บทที่ 576 เรื่องแต่งงานของอู๋โก๋
หยุนจิ่นได้รับข่าวคราว รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ช่างเป็นดั่งคำที่ว่าย่ำจนรองเท้าสึกไม่พบพานยามได้มากลับไม่เสียเวลาเลย ที่ได้มาล้วนไม่เสียกำลังเลย รีบไปจัดการเรื่องที่พัก อยู่ในสวนของลานจุนจื่อนั่นเอง
เรื่องนี้ทำเอาพ่อบ้านตกใจไม่น้อย รีบขัดขวางทันที
แต่ว่าหยุนจิ่นแต่ไหนแต่ไรก็เป็นผู้ตัดสินใจในลานจุนจื่อ อย่าว่าแต่พ่อบ้านเลย แม้จะเป็นกงชิงวี่และอันหลิงหยุนก็ไม่แน่ว่าจะคุมได้
พ่อบ้านขอร้องไม่สำเร็จ รีบไปรออันหลิงหยุนอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องเสียน
ใครจะรู้ว่ายังไม่ทันได้รออันหลิงหุยน ก็ได้รอรับหมอกุ่ยและอีกสองคนที่มาก่อนแล้ว
พ่อบ้านตกใจจนเกือบจะหกล้มไป
สามคนเข้ามา ก็ตรงมายังพ่อบ้าน พ่อบ้านก็กลัว นำคนทั้งสามไปยังด้านนอกของลานจุนจื่อ รอให้หยุนจิ่นมาต้อนรับพวกเขา
หยุนจิ่นเห็นทั้งสามคนก็รีบเชิญเข้าไปด้านใน จัดการให้เข้าที่ก่อน แล้วไปรอรับอันหลิงหยุนที่หน้าประตู
อันหลิงหยุนลงจากรถม้า ส่วนเฟิงอู๋ฉิงลงมาจากรถม้าอีกคัน
ฉวยโอกาสนี้ หยุนจิ่นเดินไปพูดกับอันหลิงหยุนอยู่ไม่กี่คำ อันหลิงหยุนมองหยุนจิ่น “เจ้ามั่นใจหรือ”
“แน่นอน”
“เช่นนั้นก็ทำอย่างที่เจ้าว่าเถอะ”
อันหลิงหยุนมองไปอีกฝั่ง เฟิงอู๋ฉิงลงจากรถม้าก็เดินตรงมายังทิศของอันหลิงหยุน
เฟิงอู๋ฉิงเอ่ยอย่างเย็นชา “ไม่ต้องพิธีรีตอง”
หยุนจิ่นยืนขึ้นพูดว่า “ข้าเคยไหว้วานให้คนช่วยพาเข้าพบท่านเจ้าสำนัก แต่ไม่เคยได้รับข่าวคราวเลย ไม่คิดว่าวันนี้จะได้พบเจอ นับว่าเป็นบุญวาสนาของข้าแล้ว”
“……”เฟิงอู๋ฉิงมองอันหลิงหยุนแวบหนึ่ง เหมือนไม่เข้าใจ
“จวนอ๋องเสียนให้กำเนิดซื่อจื่อห้าคน เป็นเรื่องที่พูดคุยกันอย่างมีความสุขไปทั่วทั้งประเทศต้าเหลียง แต่อาจารย์ของเจ้าห้านั้นยังไม่ได้รับการคัดเลือก ก่อนหน้านี้หยุนจิ่นได้ข่าวว่า ตอนนี้ในยุทธภพคนที่ยิ่งใหญ่ มีพรสวรรค์ไม่มีใครเทียบได้มีแต่เจ้าสำนักทิงเฟิงเฟิงอู๋ฉิงเท่านั้น เพราะเช่นนี้จึงได้สอบถามไปทั่ว เพื่อจะหาเจ้าสำนักเฟิง ไม่คิดว่าจะบังเอิญเช่นนี้ ที่สุดก็ถูกข้าพบเข้าแล้ว”อันหลิงหยุนพูดอย่างสง่าผ่าเผย
เฟิงอู๋ฉิงมองหยุนจิ่นแวบหนึ่ง แล้วมองไปยังอันหลิงหยุน “ไม่รู้จริงๆว่าตำแหน่งพระชายาของเจ้าได้มาอย่างไร แม้แต่สาวรับใช้ในจวนยังเทียบไม่ได้ ช่างรู้สึกไม่คุ้มค่าแทนอ๋องเสียนเสียจริง”
“……”หยุนจิ่นอึดอัดใจ
อันหลิงหยุนหัวเราะ พ่อบ้านปาดเหงื่อ
“เชิญเจ้าสำนักเฟิง”
อันหลิงหยุนเชิญเฟิงอู๋ฉิงเข้าไป หยุนจิ่นพยักหน้า จากนั้นก็ไปยังห้องอู๋ฉิง
เข้าไปที่ห้องอู๋ฉิง หยุนจิ่นรีบจัดการให้คนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเฟิงอู๋ฉิง ปิดประตูแล้วอันหลิงหยุนก็ไปดูลูกๆทั้งหลาย วางเจ้าห้าลงแล้วจากไป
หยุนจิ่นรอเฟิงอู๋ฉิงอยู่ที่หน้าประตู ที่ลานบ้านยังออกแบบให้เป็นที่ทำกิจกรรมของเฟิงอู๋ฉิงโดยเฉพาะ แม้จะเป็นนักโทษ แต่ก็ต้อนรับอย่างแขกผู้มีเกียรติ
อันหลิงหยุนไปรอกงชิงวี่ที่กลับจากการประชุมอยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องเสียน
กงชิงวี่กลับมาพร้อมกับราชครูจุน อันหลิงหยุนเดินเข้าไปคารวะ แล้วพากงชิงวี่ไป พ่อบ้านพาราชครูจุนไปยังลานจุนจื่อ และยังเอ่ยถึงเรื่องที่บ้านมีแขกมาเยือน ราชครูจุนไม่ถาม และไม่คิดอยากจะรู้
แต่ไหนแต่ไรจวนอ๋องเสียนก็ไม่ใช่ที่ที่จะรักษาจิตใจให้สงบได้ ต้องไตร่ถามทุกสิ่งทุกอย่าง ก็คงถามไม่ไหว
อันหลิงหยุนรู้สึกว่าในจวนไม่ใช่ที่ที่ควรพูดคุย พากงชิงวี่ขึ้นรถม้าอ้อมเมืองหลวงอยู่รอบหนึ่ง พูดเรื่องของเฟิงอู๋ฉิงให้กงชิงวี่ได้ฟังรอบหนึ่ง
กงชิงวี่พิงอยู่ที่รถม้ามองอันหลิงหยุน ยังคงหมุนแหวนนิ้วโป้งเล่นอย่างสบายใจ
“พูดเช่นนี้ แสดงว่าเฟิงอู๋ฉิงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเป็นอาจารย์ของพวกเจ้าห้าหรือ ”คำพูดของกงชิงวี่เหมือนจะไม่ชอบใจอยู่เล็กน้อย อันหลิงหยุนฟังออก
อันหลิงหยุนหัวเราะ พูดว่า “ท่านอ๋องคิดว่า ท่านเองก็มีความสามารถ ไม่จำเป็นต้องให้คนนอกมาสอนวิทยายุทธพวกเจ้าห้ากระมัง”
อันหลิงหยุนไม่รู้สึกแปลกใจ คิดว่าคงมีเรื่องอะไรบางอย่างแน่
อันหลิงหยุนถาม “สุขภาพของท่านเจ้าสำนักดีขึ้นบ้างหรือไม่”
อู๋โก๋พูดว่า “ท่านหมอกุ่ยกำลังทำการรักษาท่านเจ้าสำนักอยู่ด้านใน ท่านเจ้าสำนักไม่สะดวกรับแขก ท่านกลับไปก่อนเถอะ”
“บังอาจ นี่เป็นพระชายานะ”อาหยู่พูดขึ้นอย่างโมโห อู๋โก๋เดิมก็เป็นหญิงสาวอารมณ์ร้อนอยู่แล้ว แม้จะมีท่าทีเชื่อฟังต่อหน้าเฟิงอู๋ฉิง แต่ต่อหน้าผู้อื่นแล้วไม่ใช่
มองไปทางอาหยู่ อู๋โก๋ก็พูดขึ้นอย่างโมโห “หูเจ้าถูกสุนัขกินแล้วใช่หรือไม่ ท่านเจ้าสำนักของข้าบอกแล้ว ได้รับอู๋ฮัวเป็นผู้พิทักษ์แล้ว ตอนนี้ข้ากับอู๋ฮัวก็มีตำแหน่งเท่าเทียมกัน ท่านเจ้าสำนักไม่ได้ให้นางไปรับใช้ใกล้ชิดก็ถือว่าได้ให้หน้าจวนอ๋องเสียนมากแล้ว เจ้าเป็นใคร ยังกล้าตะโกนอยู่ที่นี่ เบื่อจะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร”
อันหลิงหยุนประเมินอู๋โก๋อย่างละเอียด ช่างเป็นหญิงที่กล้าพูดเสียจริง
“อาหยู่ปีนี้ก็สิบแปดสิบเก้าแล้ว เขายังหาหญิงสาวดีๆไม่ได้ ยังคงหาผู้หญิงดีๆสักคนอยู่ ”อันหลิงหยุนจงใจล้อเล่น อู๋โก๋สีหน้าแดงก่ำ เดิมใบหน้าของนางก็สวยมากอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่
อาหยู่สีหน้าแปลกประหลาด หน้าแดงอะไรกัน ที่พูดถึงเป็นเขาไม่ใช่นางสักหน่อย
อู๋โก๋พึมพำ “จริงหรือ”
ในใจอู๋โก๋ตื่นเต้น ดูไม่ออกเลยว่ายังมีเรื่องดีๆอยู่
นางก็เป็นสาวแล้ว หากเป็นคนอื่นคงแต่งงานไปนานแล้ว แต่ก็จนใจไม่กี่ปีนี้มีคนไม่น้อยที่รังเกียจว่านางงดงามเกินไป นิสัยก็ร้อนแรงไปบ้าง คิดว่าถ้าแต่งเข้าไปบ้านคงเลี้ยงไว้ไม่อยู่ อาจจะถูกตีจนแขนขาหักก็เป็นได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องหาบ้านสามีไม่ได้ง่ายๆ
เดิมที่อู๋โก๋คิดเสมอว่าจะหาชายหนุ่มที่หล่อเหลามีความสามารถสักคน แต่ต่อมาก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย จึงลดมาตรฐานลง ขอเพียงแค่เป็นคนที่ยังไม่มีภรรยา ก็สามารถลองคิดดูก่อนได้ หากอายุมาก สักสามสิบก็ยังได้
หมอกุ่ยอายุยี่สิบเก้าแล้ว ยังไม่แต่งภรรยา ก่อนหน้านี้อู๋โก๋เคยถามหมอกุ่ย หมอกุ่ยบอกว่าเขามีโรคที่บอกคนอื่นไม่ได้ ยังรักษาไม่หาย ไม่อยากให้อู๋โก๋ต้องเสียเวลา
ทำเอาอู๋โก๋ยิ่งรู้สึกผิดหวังคนไม่อยากคิดเรื่องนี้แล้ว
การแต่งงานกลายเป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งในใจของอู๋โก๋ไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...