ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 187

บทที่ 187 พบเจอกันโดยบังเอิญ

ฮั๋วไท่เฟยเสียงดังเอะอะโวยวาย และนำกงชิงวี่ออกมาจากในคุก อันหลิงหยุนเป็นธรรมดาที่จะซาบซึ้งใจ

ผ่านเที่ยงวันไปแล้วจึงไปที่วังฮั๋วหยาง นับว่าเป็นการขอบเจ้าอย่างสุดซึ้ง

ได้พบอันหลิงหยุนฮั๋วไท่เฟยก็ดีใจอย่างมาก เรียกนางให้นั่งลง ยังเตรียมของว่างบางอย่างไว้ที่วังนอกทานไม่หวาดไม่ไหว

อันหลิงหยุนนั่งอยู่ครู่หนึ่ง ก็มีคนมารายงานเรื่องที่อ๋องตวนเข้ามาในวัง อันหลิงหยุนจึงตามฮั๋วไท่เฟยไปรับอ๋องตวนที่นอกวังฮั๋วหยาง

ชายารองหยุนและหยุนโล๋ชวนก็ติดตามมาด้วย

ได้พบอันหลิงหยุนหยุนโล๋ชวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางกลัวว่าจะไม่ได้พบอันหลิงหยุนแล้ว เห็นคนรีบเดินไปยังตรงหน้าของอันหลิงหยุน

“เมื่อคืนเป็นไข้” หยุนโล๋ชวนรีบบอกอันหลิงหยุนเมื่อพบกัน

“ฉันดูหน่อย” อันหลิงหยุนเดินไปตรงหน้าของอ๋องเสียนแล้วดูอย่างละเอียดสักเล็กน้อย แล้วเริ่มตรวจสอบอย่างละเอียด

“ไม่มีปัญหาอันใด” เดี๋ยวทานยาสักหน่อยก็ไม่มีปัญหาแล้ว”

อ๋องเสียนกำลังพักผ่อน คนยังคงหลับอยู่ ร่างกายห่มด้วยผ้านวม คนทั้งหลายเงยหน้ามองเขา

เข้ามาในวังฮั๋วหยางจัดที่จัดทางให้เรียบร้อยแล้ว อันหลิงหยุนเริ่มทำการให้ยา ส่งมอบให้แล้ว ทิ้งยาที่จำเป็นเอาไว้ อันหลิงหยุนจึงออกไป

อันหลิงหยุนขอพระราชโองการไปยังโรงพยาบาล หยิบวัสดุยาที่ต้องการเหล่านั้นจากด้านในห้องยาที่นั่น แล้วสั่งให้คนส่งนางไปยังวังเฟิ่งหยี หลังจากนั้นอันหลิงหยุนก็ได้ศึกษาวิจัยเครื่องยาจีนที่วิหารบรรทมรองวังเฟิ่งหยีไม่ออกไปไหน

จนกระทั่งพลบค่ำ นอกวังเฟิ่งหยีมีคนมาขอพบ

อันหลิงหยุนเดาว่ากงชิงวี่น่าจะมา

เป็นไปตามที่คิดไว้ไม่นานนัก ด้านประตูห้องนางก็ถูกเคาะดังขึ้น

อันหลิงหยุนไม่ได้ยินเสียงคนพูด จึงรู้ว่าคนที่มาก็คือกงชิงวี่

เมื่อก่อนเจอกันทุกวัน อันหลิงหยุนก็ไม่ได้รู้สึกอันใด แต่สองวันมานี้ไม่ได้พบกัน อันหลิงหยุนก็คิดถึงกงชิงวี่

นางคิดว่า นิสัยน่ากลัวจริงๆ

เดินไปยังประตูแล้วเปิดประตูออก เมื่ออันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นไปมอง ร่างกายก็ถูกกงชิงวี่โอบกอดไว้

แม่นมซีที่อยู่ด้านหลังก็ถอนสายบัว แล้วจึงขอตัวออกไป

อันหลิงหยุนก็โอบกอดกงชิงวี่ อันหลิงหยุนกอดไว้แน่นแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ท่านอ๋อง พวกเขาทำร้ายทารุณท่านหรือเปล่า?

อันหลิงหยุนเสียงแหบเสียงแห้ง กงชิงวี่ดันอันหลิงหยุนออกแล้วมองไปยังนาง: “เป็นห่วงรึ?”

“ไม่ได้เป็นห่วง” อันหลิงหยุนอึกอักเล็กน้อย ใช้ชีวิตอยู่สถานที่นี้ อาจจะหัวขาดได้ทุกเมื่อ จะหลับจะนอนก็ล้วนไม่ปลอดภัย นางจะไม่เป็นห่วงได้กระไร?

กงชิงวี่ใจอ่อน เข้าไปจูบทีหนึ่ง: “คิดถึงข้าหรือไม่?”

อันหลิงหยุนหน้าแดง นอกวังเฟิ่งหยียังมีนางข้าหลวงแล้วขันทีอยู่

กงชิงวี่นี่ช่างหน้าไม่อายจริงๆ

“เข้ามาคุยเถอะ” อันหลิงหยุนดึงกงชิงวี่เข้ามาในห้อง เอื้อมมือไปปิดประตู

แล้วเรือนร่างก็ถูกคว้ามากอดทันที

“คิดถึงข้าจะแย่แล้วใช่หรือไม่! กงชิงวี่พลันเอ่ยปากแบบนี้แล้ว ก็ตามด้วยการจูบ อันหลิงหยุนทุบตีไปเล็กน้อยสองครั้ง คิดจะทำให้กงชิงวี่ปล่อย แต่เขาไม่ยอมปล่อยเลยสักนิด ก้มหลังไปอุ้มขึ้นมาบนเตียง

“นี่มันกลางวันแสกๆ ใครมาเห็นเข้า จะไม่เหมาะสม?”

อันหลิงหยุนไม่ยินยอม คิดขึ้นมาได้ในสิ่งที่เดิมทีคิดไม่ได้ ขาของกงชิงวี่ก็วางที่ด้านในขานางแล้ว คล้ายกับว่าถูกแทรกไว้ตรงกลาง ไม่สามารถพูดหรือขยับได้

คนทั้งสองบดถูกันอยู่ครู่หนึ่ง อันหลิงหยุนก็สงบลง มองที่ประตูทางเข้าทีหนึ่ง แล้วจึงโอบกอดกงชิงวี่

“คิดถึงข้าหรือไม่?” กงชิงวี่ไม่เลิกคิด ยังตามต่อ

“คิดถึง” อันหลิงหยุนก็ไม่เขินอาย กงชิงวี่ก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเล็กน้อยก็ถึงจุดหมาย ก้มลงไปจูบ ครู่หนึ่งอันหลิงหยุนก็ไขว้เขวสับสน แยกไม่ออกว่าท้องฟ้าสีดำราตรีสีขาว

รอจนนางตื่นขึ้นมา ก็มืดแล้ว ปวดเอวปวดหลังขึ้นมา ลูบๆคลำๆท้อง

วันนี้กงชิงวี่ฮึกเฮิมเกินไป ไม่ทันได้ขัดขวางเขาก็ดึงดันที่จะก่อเรื่องขึ้น อันหลิงหยุนเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างมาก กลัวว่าจะมีเรื่องอีก

อันหลิงหยุนขยับๆตัว มองในห้องมีตะเกียงโคมไฟจุดอยู่ กงชิงวี่นั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือดูอันใดอยู่ อันหลิงหยุนลุกขึ้นไปดู

บนโต๊ะมีแผ่นลงนามคำให้การอยู่แผ่นหนึ่ง ชื่อด้านบนคือกงชิงชวนเฉิน

อันหลิงหยุนหยิบขึ้นมาดู ด้านบนเขียนคร่าวๆว่าเขามาถึงตำหนักกั๋วกงก่อนเวลาในวันเดียวกัน คนที่ตำหนักกั๋วกงเป็นพยาน ด้านล่างยังมีหนังสือรับรองแผ่นหนึ่ง ซึ่งลงนามยืนยันโดยคนเก่าแกของตำหนักกั๋วกง

อันหลิงหยุนวางคำให้การลง แล้วมองไปยังกงชิงวี่

“ท่านอ๋อง แล้วอ๋องชินจงจะยอมปล่อยไปรึ?”

“ไม่เป็นปัญหาต้องปล่อยอย่างแน่นอน” กงชิงวี่ลุกขึ้นแล้วเดินไปยังน้ำ ดื่มน้ำแล้วก็มองไปยังอันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ: “ท่านอ๋องไม่ต้องการปล่อยคนไปรึ?”

“อ๋องทั้งแปดบีบบังคับให้สละราชย์ ข้าจะใจดีปล่อยพวกเขาไปรึ?” กงชิงวี่เลิกคิ้วขึ้น อันหลิงหยุนเพียงแค่มองก็รู้สึกได้ว่าเขาร้ายกาจมาก

“ท่านอ๋องโกรธรึ?” อันหลิงหยุนคิดว่าเขาออกมาก็เป็นห่วงฮ่องเต้ชิงหยู่มากยิ่งขึ้น

แต่ขณะนี้งานเขาล้มมือเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าจะมีเวลาไม่พอ

“อ๋องเสียนเกิดเรื่อง ข้าติดคุก พวกเขาบีบบังคับให้สละราชย์ ข้าจะไม่โกรธรึ? กงชิงวี่วางถ้วยน้ำลง ถ้วยน้ำสั่นสะเทือนจะเกิดเสียง น้ำในแก้วล้วนสาดกระเซ็นออกมา

อันหลิงหยุนเดินไปกอดที่เอวของกงชิงวี่ เงยหน้าขึ้นมองกงชิงวี่: “ท่านอ๋องคิดว่าจะทำกระไร?”

อ๋องเสียนเกิดเรื่องและอ๋องทั้งแปดเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือใครข้าก็ยังไม่ชัดเจน เพียงแต่ว่าต้องการไต่สวนอย่างเป็นลำดับ

“ท่านอ๋องหมายความว่ากระไร?”

พักผ่อนคืนหนึ่ง เช้าตรู่กงชิงวี่และอันหลิงหยุนก็ออกจากวังแต่เช้าเพื่อไปขอคำปรึกษาเบื้องต้นเพื่อเตรียมยา พลันลงมาจากรถม้าก็ได้รับข่าวว่า อ๋องชินจงที่อยู่ในคุกหมดสติอย่างกะทันหัน หมอประจำคุกตรวจไม่พบว่าเพราะอันใด ยังไม่รู้หนทางแก้ไข

หมอประจำคุกรู้ว่าอันหลิงหยุนมีวิชาแพทย์ที่เหนือชั้น จึงขอเชิญให้อันหลิงหยุนเข้ามาดู

จัดเก็บของเล็กน้อย อันหลิงหยุนก็มุ่งตรงไปยังประตูห้องขัง

อ๋องชินจงหมดสติอันหลิงหยุนใช้การฝังเข็มในการรักษา อ๋องชินจงได้สติขึ้นมาเห็นอันหลิงหยุนก็นิ่งอึ้งไป

“อ๋องชินจง” อันหลิงหยุนนั่งลง หลังจากอ๋องชินจงฟื้นขึ้นมาก็ยังคงงงงวยเล็กน้อย

“อื้ม เป็นอย่างที่ข้าคิดไว้ไม่มีผิดจริงๆ” มองดูครั้งหนึ่ง กงชิงวี่ก็กล่าวออกมาทันทีว่า: “คำสั่งการของข้า ไปที่จวนอ๋องเพื่อรับคน!”

“ขอรับ”

อาหยู่รับคำสั่งไปนำคนออกมาจากประตูห้องขัง อันหลิงหยุนตามกงชิงวี่ไปที่ต้าจงเจิ้งย่วน

เรื่องนี้เกี่ยวโยงกับเรื่องของชินจง ต้าจงเจิ้งย่วนต้องแจ้งล่วงหน้าจึงดำเนินการ

อันหลิงหยุนเข้าประตูไปก็เห็นเว่ยหลิงชวนใจลอยอยู่ในลานบ้าน อันหลิงหยุนจึงไม่ไปรบกวน

แต่กลับกันกงชิงวี่เข้าไปทักทายก่อนว่า: “โจ่จงเจิ้นกำลังรอข้าอยู่รึ?”

เว่ยหลิงชวนหันมา เห็นกงชิงวี่แววจาก็พองโตอยู่ไม่น้อย แต่เห็นอันหลิงหยุนแวบหนึ่งก็นิ่งอึ้งไปเล็กน้อย

สีหน้าเกินความคาดหมายเล็กน้อย เว่ยหลิงชวนถามว่า: “อ๋องเสียนทำไมมีเวลามาที่ต้าจงเจิ้งย่วนได้ล่ะ ช่วงนี้ไม่ยุ่งรึ?”

“มีเรื่องจึงมา” กงชิงวี่กำลังมองไปรอบๆ กล่าวถามว่า: “ท่านป้าล่ะ?”

“พักผ่อนอยู่ด้านใน” เว่ยหลิงชวนกล่าวตอบ กงชิงวี่ก็วิ่งเข้าไปหาองค์หญิงใหญ่แล้ว

อันหลิงหยุนไม่สามารถวิ่งไปได้ แล้วไม่สามารถตำหนิกงชิงวี่ว่าทิ้งขว้างนางได้

ในนี้คือต้าจงเจิ้งย่วน นางไม่จำเป็นต้องเข้าพบ

แต่ขณะนี้เหลือเพียงแค่อันหลิงหยุนกัยเว่ยหลิงชวนสองคน อันหลิงหยุนนึกถึงอดีตเมื่อก่อนที่เคยเหยียดหยามเว่ยหลิงชวน ใจคอก็หดหู่ไปครู่หนึ่ง

และแล้วก็ได้เจอกันอีก!

เว่ยหลิงชวนไม่พูดจา เพียงแต่พินิจพิเคราะห์อันหลิงหยุน อันหลิงหยุนแปลกใจ: “โจ่จงเจิ้นมีปัญหาอันใดหรือเปล่า?”

ในนี้คือสมัยโบราณ เว่ยหลิงชวนเป็นปัญญาชน ทำไมเวลามองคนถึงไม่สุภาพแบบนี้?

ไม่เหมาะสมรึ?

“ไม่มีปัญหา ข้าจะส่งพระชายาไปพบองค์หญิงใหญ่ เว่ยหลิงชวนสุภาพเป็นอย่างมาก อันหลิงหยุนหันเดินตามไปพบองค์หญิงใหญ่

แต่ระหว่างทางนี้ก็ไม่ได้ไกลมาก รู้สึกว่าเว่ยหลิงชวนมองนางตลอด

อันหลิงหยุนมาถึงนอกประตูทิศใต้ขององค์หญิงใหญ่ก็ได้ยินเสียงด่าจากด้านในขององค์หญิงใหญ่: “เจ้ามันเลว เจ้าล้วนวางแผนในหัวของข้าขึ้นมา ข้าเห็นความเจ็บปวดของเจ้าชัดเจน”

เสียงสิ่งของในห้องดังโครม เสียงขว้างโยนสิ่งของอันใดภายในห้อง อันหลิงหยุนแปลกใจ อารมณ์โกรธขององค์หญิงใหญ่ขนาดนี้เลยรึ?

“ท่านป้าจะช่วยเหลือพวกเขาได้รึ?” คล้ายกับว่ากงชิงวี่เป็นอันธพาลไร้สัจจะ อันหลิงหยุนเกือบจะหัวเราะออกมา อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาปิดปาก

เว่ยหลิงชวนกำลังมองอันหลิงหยุน องค์หญิงใหญ่ตะโกนส่งเสียงใส่ออกมา รู้สึกว่าของอันใดที่มีอยู่ในห้องก็ขว้างออกมาหมด

ไม่ทันได้พิจารณาไตร่ตรอง เว่ยหลิงชวนก็โอบกอดอันหลิงหยุน

สุดท้ายก็มีเสียงดังเคร้ง เชิงเทียนทองแดงตกลงบนพื้น ทำให้เกิดเสียงดังขึ้น

แต่เพียงชั่วครู่เดียว ก็ได้ยินเสียงของกงชิงวี่ที่เยือกเย็นและสั่นด้วยความโกรธ: “เจ้ากำลังทำอันใดรึ?”

เว่ยหลิงชวนสะบัดมือออก คนก็หลีกออกไป

อันหลิงหยุนสีหน้างุนงง รู้สึกหายใจติดขัด ใบหน้าเล็กนิ่งเฉยแดงระเรื่อ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน