถานธรรมหลังจวนไม่ใช่ที่สำหรับถือศีลกินเจ แต่มีไว้สำหรับลงโทษผู้หญิงในจวนที่กระทำผิด ดังนั้นสภาพก็ไม่ได้ต่างอันใดกับคุกมากนัก

พระพุทธรูปสามองค์ที่อยู่ตรงหน้า มองขึ้นไปเหมือนจะสง่าผ่าเผย แต่กลับเต็มไปด้วยความชั่วร้าย

จุนฉูฉูคุกเข่าลงอย่างไม่มีทางเลือก ยึดมั่นอยู่กับศักดิ์ศรีสุดท้าย รอพระคัมภีร์ส่งมา

วางพระคัมภีร์ลง คนรับใช้ก็กลับออกไป ล็อกประตูจากด้านนอก จุนฉูฉูหยิบพู่กันมา เริ่มคัดลอกพระคัมภีร์

ในวังฮั๋วหยาง

หยุนโล๋ชวนมองไปทางอ๋องตวนที่นั่งตัวตรงอยู่ข้างๆอย่างหมดหนทาง เดินไปข้างหน้าสองสามก้าวด้วยความไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ในใจกล่าวโทษชาติที่แล้วไปทำกรรมอันใดไว้ ชาตินี้ถึงได้มาพบกับคนไม่เอาไหนแบบนี้ ไม่มีความสามารถยังไม่พอ ยังเป็นคนไม่แบ่งแยกดีชั่วอีก

อ๋องตวนมองที่มือขาวของหยุนโล๋ชวนอย่างใจลอย คิดว่าฉูฉูไม่ทำแบบนี้แน่ๆ เพราะฐานะของนางไม่อนุญาต นางรู้สึกว่ามันสกปรกมาก

หยุนโล๋ชวนทำอยู่สักครู่ ลุกขึ้นไปล้างมือ วิหารบรรทมรองคนน้อย นางไม่คุ้นชินกับวิหารบรรทมรอง หาไปสักครู่ไม่พบที่ที่จะล้างมือได้รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

“สถานที่ล้างมืออยู่ไหน?” หนุนโล๋ชวนถามอ๋องตวน อ๋องตวนพาหยุนโล๋ชวนไปล้างมือ

จากที่ที่ล้างมือออกมาหยุนโล๋ชวนเตรียมตัวกลับ พูดถึงเรื่องที่นางยังไม่อยากแต่งงาน

อ๋องตวนก้มหน้ามองคนตัวไม่สูง ดูยังอันใดก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง

“ในเมื่อเจ้าไม่ยินยอม ทำไมยังตอบตกลงอีก” กงชิงหยินถามไม่รู้ตัว

หยุนโล๋ชวนตอบอย่างไม่รอช้า “ได้ยินมาว่าอ๋องเสียนเป็นคนใจร้อนเจ้าอารมณ์ ข้าต้องไม่อยากแต่งกับคนเช่นนั้นอยู่แล้ว ฟังท่านปู่พูดอ๋องตวนเป็นคนนิสัยดี หน้าตาหล่อเหลา มีความสามารถในปกครองทั้งบู๋นและบู๊ ใครจะรู้ว่าอ๋องตวนเป็นแค่หมอนปักที่มีลายดอกไม้ แถมยังปักได้สับสนวุ่นวาย”

หยุนโล๋ชวนนึกถึงเรื่องที่กิงชิงหยินปกป้องจุนฉูฉูอย่างไม่แบ่งแยกผิดถูก ไม่อยากเกี่ยวข้องอันใดกับอ๋องตวนจริงๆ

อ๋องตวนหน้าเขียว เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะรังเกียจเขามาก

“ข้าไม่ใช่หมอนปักลายดอกอันใดนั่น เจ้าแค่จำไว้ว่า ตราบใดที่เจ้าไม่ก่อปัญหาใดๆ ข้าจะปฎิบัติต่อเจ้าอย่างดี ในเมื่อเจ้าจะแต่งเข้าจวนอ๋องตวน วันข้างหน้าก็เป็นพระชายารองของเจ้าให้ดีๆ ไม่งั้นข้าไม่มีทางยอมแน่”

กงชิงหยินไม่อยากอยู่ต่อ ก้าวเท้าออกจากวิหารบรรทมรองเดินไปยังวังฮั๋วหยาง

หยุนโล๋ชวนไม่สนใจเรื่องที่กงชิงหยินจะอยู่หรือไปอยู่แล้ว ตอนแรกนางคิดจะเดินเล่นไปรอบๆอย่างไม่รีบเร่ง แต่พอเห็นคนชุดดำหลายคนปีนเข้ากำแพงมาด้วยความรวดเร็ว เห็นคนเหล่านั้นเดินไปทางวิหารหลักวังฮั๋วหยาง เหมือนเข้ามาในที่ที่ไม่มีคน หยุนโล๋ชวนเดินตามไปทันที

ไม่รอจนถึงวิหารหลักวังฮั๋วหยาง คนพวกนั้นก็ได้พบกับอ๋องตวนแล้ว อ๋องตวนก็ตกใจมากเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าคนพวกนั้นมาเพื่อหาอ๋องตวน เข้าไปล้อมกงชิงหยินไว้

กงชิงหยินมือไขว้หลังไว้ ใบหน้าเย็นชาแฝงไปด้วยรังสีสังหาร “พวกเจ้าเป็นใครกล้าบุกรุกวังฮั๋วหยางกลางวันแสกๆ?”

คนชุดดำมองหน้ากันไปมา หนึ่งในพวกเขาส่งสัญญาณมือ สิบกว่าคนล้อมกงชิงหยินไว้ในทันที แล้วดึงดาบยาวออกจากหลัง

หยุนโล๋ชวนวิ่งถึงที่นี่ดูเหมือนว่าจะไม่เข้าท่าแล้ว รีบร้องตะโกนไปคำหนึ่ง “ไอ้คนพวกนี้ ลานในวังหลวงก็เป็นที่ที่พวกเจ้าจะมาบุกรุกได้งั้นหรือ รู้ตัวแล้วก็ยอมให้จับแต่โดยดี จะไว้ชีวิตพวกเจ้า”

กงชิงหยินเงยหน้าชำเลืองมองไปครู่หนึ่ง เด็กสาวตัวเล็กๆดูหยิ่งผยอง แววตาแฝงไปด้วยรังสีสังหาร

รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

ตระกูลหยุนมีวีรบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น บรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนได้สร้างคุณงามความดีไว้ต่อประเทศต้าเหลียง ดังนั้นตระกูลหยุนเลยเป็นฮู่กั๋วกงมาหลายชั่วอายุคน

กงชิงหยินกล่าวว่า “กลับไปที่วังฮั๋วหยาง อย่ามาขวางทางที่นี่”

คนชุดดำได้ยินที่กงชิงหยินกล่าว เลยล้อมรอบหยุนโล๋ชวนอย่างรวดเร็ว หยุนโล๋ชวนไม่ได้รู้สึกกลัว ตรงกันข้ามกงชิงหยินหลับรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาเล็กน้อย

“คนที่พวกเข้าจะหาคือข้า ปล่อยคนที่ไม่เกี่ยวข้องไป” กงชิงหยินไม่อยากให้หยุนโล๋ชวนเป็นอันตราย

ถ้าหากเกิดเรื่องกับหยุนโล๋ชวน เขาคงเป็นคนที่แค่ผู้หญิงคนเดียวยังปกป้องไม่ได้จริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน