ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 459

บทที่ 459 ไอคิวที่น่าหวั่นวิตก

เว่ยหลิงชวนเห็นว่า มีหยกประดับรูปมังกรห้าชิ้นอยู่ในถาด เกิดความรู้สึกงงงัน“ ทำไมมีตั้งห้าชิ้น?”

"นี่เป็นของขวัญที่ฝ่าบาทพระราชทาน ลูกห้าคน หนึ่งคนหนึ่งชิ้น เป็นของที่มีเพียงสายเลือดราชวงศ์เท่านั้น ที่จะสามารถมีในครอบครองได้ ไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะพอใจกับสิ่งนี้หรือไม่ อย่างไรเสีย งานแต่งครั้งนี้พวกเจ้าก็อยากหาที่พึ่งพิงให้กับลูกสาว ถือว่าเป็นการปกป้องนางชั่วคราว ลองสุ่มเลือกขึ้นมาสักชิ้นจะดีกว่า เป็นเหมือนการเลือกคนที่จะหมั้นหมายกับนาง ในวันข้างหน้าจะได้มีหลักฐานยืนยัน”

เว่ยหลิงชวนมองหยุนโล่ชายที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดขึ้นว่า "ชายเอ๋อเลือกแล้วกัน"

หยุนโล่ชายพยักหน้า มองไปที่หยกประดับรูปมังกรทั้งห้าในถาด สุดท้ายก็เลือกขึ้นมาหนึ่งชิ้น

"ชิ้นนี้!" หยุนโล่ชายหยิบขึ้นมาส่งให้อันหลิงหยุนดู อันหลิงหยุนรู้สึกเหนือคาด

“ เป็นเจ้าใหญ่!”

อันหลิงหยุนเหลือบมองกงชิงวี่ แต่ไม่ได้พูดอะไร เพียงส่งหยกประดับไปให้หยุนโล่ชาย

หยุนโล่ชายรับหยกประดับไปเก็บไว้เรียบร้อย จึงตามเว่ยหลิงชวนกลับไป

อันหลิงหยุนมองดูแผ่นหลังของพวกเขาที่กำลังจากไป กล่าวว่า“ ในใต้หล้านี้ จิตใจของพ่อแม่ทุกคน ต่างก็หวังว่าลูกสาวของพวกเขา จะมีที่พึ่งพิงที่ดีสักแห่งหนึ่ง ให้ใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้ พวกเขาเองก็เหมือนกัน

เว่ยหลิงชวนกลัวท่านอ๋อง แต่เพื่อให้ลูกสาวของเขามีที่พึ่งที่ดี เขาจึงกลั้นใจมาเพื่อของานแต่ง ท่านคิดว่าการมีลูกสาวนั้นดีหรือไม่? "

"ดีหรือไม่ข้าไม่รู้ แต่คนอื่นเค้ามีลูกสาวข้าอิจฉายิ่งนัก เพียงแต่ว่า..... " กงชิงวี่ลังเล อันหลิงหยุนรู้ได้ทันทีว่าเขาคิดอะไรอยู่

"ท่านอ๋องเพคะ หากว่าท่านชอบจริงๆ ข้าก็สามารถให้กำเนิดได้อีก เพียงแต่ถ้าเกิดว่าให้กำเนิดอีกครั้ง ก็ยังเป็นลูกชายหมดห้าคนอีก ท่านอ๋องจะว่าอย่างไรหรือเพคะ?" นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อันหลิงหยุนเชื่อเช่นนั้น

ทันทีที่ได้ยิน กงชิงวี่พลันหน้าเขียวปั้ด: "มีที่ไหนจะดีถึงขนาดมีอีกห้าคน ก็เป็นลูกชายหมดอีกแล้ว นั่นมันจะเป็นไปได้..... "

พูดไปครึ่งเดียว กงชิงวี่ถามเสียงอ่อยว่า "เป็นไปได้ไหม?"

อันหลิงหยุนส่ายหัว: "ข้าไม่รู้ ในทางการแพทย์ คนคนหนึ่งให้กำเนิดครั้งละหนึ่ง หรือสองคนนั้น นับได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ครั้งละห้าหรือหกคน หรือมากกว่านั้น เป็นเรื่องยากจะได้พบเห็น

แต่ตอนที่ข้ามาที่นี่ ร่างกายดั้งเดิมก็มีปัญหาอยู่แล้ว ใครก็บอกได้ไม่ชัดเจนว่า..... "

"ปัญหาอะไรกัน?" กงชิงวี่ไม่ชอบฟัง: "ข้าอยู่ที่นี่ การที่หยุนหยุนมาที่นี่ ถือเป็นลิขิตฟ้าชะตาสวรรค์กำหนด มันไม่ใช่ปัญหา"

คว้าจับมืออันหลิงหยุนเอาไว้ แววตาของกงชิงวี่หม่นแสง หนักอึ้งจมลง

อันหลิงหยุนมองเขา: "จะมีภรรยาบ้านไหน คลอดลูกแล้วสื่อสารกับนกได้ ? เคยเห็นใครที่ไหนไปยังอีกโลกหนึ่งในขณะที่กำลังฝันอยู่บ้าง ? ท่านอ๋อง ... ท่านไม่กลัวหรือ? ข้าเป็นสัตว์ประหลาดชัดๆ”

มือของอันหลิงหยุนถูกดึงออก นางเดินตรงออกไปข้างหน้า กงชิงวี่รีบเข้าไปคว้าอันหลิงหยุนไว้ทันที: "ข้าไม่กลัว ต่อให้เป็นสัตว์ร้ายข้าก็ยอมรับได้ ! คนอื่นอยากได้แค่ไหนก็ไม่มีวันได้มา!"

อันหลิงหยุนถอนหายใจ “ บางที ข้าอาจจะเป็นผลงานทดลองที่ล้มเหลวชิ้นหนึ่ง ระบบในร่างกายของข้า ก็ยุ่งเหยิงจนอธิบายให้แน่ชัดไม่ได้ ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่ง ข้าเป็นอะไรขึ้นมา พวกท่านจะทำอย่างไรเพคะ?”

กงชิงวี่กัดฟันกรอด: "มันจะไม่เป็นเช่นนั้นแน่ มีข้าอยู่ จะไม่มีวันที่พวกเจ้าแม่ลูกจะเป็นอะไรไปอย่างเด็ดขาด"

“ แต่ว่าท่านอ๋อง มีบางเรื่อง ที่ท่านไม่อาจจินตนาการได้ เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของคนเรา”

"ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีหนทางก็ตาม ข้าอยากให้เจ้าสัญญากับข้าว่า จะไม่ทอดทิ้งข้าไปไหน หากเจ้าต้องไปจริงๆ ... ก็พาข้าคนนี้ไปด้วย ไม่เช่นนั้นข้าจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตายไปเลย!"

"เอาอีกแล้ว" อันหลิงหยุนกลอกตามองบนใส่กงชิงวี่แบบเคืองๆ: "ท่านอ๋องผู้สง่างาม ไม่ได้ไม่ดีก็จะเอาหัวโขกกำแพงให้ตายทุกครั้งสินะ!"

"หัวโขกกำแพงตายก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ เป็นเพราะข้าไม่มีหนทางอื่นแล้ว ใครใช้ให้ข้าแต่งงานกับคนเช่นนี้ คนที่เอาแต่คิดจะโยนข้าทิ้งไว้เบื้องหลังตลอดเวลา มาเป็นพระชายากันล่ะ

เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นหยุนหยุนที่มาหาข้าก่อน จนแต่งงานมีลูกกันแล้ว กลับเอาแต่คิดอยู่เสมอว่าจะจากข้าไปอย่างไรดี ข้าไม่หาทางเอาหัวโขกกำแพงให้ตาย หรือควรจะซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหลพรากอย่างนั้นหรือ? " กงชิงวี่จับมือของอันหลิงหยุนไว้แน่น พูดกับนางด้วยอารมณ์เดือดปุดๆ พูดจนอันหลิงหยุนสีหน้างุนงงสับสนไปหมด ราวกับว่านางไปทำเรื่องลักขโมยอะไรของใครมา พูดจนอันหลิงหยุนไม่กล้าพูดอะไรต่อแล้ว

“ข้ารับปากท่านอ๋อง ว่าจะไม่จากไป” กงชิงวี่จับมือของอันหลิงหยุน ดึงคนเข้ามาตรงหน้า

เมื่อเก็บอารมณ์โกรธบนใบหน้าไป แววตาของเขาก็อ่อนโยนลง“ หยุนหยุน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากกลับไป ถึงอย่างไรที่นั่นก็เป็นบ้านของเจ้า เจ้าอยากจะกลับไปก็เป็นเรื่องปกติ แต่ข้าไม่อาจอยู่เพียงลำพังได้หากไม่มีหยุนหยุน”

“ ข้ารู้ว่าท่านอ๋อง จะเอาหัวโขกกำแพงตายในทีเดียว!”

แววตาของกงชิงวี่หนักอึ้งจมลง: "เช่นนั้นก็อย่าคิดเรื่องที่จะจากข้าไป ขอลองถามหน่อยเถอะว่า นอกจากข้าแล้ว ยังมีใครที่จะดีกับหยุนหยุนได้ขนาดนี้อีกบ้าง?"

อันหลิงหยุนกลับเห็นด้วย: "จริงด้วยเพคะ!"

ทั้งสองซึมซับความอบอุ่นอยู่สักพัก จึงค่อยกลับเรือนหลังไปด้วยกัน

เด็ก ๆ ล้วนพักผ่อนกันหมดแล้ว อันหลิงหยุนจึงเอ่ยถึงเรื่องของฮองเฮา

กงชิงวี่ดื่มชาและมองอันหลิงหยุนเพียงครู่ แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร อันหลิงหยุนเห็นว่าเขาไม่มีเจตนาจะพูด จึงถามว่า: "เรื่องการกักบริเวณฮองเฮานี้ ท่านอ๋องรู้หรือไม่เพคะ?"

เกลี้ยกล่อมก็เกลี้ยกล่อมแล้ว พูดก็พูดแล้ว นางได้พยายามเต็มที่แล้วจริงๆ!

กงชิงวี่ถอดเสื้อผ้าออก เอนตัวนอนบนเตียง อันหลิงหยุนอยากกินอะไรสักหน่อย จึงออกประตูไป

กงชิงวี่ลืมตามองไปที่ประตู แล้วลุกขึ้นนั่ง

มีเงาคนผู้หนึ่งวูบไหวร่อนลงมาในห้อง: "คารวะเจ้านาย"

“ที่พระชายาพูดมาเมื่อครู่ ได้ยินแล้วใช่หรือไม่?”

“ข้าน้อยได้ยินแล้ว จะรีบไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”

“อื้ม”

เงาร่างนั้นวูบไหวหายไป กงชิงวี่จึงเอนตัวลงนอนอีกครั้ง

ในขณะนั้น อันหลิงหยุนกำลังเตรียมไปกินข้าว หยุนโล่ชวนก็มาพอดี

อันหลิงหยุนมองคนที่เดินเข้าประตูมา เริ่มจะเบื่อหน่ายรำคาญขึ้นมาเสียแล้ว

แค่จะกินข้าวก็ยังไม่ได้เลยหนอ

"พี่สาวพระชายาเสียน" คนยังมาไม่ถึงเสียงก็นำมาก่อนแล้ว หยุนโล่ชวนกระโจนเพียงสองสามก้าว ก็พุ่งทะยานไปอยู่ตรงหน้าอันหลิงหยุน นั่งลงด้วยสีหน้าจริงจัง

อันหลิงหยุนอดไม่ได้ที่จะถามนาง: "ดึกดื่นขนาดนี้แล้วยังมาที่จวนแม่ทัพ มีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ?"

"แน่นอน พี่สาวพระชายาเสียน ... พวกเราเกี่ยวดองตบแต่งกันดีไหมเจ้าคะ?"

อันหลิงหยุนถือตะเกียบไม่อยู่ ทำหลุดมือร่วงลงไปที่พื้นตรงๆ เก็บก็ยังไม่กล้าเก็บด้วยซ้ำ ปากอ้าค้างด้วยความตกใจ: "เจ้ากับข้าเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กัน ใกล้ชิดกันอย่างมาก เกี่ยวดองกันระหว่างญาติจะเกิดปัญหาขึ้นได้นะ!”

“ปัญหา ปัญหาอะไรเจ้าคะ?” หยุนโล่ชวนสีหน้าฉงนงงงัน

อันหลิงหยุนกลัดกลุ้มอย่างหนัก รู้สึกหวั่นวิตก กังวลกับไอคิวของหยุนโล่ชวนเหลือเกิน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน