บทที่ 427 กลับมาอย่างปลอดภัย
อันหลิงหยุนพูดขึ้นมา “เรื่องนี้ข้ารับประกันได้ ทว่าไม่รู้ว่าแม่ทัพจุนจะเชื่อถือข้าได้หรือไม่
เด็กในท้องอายุครรภ์ประมาณหนึ่งเดือนกว่า ดูท่าแล้วตอนที่ฮ่องเต้ทราบเรื่องว่าแม่ทัพจุนมีความเคลื่อนไหว ยังคงโปรดปรานเซียวกุ้ยเฟยอยู่ มิเช่นนั้นในตอนนั้นพ่อข้าคงออกมาสู้รบที่นี่แล้วและคงไม่มีความเมตตาในตอนนั้นหรอก?”
จุนเจิ้นตงหน้าแดง เหลือบมองแม่ทัพอัน “เจ้าเล่ามาสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น?”
จุนเจิ้นตงทราบดีว่า อันจือซานเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ สิ่งที่เขาพูดล้วนถูกต้อง
แม่ทัพอันหัวเราะ “ลูกสาวคนโตของท่าน ทำเรื่องชั่วร้ายไว้มาก นางทำให้หลานชายที่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลกของฮั๋วไท่เฟยตาย ลักษณะนิสัยของฮั๋วไท่เฟยเจ้าจะไม่รู้รึ? นางไม่ฆ่าล้างโครตตระกูลจุนก็นับว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว เจ้าคิดว่า ฮ่องเต้จะฆ่าล้างโครตตระกูลจุนงั้นหรือ?”
จุนเซียวเซียวพูด “ท่านพ่อ”เป็นเพราะพี่สาว ท่านจึงทำเช่นนี้หรือ?
จุนเจิ้นตงพูดเรียบนิ่ง “พี่สาวเจ้าถูกคนอื่นปองร้ายจนตาย”
“ท่านพ่อ ไม่มีผู้ใดพูดกับท่านเรื่องชั่วร้ายของพี่สาวหรือ? นางอยากเป็นฮองเฮา และช่วยเหลืออ๋องตวนเป็นฮ่องเต้”
แม้นว่าทุกคนจะทราบดีว่าฮ่องเต้ไม่มีบุตร และจะเลือกระหว่างอ๋องเสียนกับอ๋องตวนเป็นองค์ราชทายาท ทว่าตอนนี้ฮ่องเต้เพิ่งจะอายุสามสี่สิบปีเอง กังวลนี้เห็นทียังเช้าเกินไปหน่อย
จุนเจิ้นตงกลับมองว่า ลูกที่เกิดจากจวนอ๋องเสียนและอ๋องตวน โอกาสที่จะถูกแต่งตั้งเป็นองค์ชายราชทายาทมีสูงกว่า
ช่วยเหลือให้อ๋องตวนเป็นฮ่องเต้ เท่ากับว่าคิดก่อการกบฏ ช่วงชิงตำแหน่ง
จุนเจิ้นตงถาม “ปกติพี่สาวเจ้าเป็นคนอ่อนโยนมีเมตตา ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้?”
“นางถูกอำนาจครอบงำความคิด”
“เซียวเซียว เจ้าอย่าเอาเยี่ยงอย่างพี่สาวเจ้า ถึงแม้ทรัพย์สินเงินทองจะดี ทว่าชีวิตสำคัญยิ่งกว่า ต้องมีชีวิตอยู่ คนเราตายไปแล้วก็เท่ากับไม่เหลืออะไรแล้ว”
แม่ทัพอันหัวเราะเหอๆ “เจ้ายังรู้เรื่องพวกนี้ด้วยรึ เจ้าทำงานรับใช้เป็นทหารสู้รบ เจ้ารู้เพียงว่าสู้รบให้ชนะก็พอแล้ว”
“เจ้าจะไปรู้อะไร เจ้ามันคนหยาบกระด้าง” จุนเจิ้นตงสืบสายเลือดมาจากการสืบทอดความรู้และวัฒนธรรม ย่อมดูแคลนคนที่สืบสายเลือดจากนักรบอย่างแม่ทัพอัน
แม่ทัพอันพูดจาเรียบเฉย “เจ้ายังจะมาดูแคลนข้า กลับไปข้าจะนำเรียนฮ่องเต้ว่า ตอนที่เจ้าอยู่เขตชายแดนฉ้อโกงค่าตอบแทนของเหล่าทหาร กลัวว่าจะถูกเปิดโปงจึงคิดก่อกบฏ ดูสิว่าเจ้าจะอับอายขายหน้าหรือไม่ ”
“……”อันหลิงหยุนไร้คำพูด แบบนี้ก็ได้เหรอ?
“อันจือซานเจ้าใส่ร้ายข้ารึ?”
“ใช่ ข้าใส่ร้ายเจ้า”
ทั้งสองคนยืนทะเลาะกัน อันหลิงหยุนจึงพูดขึ้นว่า “เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว รีบคิดหาวิธีแก้ไขดีกว่า”
แม่ทัพอันฟังตามที่ลูกสาวพูด แล้วเดินไปนั่งจิบชาสบายๆ
จุนเจิ้นตงลุกขึ้นแล้วพยุงตัวลูกสาวให้ลุกขึ้นไปนั่งอย่างระมัดระวัง พลันรู้สึกเสียใจอย่างไม่มีสาเหตุ ลูกสาวตั้งครรภ์ถึงสองครั้ง เห็นได้ว่าฮ่องเต้ยังทำดีต่อลูกสาวอยู่
จุนเจิ้นตงลังเลใจอยู่นานสองนาน แล้วพูดว่า “อันจือซาน ข้าขอพูดกับเจ้าตามตรง ลูกชายข้าทั้งสองคนถูกคนจับตัวไป ลูกชายคนโตเปลี่ยนฝ่ายเป็นพวกเดียวกับพวกมัน ข้าไม่มีทางเลือก จึงตัดสินใจทำเช่นนั้นไป”
แม่ทัพอันถาม “ราชนิกุลรึ?”
อันหลิงหยุนกับจุนเซียวเซียวเหมือนกำลังครุ่นคิดหนัก ดูท่าแล้วไม่กำจัดพวกราชนิกุลออกไป ประเทศต้าเหลียงคงหาความสงบสุขมิได้
“เป็นคนที่สวมหน้ากาก บอกให้ข้ายอมแพ้เสีย แต่พอข้าไม่ยอม เขาจึงจับลูกชายทั้งสามคนไป ต่อมาลูกชายคนโตกลับมา บอกให้ข้าทำตามที่เขาพูด เดิมทีข้าไม่เห็นด้วย พอเขาพูดว่าลูกสาวข้าถูกปองร้ายจนต้องตาย จึงเป็นเหตุที่ให้ข้าคิดก่อกบฏ”
“ท่านพ่อ ท่านเลอะเลือนไปกันใหญ่แล้ว พี่ชายใหญ่เป็นคนที่ใจร้อนและต้องการเห็นความสำเร็จในทันที ตอนเด็กเขาเคยทำร้ายพี่ชายสามจนขาหัก เพียงเพราะต้องการการยกย่องชมชอบจากท่านปู่ เขาทำได้แม้กระทั่งใส่ร้ายพี่ชายรอง ท่านจำไม่ได้แล้วหรือ ทำไมถึงฟังความข้างเดียวล่ะ ข้าเป็นกังวลว่าพี่ชายรองและพี่ชายสามยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า”
“พ่อก็เคยครุ่นคิดถึงประเด็นนี้ ฉะนั้นพ่อจึงลังเลใจมาโดยตลอด มิเช่นนั้น เจ้าคิดว่าลำพังแค่ความสามารถของพ่อ อันจือซานจะมีชีวิตอยู่รอดได้รึ?”
จุนเจิ้นตงได้ยินดังนั้นก็รีบคุกเข่าลง กลับถูกแม่ทัพอันรั้งเอาไว้ “เป็นเพียงกระแสรับสั่ง เจ้าฟังไว้ก็พอ”
“ได้”
แม่ทัพอันพูด “ก่อนที่ข้าจะมา ถูกไทเฮาเรียกพบและมีพระกระแสรับสั่ง โดยความหมายของไทเฮาคือ หากเจ้ายอมกลับไปก็พาตัวกลับไป หากไม่ยอมกลับปล่อยได้ก็ปล่อยไป ต่อให้ต้องหาเหตุผลอื่นใด ก็ต้องไว้ชีวิตเจ้า นี่เป็นคำพูดเดิมทั้งหมด และยังมีอีก……”
แม่ทัพอันนิ่งไปครู่หนึ่ง “เหลือชื่อเสียงคุณงามความดีไว้ด้วย”
จุนเจิ้นตงนิ่งอึ้งไปสักพัก “ข้ารู้สึกผิดต่อไทเฮา และฮ่องเต้”
“ไหนเจ้าบอกว่าล้วนเป็นเรื่องไม่จริงใจ เจ้าจะซาบซึ้งไปทำไม?” แม่ทัพอันได้ทีขี่แพะไล่ ยังจะเหยียบซ้ำเติมอีก
“เจ้าจะไปรู้อะไร” จุนเจิ้นตงถูกโน้มน้าวจนสำเร็จ แม่ทัพอันปล่อยคนของเขาออกมาเช่นกัน หนึ่งในนั้นมีสองคนที่ชอบยุยงให้คนอื่นกระทำผิด จึงต้องโทษประหารต่อหน้ากองทหารเพื่อดูไว้เป็นเยี่ยงอย่าง
ภายในหนึ่งวันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย จุนเจิ้นตงฟื้นฟูกลับเข้าตำแหน่งแม่ทัพใหญ่เหมือนเดิม อันหลิงหยุนกลับรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป
ทว่าเมื่อตกเวลากลางคืน กงชิงวี่ก็ยังไม่กลับมา อันหลิงหยุนเป็นห่วงมาก จึงแบกท้องกลมๆเดินไปรอที่ใต้ก้อนหินใหญ่ รอกงชิงวี่กลับมา
รอจนกระทั่งมืดค่ำ อันหลิงหยุนเห็นบนท้องฟ้ามีกลุ่มอีกาบินวนมา อันหลิงหยุนเดินก้าวไปไม่กี่ก้าว จุดที่ไม่ไกลออกไป มีเงาร่างเคลื่อนตัวผ่านอย่างรวดเร็ว
เพียงไม่นานก็มาถึงตรงข้างหน้า อันหลิงหยุนเห็นคนที่สวมชุดดำเกิดอาการดีอกดีใจ “ท่านอ๋อง”
กงชิงวี่ไม่สนสิ่งอื่นใด โอบกอดนางไว้พร้อมจูบนางทีหนึ่ง
อันหลิงหยุนใบหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าลง “ท่านจะทำอะไร?”
“ส่งเสบียงน้ำอสุจิ”
กงชิงวี่โอบกอดนางไว้แน่ พร้อมยืนโยกเยกอยู่บนพื้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...