บทที่ 249 ไม่สนใจฮองเฮา
เมื่ออันหลิงหยุนตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็เดินทางกลับจวนพร้อมกงชิงวี่
ตอนเช้าอ๋องตวนไม่ได้ตื่น หยุนโล๋ชวนก็ไม่ได้ตื่นมาเช่นกัน
ก่อนจะกลับอันหลิงหยุนได้มองไปที่ประตูที่ปิดแน่นไว้ คิดว่าตอนนี้สายขนาดนี้แล้ว หรือว่าเวลาเช้าของตำหนักกั๋วกับจวนอ๋องเสียนไม่เหมือนกัน
ไม่เป็นไรไม่ออกมาก็ไม่ออกมา อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่ไม่ได้กินข้าวเช้าก็เดินทางออกจากตำหนักกั๋วกงแล้ว
สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องเข้าวังเพื่อไปรายงานเรื่องของอ๋องตวนกับหยุนโล๋ชวน ความคืบหน้าของเหตุการณ์ทั้งหมดต้องรายงานให้ทั้งสองวังได้รับทราบ
สิ่งที่สองคือสองสามวันนี้สีหน้าของฮองเฮาไม่สู้ดีนัก ถึงแม้ตรวจดูอาการแล้วไม่เป็นไร แต่ก็ยังไว้วางใจไม่ได้
เมื่อออกจากตำหนักกั๋วกงแล้วทั้งสองคนเดินทางไปที่วังทันที ส่วนฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงไปสอบถามที่จวน:“นิ่มันกี่ยามแล้ว ทำไมยังไม่ตื่นกันอีก หรือเป็นเพราะว่าอ๋องตวนไม่อยู่ในห้องแล้ว ชวนเอ๋อกลัวเลยช่วยปิดบัง?”
เมื่อก่อนเวลาที่อ๋องตวนมาก็ไม่เคยได้เข้าไปในห้องเลย วันนี้ไม่ออกมา ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงจะมีความคิดเช่นนี้
ตงเอ๋อเมื่อคืนนอนหลับไปแล้ว ร่างกายของนางได้รับบาดเจ็บ กลับไปรักษาตัว ไม่มีคนอยู่เฝ้าที่ตำหนัก เลยไม่มีใครรู้อะไรเลย
ตงเอ๋อรายงาน :“ตงเอ๋อก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าน้อยขอไปดูก่อน”
ตงเอ๋อหันกลับแล้วเดินไปที่หน้าห้องนอน เคาะประตูไปหลายครั้งแต่ไม่มีคนตอบรับ ตงเอ๋อเริ่มรู้สึกกังวล หรือว่าจะเป็นที่ฮูหยินใหญ่พูด อ๋องตวนได้กลับไปแล้ว?
เมื่อเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของตงเอ๋อแล้ว ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงเริ่มโมโห เดินไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้วใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออก เดินเข้าไปข้างใน เดินไปด้วยความโมโหโทสะ จากนั้นไปดูที่เตียง
ทันใดนั้นหยุนโล๋ชวนสะดุ้ง ตะลึงอย่างตกใจ
กงชิงหยินรีบกอดนางเข้าหาเขา ใช้ผ้าห่มห่มไปที่ร่างของหยุนโล๋ชวนไว้ นำตัวไปปกป้องไว้ในอ้อมกอด เขาเองก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เมื่อคืนนอนไม่หลับ กว่าจะหลับก็ใกล้สว่าง เพิ่งนอนไปได้สักพักก็มีคนมาถีบประตูออกแล้วเดินเข้ามา?
“ฮูหยินใหญ่?”
กงชิงหยินเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากตงเอ๋อก็เริ่มจะตื่นแล้ว แต่เป็นเพราะง่วงมากจึงไม่มีแรงที่จะขานตอบ แต่เขาได้ลืมตาขึ้นเล็กน้อยจริงๆ……
ตอนแรกเขาอยากดูหยุนโล๋ชวนหน่อย แต่เมื่อเห็นนางเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยนักทำให้เขามีอาการอึดอัด จึงมองจนเหม่อลอยเล็กน้อย
กำลังคิดจะลุกขึ้น ฮูหยินใหญ่ก็ถีบประตูเข้ามาแล้ว
เมื่อมองไปที่เตียงเห็นทั้งสองกอดกันอยู่ทำให้ฮูหยินใหญ่หน้าแดงไปด้วย ทันใดนั้นคิดขึ้นมาได้ แล้วพูดขึ้นว่า:“ตงเอ๋อ เจ้าดูเจ้าทำ เจ้าพลักข้าเข้ามาทำไมกัน?”
ตงเอ๋ออ้าปากเหมือนจะพูด แล้วมองไปที่เตียงเห็นหยุนโล๋ชวนกำลังจะยื่นหัวออกมาก
หยุนโล๋ชวนสวมใส่ชุดนอนกอดอกอยู่ ไหล่สองข้างเปลือยกาย ส่วนเอวของนางมีมือของผู้ชายกอดอยู่ ก็มีแค่คนเดียว คือเป็นมือของอ๋องตวนนั่นเอง
ตงเอ๋อเข้าใจแล้วเดินเข้ามาพูดว่า:“ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจ”
หน้าประตูยังมีคนสองสามคนยืนอยู่ ต่างก็ยื่นหัวเข้ามาดู
หยุนโล๋ชวนเป็นผู้หญิง นางไม่รู้สึกว่าสภาพตอนนี้มีอะไรไม่ดี เพราะที่นิ่เป็นบ้านของนาง
แต่อ๋องตวนนั้นทนไม่ได้ เขาใช่ผ้าห่ม ห่มตัวหยุนโล๋ชวนไว้ แล้วพูดว่า:“ฮูหยินใหญ่รอสักครู่ ข้าจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้แหละ”
ฮูหยินใหญ่ไม่พูดอะไรต่อ หันกลับแล้วออกไปข้างนอก
เมื่อประตูปิดลงแล้วหยุนโล๋ชวนหันไปมองกงชิงหยิน จึงไปสวมเสื้อผ้า
อ๋องตวนสำรวจตัวหยุนโล๋ชวน มีความรู้สึกว่านางได้โตขึ้นกว่าตอนที่เพิ่งแต่งงานกัน
ทั้งสองล้างหน้าแต่งตัวเสร็จก็ออกมาเจอฮูหยินใหญ่
ฮูหยินใหญ่แจ้งว่าร่างกายไม่ค่อยสบาย ไม่ขอเจอพวกเขา หยุนโล๋ชวนรู้อยู่แก่ใจว่าท่านยายไม่ได้โกรธนาง แต่เพราะไม่อยากเจอหน้ากงชิงหยิน
เมื่อนางกินข้าวเช้าเสร็จก็เตรียมส่งกงชิงหยินกลับ
“ท่านอ๋อง เวลาสายมากแล้ว ข้าขอไม่ส่งท่านกลับจวนนะ เพราะพวกเราห่างกันไม่มากนัก ท่านกลับไปก่อนเถอะ”
นางผ่านน้ำร้อนมาก่อน มีหรือที่จะไม่รู้
ยังสงสัยอยู่เลยคิดว่าเพื่อจะให้พวกเขามาเห็นจึงทำมันขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นอย่างที่คิดไว้จริง
“ไม่มีก็ไม่มี ยังมีเวลาอีกนาน ยังไงก็คงต้องมีโอกาสแน่นอน”
ฮูหยินใหญ่ให้หยุนโล๋ชวนกลับไปได้ แต่มีความรู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อย
หยุนโล๋ชวนจึงออกจากตำหนักกั๋วกงเพื่อไปจวนอ๋องจง
เมื่ออันหลิงหยุนกับกงชิงวี่เดินทางไปถึงในวังทั้งสองแยกออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง อันหลิงหยุนไปดูอาการของฮองเฮาก่อน เปิดการทำงานของตัวตรวจเพื่อช่วยฮองเฮาตรวจจับชีพจร
“ฮ่องเฮา เมื่อคืนได้พักผ่อนไหม?”อันหลิงหยุนดึงมือออก รู้สึกสงสัยไม่เข้าใจ
แม่นมซีพูดขึ้นว่า:“หลายวันมานี้ฮองเฮาพักผ่อนไม่เพียงพอ”
“กลางคืนนอนหลับยาก ทำให้สูญเสียพลังงานและเหนื่อยง่าย ข้าจะสั่งยาให้ฮองเฮา หลังจากนี้ฮองเฮากินวันละครั้ง ก็สามารถแก้ไขได้ แต่ฮองเฮาต้องพักผ่อนแต่เช้าถึงจะช่วยได้”
อันหลิงหยุนไปเขียนใบสั่งยา แม่นมซีเดินตามอันหลิงหยุนออกไป ระหว่างทางได้พูดคุยกับอันหลิงหยุนไปบ้าง
“ช่วงนี้ฮ่องเต้อยู่แต่ตำหนักเซียวผินตลอด สามวันมาแล้วที่ไม่ได้มาดูฮองเฮาเลย”แม่นมซีพูดขึ้นเบาๆ เหมือนเล่าให้อันหลิงหยุนฟัง และก็เหมือนพูดกับตัวเอง
อันหลิงหยุนลังเลสักครู่แล้วถามขึ้นว่า:“เรื่องนี้เป็นเพราะว่าเรื่องที่เสินหยุนเอ๋อทำร้ายข้าหรือเปล่า?”
นหลิงหยุนลังเลสักครู่แล้วถามขึ้นว่า:“เรื่องนี้เป็นเพราะว่าเรื่องที่เสินหยุนเอ๋อทำร้ายข้าหรือเปล่า
“ข้าน้อยไม่รู้เรื่องพวกนี้ แต่เรื่องมันเริ่มต้นตั้งแต่วันนั้น ที่ผ่านมาฮ่องเต้ไม่เคยโกรธฮองเฮาเพราะเรื่องอะไรมาก่อน แต่ครั้งนี้แปลกประหลาดมาก”
แม่นมซีพูดออกมาเช่นนั้น อันหลิงหยุนพยักหน้า:“แม่นมซีพอแล้ว เดี๋ยวข้าจะไปวังฮั๋วไท่เฟย ส่งถึงที่นิ่ก็พอ”
แม่นมซีหยุดเดิน โค้งคำนับ แล้วส่งอันหลิงหยุน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...