บทที่150 ถุงยาสมุนไพรฮองเฮาหาย
เดินไปหลังวังไม่มีคน เสินหยุนชูพูด “พระชายาเสียนไม่ต้องเกรงใจ มีธุระอันใดบอกข้ามาเลย”
“พระชายาเมื่อกี้หม่อมฉันไปที่วังจิ่งซิ่วตรวจชีพจรเซียวกุ้ยเฟย สุขภาพของเซียวกุ้ยเฟยกับทายาทปลอดภัยดี แต่เป็นเพราะเซียวกุ้ยเฟยมีปัญหาทางจิตใจ ทำให้หน้าตาหมองคล้ำ ร่างกายอ่อนแรง ถ้านานไป กลัวจะเกิดเรื่อง”
อันหลิงหยุนพูดความจริง ได้ตัดสินใจแล้ว เรื่องนี้ให้ฮองเฮาได้ผลงานดีกว่า
เสินหยุนชูค่อยๆขยับตัว ดูท่าทางอันหลิงหยุนรู้สึกหวาดกลัว
นางไม่ทูลฮ่องเต้ แต่มาแอบบอกนาง คิดแล้ว นางเป็นคนที่เดาใจยากจริงๆ
คงเก็บนางไว้ไม่ได้แล้ว
เสินหยุนชูลังเลสักพัก “เรื่องนี้สมควรทูลฮ่องเต้”
“หม่อมฉันก็อยากทูลฮ่องเต้ แต่คนรู้เยอะเดี๋ยวจะวุ่นวาย เมื่อกี้ถ้าหม่อมฉันพูดออกมา กลัวว่าคนในวังจะแพร่ข่าวนี้ออกไป
เรื่องนี้ หม่อมฉันอยากให้ฮองเฮาเป็นคนทูล ก็สามารถลดปัญหาลงได้”
“ในกรณีนี้ แน่นอน คนในวังถ้าพูดไม่ดี อาจจะมีคนพูดว่าฮ่องเต้เอ็นดูข้าคนเดียว เลยทำให้เซียวกุ้ยเฟยมีโรคทางจิตใจ มันก็ไม่เป็นผลดีต่อฮ่องเต้!”
อันหลิงหยุนบอกเสินหยุนชูเสร็จ ก็ออกจากวังเฟิ่งหยี สวีกงกงอยู่ข้างนอกรออันหลิงหยุน พอเห็นปุ๊บก็พานางไปที่ตำหนักจรุงจิต
“สวีกงกงบอกข้าว่า เซียวกุ้ยเฟยมีโรคทางจิตใจ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ?” ฮ่องเต้แววตาเคร่งขรึม ห้ามโกหก
อันหลิงหยุนพูด “กราบทูลฮ่องเต้ เป็นเรื่องจริง”
“สวีกงกง ไปได้”ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้น สวีกงกงรีบถอยออกไป
ในตำหนักจรุงจิตก็เหลือแต่อันหลิงหยุนกับฮ่องเต้ ฮ่องเต้ชิงหยู่มองมาทางอันหลิงหยุน ดูอันหลิงหยุนเหมือนอึดอัดใจ
“ครั้งก่อนเรื่องของฉาวเหม่ยเหริน เป็นเรื่องจริงหรือไม่”
ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดเบาๆ ทันใดนั้นอันหลิงหยุนทำอันใดไม่ถูก ความในใจฮ่องเต้ช่างคาดเดายากจริงๆ!
เวลานี้ไม่ถามเรื่องฮองเฮากับเซียวกุ้ยเฟย แต่ถามหาฉาวเหม่ยเหริน เรื่องของฉาวเหม่ยเหรินผ่านไปนานแล้ว อยากถาม เมื่อก่อนด้วยเหตุใดไม่ถาม มาถามเวลานี้ ไม่รู้ว่าคิดอันใดอยู่?
“กราบทูลฮ่องเต้ เป็นเรื่องจริง” อันหลิงหยุนตอบความจริง
ฮ่องเต้ชิงหยู่ครุ่นคิด “ต่อไปถ้าอยู่กับข้า ไม่ต้องระวังตัวขนาดนี้ และไม่ต้องคุกเข่าให้ข้า ถือว่าข้าเป็นเพื่อนคนหนึ่ง”
“หม่อมฉันไม่กล้า”
อันหลิงหยุนไม่อยากหาเรื่องสิ้นพระชนม์เอง เว้นระยะห่างดีแล้ว
ฮ่องเต้ชิงหยู่สังเกตอันหลิงหยุน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “โง่จริงเลย!”
“ใช่!”
อันหลิงหยุนทำท่าคำนับ ฮ่องเต้ชิงหยู่หัวเราะ “เจ้าสองพ่อลูก เหมือนกันจริงๆ! สมควรฉลาดก็จะฉลาด บางช่วงก็สับสน
ไม่รู้เรื่องก็ทำข้าปวดหัว!”
“หม่อมฉันผิดไปแล้ว!” อันหลิงหยุนรีบตอบกลับ ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ไม่พูดเรื่องสำคัญอันใด ก็เลยรู้สึกคิดถึงกงชิงวี่เล็กน้อย
เสียดายวันนี้กงชิงวี่ไปดูตูฟางจู้น คงไม่ได้กลับมาง่ายๆ อันหลิงหยุนเลยต้องจำใจอดทนอยู่ต่อ
ฮ่องเต้ชิงหยู่ยืนสักพัก แล้วถาม “ไหนลองเล่าเรื่องเซียวกุ้ยเฟยหน่อยซิ นางมีโรคทางจิตใจ มีผลกระทบต่อทายาท?”
“มีแน่นอน แต่ช่วงนี้มันยังไม่ร้ายแรง หม่อมฉันจะไปเตรียมยาบำรุงครรภ์และคลายความเครียด มันจะช่วยได้บ้าง
แต่โรคนี้เกิดจากอารมณ์เครียดทางจิตใจ ยาของหม่อมฉันแค่ช่วยบรรเทาอาการเร่งด่วน ไม่สามารถช่วยได้ตลอด”
“ข้าเข้าใจ อาการทางจิตของเซียวกุ้ยเฟย เป็นเพราะข้า ข้าไม่แยแสนาง จึงทำให้เกิดเรื่องอย่านี้” ฮ่องเต้ชิงหยู่พูดอย่างไม่คิดปฏิเสธเรื่องนี้
อันหลิงหยุนพูดต่อ “เรื่องนี้หม่อมฉันได้บอกฮองเฮาแล้ว ให้ฮองเฮาช่วยทูลบอกฮ่องเต้ เพราะหม่อมฉันคิด ถ้าทูลบอกท่านในตอนที่อยู่วังเฟิ่งหยี อาจจะมีคนในวังนำข่าวนี้พูดไปในทางที่ไม่ดี
ยิ่งมีคนรู้น้อย ก็จะทำให้ปัญหาน้อยลง”
“ฟังดูมีเหตุผล ข้าจะไปเยี่ยมเซียวกุ้ยเฟย เจ้ากลับไปได้แล้ว”
“หม่อมฉันทูลลา”
อับหลิงหยุนรีบร้อนเดินกลับ ไม่ยอมเงยหัว ได้นำสร้อยลูกปัดหยกออกไปด้วย
ฮองเต้ชิงหยู่จ้องมองอันหลิงหยุนออกไป รู้สึกน่าขำ
อันจือซานข้าคิดว่าเจ้าคงไม่มีอันใดปิดบังข้า
แต่ตอนนี้เจ้าจะอธิบายกระไร?
อันหลิงหยุนออกจากวังแล้ว ฮองเฮาได้ส่งสารถึงฮ่องเต้ เพราะคิดถึงบ้าน เสวยพระกระยาหารไม่ลง ฮ่องเต้อยากให้ฮองเฮาสบายใจ อนุญาตฮองเฮากลับจวนเยี่ยมญาติสามวัน
อันหลิงหยุนกลับถึงจวนก็ได้ข่าวนี้ พอได้ยินข่าวนี้ ปฏิบัติการอย่างเชี่ยวชาญในวัง การกระทำครั้งนี้ช่างเก่งกาจยอดเยี่ยมที่สุด
ข้อที่หนึ่งเพื่อเน้นให้เห็นถึงความรักใคร่ที่ฮ่องเต้มีให้ฮองเฮา ข้อสองเป็นความเมตตาที่ฮ่องเต้มีให้เซียวกุ้ยเฟย
ฮ่องเต้ชิงหยู่มีแค่วังฮองเฮากับวังเซียวกุ้ยเฟยสองวัง ฮองเฮากลับไปเยี่ยมญาติ ฮ่องเต้ต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อน ถึงเซียวกุ้ยเฟยไม่ไปหา ฮ่องเต้ก็จะมาหานางเอง
ผู้ชายก็อย่างนี้แหละ!
อันหลิงหยุนพูดอย่างอารมณ์ดี
เมื่อก่อนตอนที่กงชิงวี่ยังไม่มีนางเขาสดใสมีชีวิตชีวา แต่ตอนนี้วันไหนที่ต้องห่างจากนาง ข้าวปลากินไม่ลง อารมณ์ร้าย ไม่มีจิตใจทำงาน
อันหลิงหยุนช่วงนี้กำลังศึกษาเข็มฉีดยา พอกลับถึงจวนก็เข้าไปในห้องเก็บยา ห้องเก็บยาได้สร้างเกือบเสร็จแล้ว
อันหลิงหยุนสร้างแบบที่ตัวเองต้องการ ของทุกอย่างได้วางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อย ยาต่างๆก็ได้จัดเตรียมตามที่อันหลิง
หยุนต้องการ เตรียมพร้อมทุกอย่าง
ในห้องเก็บยา มีประตูบานเลื่อน มันจะล็อคสองชั้นทั้งภายนอกและภายใน มีเพียงอันหลิงหยุนที่มีกุญแจทั้งสองที่ แม้แต่กงชิงวี่ยังไม่มีกุญแจสำรอง
อันหลิงหยุนได้เก็บสารพิษบางอย่างไว้ กลัวกงชิงวี่ไม่ระวังจะได้รับอันตราย
อันหลิงหยุนเตรียมอุปกรณ์เข็มฉีดยา นางได้ศึกษาทดลองมาระยะหนึ่งแล้ว ที่สำคัญคือเข็ม นอกนั้นใช้ไม้ไผ่แทนได้
เสินหยุนเอ๋อเดินมาข้างหน้า ก้มตัวลง “คำนับพระชายา”
“คุณหนูเสินไม่ต้องมากพิธี”
“……” เสินหยุนเอ๋อลุกขึ้นถอยไปข้างหลังสองก้าว ถ้าปกติ ตามมารยาท เสินหยุนเอ๋อต้องพูดขอบพระทัย แต่วันนี้นางไม่
พูด
อันหลิงหยุนก็ไม่ได้ถือสา ครั้งนี้ที่มาจวนเฉิงเสี้ยงไม่ใช่จะมาทะเลาะกับนาง ฉะนั้นปัญหาที่ไม่จำเป็นก็ไม่พูด แต่ฮูหยิงเฉิง
เสี้ยงไม่พอใจมาก มองไปทางเสินหยุนเอ๋อ “เจ้าช่างกล้า กฎระเบียบเจ้าก็ลืมแล้วเหรอ คนใช้มานี่ คุณหนูสามไม่มีมารยาท
ทำให้จวนเฉิงเสี้ยงอับอาย นำไปขังที่ห้องไหว้บรรพบุรุษเพื่อให้สำนึกผิด รอถึงสามวันฮองเฮากลับวัง ค่อยนำมาลงโทษ”
“ท่านแม่” เสินหยุนเอ๋อนึกไม่ถึง สุดท้ายจะเป็นอย่างนี้
อันหลิงหยุนรุ้สึกยกย่องฮูหยิงเฉิงเสี้ยง ดูแล้วไม่เหมือนคนทั่วไปจริงๆ
ถึงว่าเสินหยุนชูสามารถครองตำแหน่งฮองเฮาได้ยาวนาน มีแม่ที่เจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ลูกสาวคงไม่แตกต่างกัน
“อย่ามาเรียกข้า เจ้ากำลังทำให้จวนเฉิงเสี้ยงอับอาย ไม่ต้องมาเรียกข้า” ฮูหยิงเฉิงเสี้ยงทำสีหน้าไม่แยแส คนรับใช้ทั้งสองข้างจับตัวเสินหยุนเอ๋อออกไป
“ช่างเป็นเรื่องน่าอายจริงๆ พระชายาเชิญ” ฮูหยิงเฉิงเสี้ยงเป็นคนเชิญพระชายาเข้าไป อันหลิงหยุนพยักหน้า แล้วตามเข้าไป
ในจวนเฉิงเสี้ยงได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อม ได้พาอันหลิงหยุนไปพบเสินหยุนชู พอเจออันหลิงหยุนเตรียมจะคุกเข่าให้เสินหยุนชู แต่เสินหยุนชูห้ามไว้
“เจ้ากับข้า ไม่ต้องทำอย่างนี้ก็ได้ ยกเลิกเถอะ”
อันหลิงหยุนผิดหวัง สถานการณ์เปลี่ยนไปเหรอ?
“ฮองเฮา หม่อมฉันตรวจให้ท่านก่อน”
อันหลิงหยุนไม่เกรงใจ ในเมื่อมันคือสิ่งที่นางต้องทำ เสินหยุนชูนั่งลงยื่นแขนให้ อันหลิงหยุนนั่งลงทำการตรวจเสินหยุนชู แล้วขมวดคิ้ว “ก่อนหน้านี้ที่ฮ่องเต้เอาถุงยาสมุนไพรให้
ฮองเฮาอยู่ไหน?”
เสินหยุนชูตะลึงเล็กน้อย ใช้มือลูบหา หน้าถอดสี “ไม่อยู่แล้ว?”
อันหลิงหยุนดึงมือกลับ มองคนรอบข้าง เสินหยุนชูก็มองตาม
ในห้องมีไม่กี่คน นอกจากฮูหยิงเฉิงสี้ยงเสินหยุนชูและสาวใช้กับกงกงที่อยู่ข้างกาย ยังมีองครักษ์
เสินหยุนชูแววตาไม่พอใจ “ออกไปให้หมด”
ฮูหยิงเฉิงเสี้ยงรีบพาคนออกไป ในห้องไม่มีใคร อันหลิงหยุนลุกขึ้นพูด “หม่อมฉันจะรีบเตรียมการ ขอให้ฮองเฮาไม่ต้องกังวล”
“ทุกอย่างคงต้องพึ่งเจ้า”
เสินหยุนชูลูบร่างกายตัวเอง ถุงยาสมุนไพรหายไปแล้วแน่นอน
อันหลิงหยุนบอกอาหยู่กลับไปจวนอ๋องเสียน อาหยู่รีบกลับไป ก่อนมืดได้นำสิ่งที่อันหลิงหยุนต้องการมาให้ อันหลิงหยุนก็อยู่ในห้องเสินหยุนชู เตรียมทำถุงยาสมุนไพรให้เสินหยุนชู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...