บทที่ 514 ย่าโฮ่ทำธุระ
หญิงชรากำลังทำงานอยู่ในเรือน เห็นอันหลิงหยุนแล้วก็รีบลุกขึ้นมา เดินไปข้างหน้าอันหลิงหยุนย่อตัวคำนับ “หญิงชราคำนับพระชายา”
“ลุกขึ้นเถอะ เห็นโฮ่เซิงฟื้นตัวได้ไม่เลว พวกเจ้าสามีภรรยาอยู่กันคุ้นเคยหรือยัง”
ในเรือนไม่มีคนอันหลิงหยุนเดินเข้าไปนั่งลง หยุนจิ่นเฝ้าอยู่ที่ประตู ป้องกันคนแอบฟัง
หญิงชรารีบพูดว่า “คุ้นเคย คุ้นเคยมาก คนในจวนต่างดูแล เงินก็ให้ไม่น้อย สะสมไม่กี่ปีก็คงไปสู่ขอภรรยาให้โฮ่เซิงได้แล้ว ”
อันหลิงหยุนคิดอยู่สักพัก “เจ้าคิดจะหาสะใภ้ให้โฮ่เซิงหรือ”
“ใช่ โฮ่เซิงฟื้นตัวได้ไม่เลวอย่างนี้ ตอนนี้เขารู้เรื่องขึ้นมากแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเห็นเขามองคนอื่นสู่ขอภรรยา เขาพูดกับข้าว่าเขาก็อยากสู่ขอภรรยา ข้าคิดว่าหากมีหญิงสาวบ้านใดยินยอม ก็จะลองไปทาบทาม ขอเพียงแค่ไม่ใช่คนโง่ พิการนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ”
ที่หญิงชราพูดอันหลิงหยุนก็เข้าใจได้ อันหลิงหยุนมองไปที่ประตูพูดว่า“ในจวนไม่รู้ว่ามีหญิงสาวที่ดีหรือไม่ หากมีก็สามารถหาที่ถูกใจสักคน เพียงแต่คนอย่างโฮ่เซิง หากแต่งกับภรรยาที่ฉลาดเกินไปเกรงว่าภายหน้าหากพวกท่านสองสามีภรรยาไม่อยู่แล้ว โฮ่เซิงอาจลำบาก แต่หากแต่งกับภรรยาที่ไร้ความคิด แล้วยังไม่สามารถดูแลโฮ่เซิงให้ดีได้ ฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ต้องเร่งรีบ ไม่สู้หาที่ที่มีผู้หญิงดีๆมากสักหน่อย ให้โฮ่เซิงไป หากมีหญิงสาวดีๆกับโฮ่เซิงชอบพอกันเอง เช่นนั้นก็จัดการได้ง่ายนัก อย่างน้อยก็ดูที่ความสัมพันธ์ ภายหน้าก็คงจะดีกับโฮ่เซิง ”
“พระชายาพูดถูก แต่สถานะเช่นพวกเรา จะไปกล้าคิดเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร สามารถทำงานรับใช้ในจวน นับว่าเป็นบุญคุณใหญ่หลวงของพระชายาแล้ว ไม่กล้าคาดหวังเรื่องพวกนั้น”หญิงชราเอ่ยต่อ
อันหลิงหยุนพูดว่า “ที่ลานจุนจื่อไม่กี่วันนี้จะจัดการให้คนเข้าไปทำงานอีกไม่น้อย โฮ่เซิงมีพละกำลังมาก เป็นมือดีในการผ่าฟืน ผ่าฟืนอยู่ที่นี่ก็ต้องส่งไปไกลถึงลานจุนจื่อทางโน้น ไม่สู้ไปอยู่ที่ลานจุนจื่อจะดีกว่าหน่อย หนึ่งนอกจากทำงานสะดวกแล้ว สองเพื่อวางตำแหน่งคนทางโน้น และล้วนเป็นคนที่หยุนจิ่นคัดสรรมา เข้าไปแล้วก็มีโอกาสมากขึ้น ”
“พระชายา วันนี้ที่มาคงไม่ใช่เพราะเรื่องที่แม่นางหยุนจิ่นต้องการให้ข้าเข้าไปรับใช้ที่ลานจุนจื่อกระมัง”
หญิงชราก็เป็นคนฉลาด พูดจนถึงขนาดนี้แล้ว ย่อมไม่กล้าจะเมินเฉยได้
อันหลิงหยุนจึงพูดว่า “คนเปิดเผยพูดอะไรตรงไปตรงมา ในเมื่อเจ้ารู้จุดประสงค์ในการมาของข้า เช่นนั้นข้าก็จะไม่อ้อมค้อม เป็นเช่นนั้นจริง”
หญิงชราครุ่นคิดอยู่สักครู่แล้วพูดว่า “พระชายา โฮ่เซิงเป็นท่านที่ช่วยไว้ ครอบครัวข้ารู้สึกซาบซึ้งในพระชายาไม่สิ้นสุด มีที่ใดที่พระชายาต้องการใช้งานขอให้สั่งการมาเถอะ ไยต้องมาถึงที่นี่ด้วยตนเอง”
“หยุนจิ่นบอกกับข้าว่า เชิญเจ้าหลายครั้ง เจ้าก็ไม่ตกลง ข้าจึงมาดู”
หญิงชราได้ยินก็รีบคุกเข่าลง“พระชายา ไม่ใช่เช่นนั้น ”
“แล้วเป็นเช่นไร หรือว่าหยุนจิ่นโกหกข้า”
“พระชายา ที่จริงข้าเองก็มีเรื่องลำบากใจ ”อันหลิงหยุนประคองนางขึ้นมา
“ข้าไม่ชอบให้คนอื่นคุกเข่าให้ข้า ไม่เป็นตัวเองเลย ลุกขึ้นพูด เจ้าพูดเถอะ หากมีเรื่องลำบากใจแท้จริงแล้วละก็ เรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ เพียงแต่ฟังหยุนจิ่นพูดว่าท่านความรู้กว้างขวาง แล้วยังมีความสามารถในการทำงาน จึงคิดจะให้คนทั้งบ้านของพวกเจ้าไปอยู่ด้วย”
หญิงชราคิดแล้วพูดว่า “พระชายา โฮ่เซิงแม้จะดีขึ้นแล้ว แต่ทุกคนต่างก็รู้ เขาไม่ได้จะเป็นปกติสักทีเดียว เหล่าซื่อจื่อทั้งหลายล้วนสูงส่ง ข้าเกรงว่าหากไปแล้วอาการของโฮ่เซิงเกิดกำเริบแล้วทำให้เหล่าซื่อจื่อทั้งหลายหวาดกลัว จึงได้ปฏิเสธไป เพียงแต่ข้าคนนี้ทำงานตรงไปตรงมา ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน เกรงว่าแม่นางหยุนจิ่นจะเข้าใจผิด ขอพระชายาโปรดอภัยด้วย”
“หยุนจิ่นไม่ได้พูดเรื่องพวกนี้ แต่ข้ารู้สึกว่า เจ้าหวังว่าข้าจะมาเองสักครั้ง ให้หลักประกันกับเจ้า หากโฮ่เซิงเกิดทำให้เหล่าซื่อจื่อทั้งหลายตื่นตระหนกตกใจจริงละก็ อย่างน้อยข้าก็จะไว้ชีวิตโฮ่เซิง เช่นนี้ใช่หรือไม่ ”คำพูดของอันหลิงหยุนตรงกับความคิดของหญิงชรา ใบหน้าของหญิงชราซีดขาว รีบคุกเข่าลง
อันหลิงหยุนไปประคองหญิงชรา นางจึงลุกยืนขึ้นมา
“ข้าให้หลักประกันแล้ว หากโฮ่เซิงทำให้เหล่าซื่อจื่อตกใจจริงๆ แต่ไม่ร้ายแรงถึงชีวิต จะไม่ลงโทษ ปล่อยโฮ่เซิงไป ส่วนเรื่องอื่นๆก็ ก็ทำตามที่หยุนจิ่นพูดก็พอแล้ว”
ทั้งครอบครัวกินข้าวพร้อมกันจากนั้นโฮ่เซิงก็ไปที่ลานบ้านผ่าฟืนต่อ ลานที่โฮ่เซิงอาศัยอยู่ เป็นลานที่อยู่โดดเดี่ยว ไม่ใหญ่นัก อยู่ในมุมที่ห่างไกลจากลานหลังจวนอ๋องเสียน ถัดจากห้องครัวด้านหลัง
ฟืนผ่าเสร็จแล้วลำเลียงไปที่นั่นก็สะดวก อีกทั้งโฮ่เซิงทำงานเก่ง กลางวันทำงานกลางคืนก็ไม่ได้เข้านอนเช้านัก กลางคืนก็ผ่าฟืนอยู่ที่ลานบ้าน บางครั้งจนดึกดื่นก็ยังไม่พักผ่อน
ที่นี่ห่างไกลจากที่ที่คนอื่นพักผ่อนมาก และไม่กระทบต่อคนอื่น
หลังจากผ่าฟืนตอนกลางคืนเสร็จย่าได้ต้มไข่ไก่ให้เขากิน เขาชอบกินไข่ไก่ มื้อหนึ่งกินได้ห้าหกฟอง
ย่าโฮ่วางไข่ไก่ลง โฮ่เซิงเช็ดเหงื่อ นั่งลงกินไข่ไก่
“โฮ่เซิง นอนเถอะ วันนี้นอนเช้าหน่อย”
โฮ่เซิงเชื่อฟัง เขาฟังคำของย่าโฮ่มากที่สุด กินไข่ไก่แล้วโฮ่เซิงก็ไปนอน ย่าโฮ่มองปู่โฮ่ กำชับไม่กี่คำ ก็จากไป
ติดต่อกันสองวัน วันที่สามอันหลิงหยุนเพิ่งกินข้าวเช้าเรียบร้อย ก็มองเห็นย่าโฮ่ยืนรออยู่ที่หน้าประตูลานโอวหลาน
ลานจุนจื่อและลานโอวลานนั้นเชื่อมติดกัน กลางวันส่วนมากอันหลิงหยุนจะไม่อยู่ที่ลานจุนจื่อ เวลาส่วนมากจะอยู่ที่ลานโอวหยาง กงชิงวี่ก็อยู่เป็นเพื่อนนางที่นี่ เด็กๆมอบให้หยุนจิ่นดูแลอยู่ที่ลานจุนจื่อ
เพียงแต่อันหลิงหยุนคุ้นเคยกับการอุ้มลูกคนเล็ก เด็กคนนี้เอาแต่ใจสักหน่อย เพียงไม่ถูกใจเล็กน้อยนมก็ไม่ยอมกิน อันหลิงหยุนก็จนปัญญา
อาหยู่รายงานแล้ว ย่าโฮ่จึงเดินเข้ามาจากประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...