บทที่ 476 ฮ่องเต้ใช้อำนาจคุกคาม
อันหลิงหยุนก้มหน้าทว่าในใจราวกลับมีฝูงม้าหมื่นตัวกำลังวิ่งห้อตะบึง ทันใดนั้นจึงได้ตระหนักถึงจุดประสงค์ของฮ่องเต้ชิงหยู่ เดิมทีมิได้ประสงค์ที่จะรวบรวมเงินเพื่อไปบริจาค ด้วยว่าการบริจาคดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเกียรติยศของราชวงศ์ประเทศต้าเหลียง หากถูกคุกคามและนางนำเงินก้อนหนึ่งออกมา ขายหน้าต่อนางผู้เดียวย่อมดีกว่าขายหน้าต่อคนหมู่มาก
อย่างไรเช่นนี้ก็เป็นการกดขี่และบีบบังคับกันเกินไป หากว่านางนำเงินออกมาแล้ว กล้าออกไปพูดพล่ามไร้สาระ แผนการของฮ่องเต้ชิงหยู่ราวกับดีดลูกคิดบนรางแก้ว เสียจริง!
ฮ่องเต้ชิงหยู่ได้ตัดสินใจแล้วว่าหากตีเหล็กต้องถือโอกาสตีตอนยังร้อน เพื่อควบคุมจวนอ๋องเสียนแล้ว มิอาจใจอ่อนได้
กงชิงวี่ก่อความวุ่นวายจนถูกปลดตำแหน่งอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ในใจของฮ่องเต้ชิงหยู่ยังจดจำได้ดี จึงตัดสินใจวางแผนร่วมกัน
อันหลิงหยุนมิกล้ากล่าวอันใดแม้แต่ประโยค ทำได้เพียงคุกเข่าลง “ฮ่องเต้ตรัสได้ถูกต้องแล้วเพคะ กระหม่อมสมควรตาย!”
อันหลิงหยุนหมดคำจะกล่าว หากไม่มีเงินก็จะเอาชีวิต ฮ่องเต้ชิงหยู่ช่างกล้าขอ นางก็คงต้องกล้าให้
ฮ่องเต้ชิงหยู่ไหนเลยจะมองไม่ออกว่าอันหลิงหยุนมีท่าทีกระด้างกระเดื่อง แต่ทว่าฮ่องเต้กลัวท่าทีกระด้างกระเดื่องเสียเมื่อใดเล่า !
“เจ้าอย่าได้คิดว่าจวนอ๋องเสียนอยู่ข้างนอก จะมิเกรงกลัวเพราะมีที่พึ่งพิง หากว่าข้าสนใแล้วจริงๆ พวกเจ้าก็มิมีโอกาสหนีอีกแล้ว”
อันหลิงหยุนกล่าวอย่างเคารพว่า “กระหม่อมทราบเพคะ”
“...”ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปทางอันหลิงหยุน พระพักตร์ที่บึ้งตึงได้ผ่อนคลายลง “เจ้าจะไม่ไว้หน้าข้าจริงหรือ?”
“ฮ่องเต้ผู้ทรงปรีชาญาณ กระหม่อมมีความผิดเพคะ!”
“...”ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงกริ้วจนแทบสิ้นพระชนม์ ไม่ว่าอย่างไรก็มิอาจได้เงินมา
“จวนอ๋องตวนออกมาแล้วห้าล้านตำลึง รวมถึงเงินและทอง รวมทั้งหมดแล้วเกือบสิบล้านตำลึง จวนอ๋องเสียนคิดจะออกเท่าใด? ”
อันหลิงหยุนเงียบไม่เอ่ยอันใด มิใช่ว่านางมิเต็มใจออกเงินที่มาจากการเคี่ยวเข็ญนี้ แต่นางไหนเลยจะมีสิทธิ์ให้ได้ หากไปปรึกษาหารืออ๋องเสียน พี่น้องทั้งคู่ออกคนละครึ่งนางก็ยินดี แม้ว่ากำลังทรัพย์ของจวนอ๋องเสียนพวกเขาจะอ่อนแอ ไม่เหมือนกับกำลังทรัพย์ของจวนอ๋องตวนที่มากมายมหาศาล แต่อย่างไรก็ถือว่าสมเหตุสมผล
บัดนี้ถือได้ว่า นางคล้ายหนูตัวหนึ่งที่อยู่ในมือของฮ่องเต้ชิงหยู่ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด
อันหลิงหยุนรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก !
“ฮ่องเต้จวนอ๋องเสียนไม่มีเงินเพคะ แท้จริงก่อนหน้าได้นำเงินออกมาแล้วจำนวนหนึ่ง เงินเหล่านั้นประการแรกใช้ไปเพื่อเปิดร้านค้าอยู่หลายแห่ง ประการที่สองจวนอ๋องใช้เงินไปสำหรับจ่ายค่าเช่าเหล่านั้นเพคะ ยังมีจุนฉูฉูที่ทำลายจวนอ๋องเสียนทำให้กระหม่อมต้องชดใช้ไปเพคะ นอกจากนี้อ๋องตวนเพื่อให้กระหม่อมช่วยรักษาพระชายาอ๋องตวนจึงได้ให้ค่าตรวจโรคมาเพคะ แต่เงินของจวนอ๋องเสียนก็ยังขาดแคลนอยู่เช่นเดิมเพคะ ก่อนหน้านี้ก็ได้นำออกมาแล้วก้อนหนึ่ง ทว่าได้ส่งไปที่ต้าจงเจิ้งย่วนแล้วเพคะ ยังเหลือหนี้เหล่านั้น...”
คำที่กล่าวออกมาจำนวนมากเหล่านั้น อันหลิงหยุนชี้แจงทั้งหมดในหนึ่งลมหายใจ ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างมาก แต่งภรรยาเช่นกัน เหตุใดอ๋องเสียนจึงได้แต่งสตรีที่มีเหตุมีผลเสียจริง
เขาเป็นฮ่องเต้ทว่ากลับไม่มีเงิน อ๋องเสียนนับจากแต่งกับพระชายาอ๋องเสียน แต่ละวันยิ่งอยู่ยิ่งดีขึ้นไปเรื่อยๆ คำเล่าลือตามท้องตลาดที่ว่าพวกเขาสามีภรรยาสวมเสื้อผ้าชุดเดียว ใช้เงินไปไม่ต่ำกว่าหมื่นตำลึง ทรัพย์สินในบ้านช่างมั่งคั่งเสียจริง!
ไม่เอาเงินพวกเขาแล้ว ขออภัยเหล่าทหารที่อยู่เฝ้ารักษาการณ์อยู่ที่ด่านชายแดนประเทศต้าเหลียง และขออภัยโรคตั๊กแตนระบาดที่อยู่ทางใต้!
ฮ่องเต้ยังคงนิ่งไม่ขยับพระวรกาย ค่อยตรัสทีละคำ “ค่าใช้จ่ายของจวนอ๋องเสียนมากหรืออย่างไร คาดไม่ถึงว่าจะใช้เงินเหล่านั้นไปแล้ว?”
อันหลิงหยุนมองออกแล้วว่า หากฮ่องเต้ชิงหยู่มิอาจนำเงินไปได้ก็สาบานว่าจะไม่เลิกรา
แต่นางไม่ชอบใจเลยเสียจริง !
เงินที่นางสะสมมาอย่างลำบากยากเข็ญ หากต้องการยึดมั่นในความเป็นธรรม ใช้เพื่อสนับสนุนด่านชายแดน นางก็ยินยอมพร้อมใจ
แต่นี่ไม่ใช่ !
ฮ่องเต้ชิงหยู่หมุนกายลุกขึ้นจากเก้าอี้มังกร ก้าวทีละก้าวจนมาถึงบันไดด้านล่าง
อันหลิงหยุนมองไปที่ฮ่องเต้ชิงหยู่ที่เดินเข้ามาก็รู้สึกได้ว่ามิน่าใช่เรื่องดี อันที่จริงบางเรื่องที่ผู้คนไม่พูด และไม่มีผู้ใดรู้ ถ้าหากกล่าวขึ้นมาแน่นอนว่ามิใช่เรื่องดี
ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสว่า “ขณะที่บิดาเจ้าออกไปสู้รบ เคยรับอุปการะคนผู้หนึ่ง ภายหลังเขาก็มิได้กล่าวถึงคนผู้นี้ ทว่าวันเวลาที่เจ้าถูกให้กำเนิด ก็เป็นช่วงเวลาที่ห่างจากนั้นไม่นานเสียจนพอดิบพอดี
ข้าจำได้ เวลานั้นประจวบเหมาะกับองค์หญิงจากบางประเทศได้พลัดหายไป”
อันหลิงหยุนมึนงงไปเล็กน้อยและคุกเข่าลงทันที “ฮ่องเต้โปรดอย่าทำให้หม่อมฉันกลัวเลยเพคะ เช่นนั้นกระหม่อมจะเป็นธุระจัดการเรื่องราวต่างๆแทนฮ่องเต้ด้วยตนเองเพคะ”
อันหลิงหยุนนับว่าเกรงกลัวแล้ว มิควรมาที่วังหลวงอย่างที่คิดไว้จริงๆ!
ฮ่องเต้ชิงหยู่ก้มลงและพยุงอันหลิงหยุนขึ้นมา “หยุนหยุน...”
อันหลิงหยุนก้มหน้าในทันที มิได้มองฮ่องเต้ชิงหยู่แม้แต่น้อย นางมิอาจอาจเอื้อม
“ข้าก็อับจนหนทางเสียจริง เรื่องนี้มอบให้ผู้ใดก็มิอาจสำเร็จลุล่วง ถึงอย่างไรก็มิอาจไปทำนาบนหลังคน ดูไปก็ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว หากยังมิจัดสรรเงินไปให้เหล่าทหารด่านชายแดนก็เกรงว่าจะต้องทนหนาวและอดอยาก ข้าจักไปสู้หน้าประชาชนของประเทศต้าเหลียง และเหล่าทหารด่านชายแดนได้อย่างไร ”
อันหลิงหยุนมิกล่าวอันใด นี่มิใช่เพียงพลิกฝ่ามือก็ได้พุทราจีนแสนหวานหรอกหรือ นางก็มิใช่คนเขลา จะเชื่อเขาได้อย่างไร ?
อันหลิงหยุนเงียบครึม ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นมือออกไปดึงพู่ห้อยที่อยู่บนชุดของอันหลิงหยุนออกมา มองอย่างละเอียด “สิ่งของที่ดีเช่นนี้ ข้าไม่ยักเคยพบเห็น”
อันหลิงหยุนยังคงเงียบ ภายในที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน แท้จริงแล้วใส่ทองไว้ เพื่อทำให้เสื้อผ้าและพู่ห้อยนี้มีความรู้สึกตระการตายิ่งขึ้นไป ทั้งหมดล้วนถักทอด้วยด้ายสีทอง ประณีตงดงามและล้ำค่าเป็นอย่างมาก นี่เป็นสิ่งที่หยุนจิ่นเตรียมไว้ให้นางโดยเฉพาะ
คาดไม่ถึงว่าบัดนี้กลับกลายเป็นนางที่ถูกฮ่องเต้ชิงหยู่คุกคามเข้าเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...