ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 519

บทที่ 519

ไห่กงกงยิ้ม“เป็นเพราะฮั๋วไท่เฟยมีความรู้สึกต่อฮ่องเต้องค์ก่อน”

“นั่นก็มิใช่ทั้งหมด ต้องเป็นเพราะฮ่องเต้องค์ก่อนเองก็มีความรู้สึกต่อฮั๋วไท่เฟยเช่นกัน ฮ่องเต้องค์ก่อนนางสนมเยอะเช่นนั้น แต่ไม่ต้องสงสัยเลย,ฮั๋วไท่เฟยก็เป็นผู้ที่เขาใส่ใจถ้าหากไม่ใช่ ฮั๋วไท่เฟยจะกล้ามายโสเช่นนั้นต่อหน้าตำหนักของข้า

เพียงแค่ฮั๋วไท่เฟยก็เป็นคมีหัวใจเช่นกัน นางเองก็เข้าใจ หากไม่ใช่บารมีของข้าคอยคุ้มกัน นางก็คงไม่ทางมีชีวิตรอด

อยู่ในวังแห่งนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมทันคน แล้วยังต้องมีความภักดี และยิ่งกว่านั้นต้องทำเป็นปิดตาข้างเดียวทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น

ทั้งสองคนที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้หน่ะ……มีแต่ทำให้ข้ารู้สึกไม่วางใจ ถ้าหากไม่หาใครสักคนมาดูแลเขา ข้าก็ไม่รู้สึกวางใจ อ๋องเสียนใจก็ไม่สงบด้วย!”

ไห่กงกงมองไป:“ฮองไทเฮา แต่อารมณ์ของซ่งเต๋อเฟย ทั้งยังอายุของนางแล้วด้วย เรื่องนี้จะสำเร็จหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“จะสำเร็จหรือไม่นั้นคงต้องรอดูโชคชะตาแล้ว มู่มิงเป็นคนอารมณ์ร้ายมาตั้งแต่ยังเล็ก ข้าคิดว่าคนที่เหมาะสมกับนางมากที่สุดคืออ๋องเสียน แต่น่าเสียดายยิ่งนักที่เขาโชคดี แต่ถึงเช่นนั้นทุกวันนี้อ๋องเสียนเองก็นับว่าสุขสมหวังแล้ว

อ๋องตวนเองก็สามารถที่จะวางใจได้แล้ว จะเหลือก็เพียงฮ่องเต้แล้ว เช่นนั้นจึงทำได้เพียงให้มู่มิงเข้าวังเท่านั้น ”

“ฮองไทเฮา……แต่ในใจของซ่งเต๋อเฟยไม่ใช่ว่า……”

“นางอายุยังน้อยนัก ยังไม่เข้าใจทุกเรื่องราว เพียงแค่เป็นคนอารมณ์รุนแรงเท่านั้น เสินหยุนเจ๋ถ้าทำดีกับนางก็น่าจะพอพูดได้หน่อย ใช่ว่าจะไม่มีใจเสียหน่อย?เรื่องนี้ ก็ต้องรอดูฝั่งฮ่องเต้ด้วย เรื่องเช่นนี้ต้องรอดูไปก่อน หากไม่สำเร็จค่อยคิดจัดการอีกที!”

ในเวลาวังซ่งเต๋อมีคนยืนรออยู่ ด้วยเหตุที่ได้รับบัญชามาแล้ว

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปยังเหล่าบริวารที่คุกเข่าลงกับพื้น แล้วเดินเข้าไปในวังซ่งเต๋อ。

ในวันนี้มู่มิงรู้สึกไม่ค่อยสบาย ด้วยอาการไข้ พร้อมกับพลิกตัวไปมาด้วยความอึดอัด ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินเข้ามาก็ได้เห็นมู่มิงที่หายใจ หอบด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ

“เกิดสิ่งใดขึ้น?”ฮ่องเต้ชิงหยู่เดินไปตรงหน้าของมู่มิง ขันทีจึงรีบกล่าวรายงาน

“ถวายบังคมฝ่าบาท ซ่งเต๋อเฟยมีอาการป่วยไข้ ไม่ยอมให้เรียกหมอหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

“เหลวไหล รีบไปเชิญหมอหลวงมา”ฮ่องเต้ชิงหยู่นั่งลงบนเตียง ด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อมู่มิง

เพราะการเข้ามาอยู่ในวังก็เป็นดังนกในกรง นิสัยของนางชอบเอาตนเป็นใหญ่ ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในวังหลวง

มู่มิงลืมตาดูฮ่องเต้ชิงหยู่ด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง ถึงแม้จะเจ็บป่วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้นางเกิดความสับสนใด

จากนั้นก็นอนหันหลังใส่ฮ่องเต้ชิงหยู่ ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็รู้สึกขำขัน :“นิสัยของเจ้าช่างไม่น้อยหน้ายิ่งนัก แม้แต่ข้าเจ้าก็ยังไม่ไว้หน้า”

“หึ!”

มู่มิงไม่มีท่าทีเกรงกลัวใดๆ

ฮ่องเต้ชิงหยู่หมดปัญญา จึงทำได้เพียงมองอย่างเงียบๆ

หมอหลวงรีบเข้ามาทำการวินิจฉัยอาการป่วย ผู้ใดจะรู้ว่ามู่มิงจะอารมณ์ร้อนลุกขึ้นมาจากเตียง พร้อมจะตบหมอหลวงแต่กลับไม่โดนหมอหลวง ไปตบโดนฮ่องเต้ชิงหยู่แทน

จนหน้าของฮ่องเต้ชิงหยู่หันไปอีกทาง

มู่มิงคุกเข่าลงบนเตียงทันทีด้วยอาการตกใจพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างหนัก

ฮ่องเต้ชิงหยู่ขยับตัวเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่โกรธเคืองอย่างที่สุด:“บังอาจยิ่งนัก ข้าไว้หน้าเจ้ามากงั้นรึ?”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ลุกขึ้นยืน :“ทหาร เอาตัวนางไปขังไว้ที่ตำหนักเย็น!”

ข่าวของมู่มิงได้ถูกแจ้งออกมาในเช้าตรู่ อันหลิงหยุนเพิ่งตื่น กำลัง สวมใส่เสื้อผ้า อาหยู่ก็รีบมารายงานที่หน้าประตู:“ท่านอ๋อง ในวังเกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

กงชิงวี่ก็กำลังให้อันหลิงหยุนช่วยผูกเสื้อผ้าให้ ก็เงยหน้าขึ้นมองไปยังประตู:“ผู้ใดเกิดเรื่องกัน?”

“ซ่งเต๋อเฟยพ่ะย่ะค่ะ!”

อาหยู่ที่ได้ยิน ก็รีบรายงานกลับไปในทันที หากเป็นผู้อื่นนางก็คงไม่ต้องรีบร้อนถึงเพียงนี้

“เรื่องมู่มิงให้หลินหยุนไปจัดการดีกว่า ข้าจะไปตรวจสอบเรื่องก๊กกู๋ใหญ่เอง”กงชิงวี่ตัดสินใจเสร็จก็ใช้มือจับหน้าของอันหลินหยุนเอาไว้แล้วประทับรอยจูบบนริมฝีปากของนางเมื่อคืนทั้งสองยังไม่ได้สำเร็จความใคร่ หญิงสาวก็ชิงหลับเสียก่อน ชายคนนี้จึงเกิดความร้อนรนใจ และอารมณ์ที่ไม่พอใจมากนัก เมื่อค่ำวันนี้ตัดสินใจว่าจะนอนเร็ว จะได้เตรียมใจเอาไว่ก่อน

เมื่อปล่อยอันหลินหยุน กงชิงวี่จึงกล่าว :“ข้าวางมัดจำไว้ก่อน ตอนเย็นหลังจากกลับมาข้าจะมาทวงคืนส่วนที่เหลือ

หลินหยุนเจ้าก็รีบกลับมาเสียหน่อย พักผ่อนให้เยอะๆ หลีกเลี่ยงการใช้กำลังโดยสิ้นเปลือง”

กงชิงวี่กล่าวจบก็หันหลังออกไป เหลือเพียงอันหลินหยุนที่อยู่ในห้องด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

ไร้ยางอาย ช่างไร้ยางอายเสียจริง!

กลางวันแสกๆยังจะกล้าพูดเรื่องเช่นนี้ ไม่กลัวลิ้นจะขาดหรือไร

อันหลินหยุนเตรียมตัวอยู่ครู่หนึ่ง เพื่อเข้าวัง

กงชิงวี่เดินออกจากประตูมา ถางเหอก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความรีบร้อน:“ท่านอ๋อง!”

“ข้าจะไปจวนกั๋วจิ้วใหญ่ ส่วนเจ้าไปที่เสนาบดีกรมพระคลัง แล้วนำสมุดบัญชีของเสนาบดีกรมพระคลังมาให้ข้า หากมีผู้มาขัดขวางก็จัดการพวกเขาออกไปก่อน หากเกิดปัญหาข้าจะรับผิดชอบเอง”

“ข้าน้อยจะทำภารกิจให้สำเร็จขอรับ ท่านอ๋องโปรดวางใจ”ถางเหอรอคอยวันนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ก๊กกู๋ใหญ่ยโสได้อย่างทุกวันนี้ ไม่ได้มองผู้ใดอยู่ในสายตาอยู่แล้ว ถ้าเกิดยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าจะลามมายังจวนอ๋องเสียน แต่ถ้าหากท่านอ๋องจากออกไปจัดการ ก็กำลังพอดีกับการติดกับฝูงชนพอดี

กงชิงวี่เดินทางมาถึงยังหน้าประตูของจวนกั๋วจิ้ว ก่อนจะสั่งให้คนไปเคาะประตู แล้วคนของจวนกั๋วจิ้วก็ออกมาเชิญกงชิงวี่เข้าไปด้านในด้วยความรีบร้อน

แต่ผู้ที่ออกมาต้อนรับไม่ใช่ก๊กกู๋ใหญ่ กลับเป็นคุณชายใหญ่แห่งจวนกั๋วจิ้ว อ๋องจวิ้นเสียน หวางเสียน

ทันทีที่เห็นกงชิงวี่หวางเสียนก็รีบเดินเข้าไปพร้อมประสานมือทำความเคารพ ถึงแม้พวกเขาจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ด้วยฐานะที่สูงกว่าของกงชิงวี่ ที่เป็นถึงอ๋องซื่อเจิ้น(ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์) เพราะด้วยฐานะนั้น เขาจึงต้องเป็นฝ่ายเข้าไปทำความเคารพก่อน

“หวางเสียนยินดีต้อนรับอ๋องซื่อเจิ้น ขออ๋องซื่อเจิ้นอภัยที่ไม่ได้ทำการต้อนรับอย่างดี”

กงชิงวี่ก้มหน้าลงเล็กน้อย:“อ๋องจวิ้นเสียนไม่ต้องเกรงใจ ลุกขึ้นเถิด!”

หวางเสียนกล่าวขอบคุณก่อนจะลุกขึ้นยืน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน