บทที่ 663 ฮั่วฉิงบุกจวน
ฮั่วฉิงออกจากวังแล้วตรงไปจวนอ๋องเสียนทันที กระทั่งเสื้อผ้านางก็ยังไม่ได้เปลี่ยนด้วยซ้ำ นางให้เหตุผลว่า จะขอไปน้อมทักทายฮั่วไท่เฟยก่อน
แม่ทัพฮั่วถือเอาโอกาสนี้ ไปเยี่ยมเยือนฮั่วไท่เฟยด้วยเสียเลย
เกี่ยวกับเรื่องของฮั่วฉิงนั้น ฮั่วไท่เฟยไม่ได้อธิบายอะไร อีกทั้งนางก็ไม่ต้องการถามไถ่ให้มากความ
แม่ทัพฮั่วก็อดไม่ได้ อยากจะบ่นระบายสักยกอยู่เหมือนกัน
ฮั่วไท่เฟยตรัสขึ้นว่า“ เรื่องนี้ถ้าตามหาจนพบได้ ก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้าหาไม่พบ ก็อย่าได้ชักช้าอีกเลย การแต่งงานของฮั่วฉิงนับเป็นเรื่องสำคัญ พี่ใหญ่ก็อย่าได้ดื้อแพ่งจนเกินไปนัก
"แต่……"
"พี่ใหญ่จะสับสนเลอะเลือนไม่ได้ เป็นถึงลูกหลานตระกูลแม่ทัพ มีเหตุผลอะไรที่จะยอมให้คนนอกเข้ามาร่วมวงศาง่ายๆอย่างนั้น?"
เมื่อฮั่วไท่เฟยยกประเด็นนี้ขึ้นมา แม่ทัพฮั่วก็ถึงกับเหงื่อกาฬรินไหลท่วมกายเลยทีเดียว
“ความหมายของน้องสาวคือ?”
“พี่ใหญ่ น้องสาวไม่ได้หมายความถึงอะไรทั้งสิ้น ฉิงเอ๋อโตแล้ว ได้ครอบครัวสามีดีๆนับเป็นเรื่องดี เพียงแต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตาฟ้าลิขิต ในตอนนั้นข้าเองก็เช่นกันไม่ใช่หรือ?”
แม่ทัพฮั่วส่ายหน้า: "พี่ใหญ่เองก็จำไม่ได้แล้ว"
“น้องยังจำได้ว่า พี่ใหญ่นั้นอย่างไรก็ไม่ยอม ที่จริงแล้ว ... มันเป็นเรื่องแน่นอนที่ในวังแห่งนี้จะผูกมัด พันธนาการคนที่เข้ามา แต่หากได้พบคนรู้ใจสักคนในชีวิต นั่นก็นับว่าเป็นพรอันประเสริฐสุดแล้ว
การแต่งงานครั้งนี้ ไม่ควรเป็นอะไรที่ต้องบังคับเรียกร้อง ขอเพียงพี่ใหญ่มองขาดเรื่องนี้ได้ก็พอ"
เป็นธรรมดาที่แม่ทัพฮั่วย่อมมีความไม่ยินยอมพร้อมใจอยู่ เขามีลูกสาวที่เป็นแบบนี้อยู่เพียงคนเดียว ถ้าเขาไม่หาคนที่เหมาะสม ทั้งยังเป็นที่พออกพอใจให้นางได้แต่งด้วย ต่อให้ตายไปแล้ว ก็คงจะนอนตายตาไม่หลับเป็นแน่
อันหลิงหยุนไม่คาดคิดมาก่อนว่า ฮั่วฉิงพูดว่าจะมา นางก็มาจริงๆ เมื่อเห็นท่าทีเหมือนว่าฮั่วฉิงมีเรื่องสำคัญบางอย่าง อันหลิงหยุนเองก็เริ่มรู้สึกกดดันไม่น้อย
"แม่ทัพน้อย" อันหลิงหยุนเอ่ยทักทายที่หน้าประตู
แม่ทัพอันกับกงชิงวี่ก็อยู่ด้วย ฮั่วฉิงได้เห็นอันหลิงหยุนก็เพียงมองพินิจรอบหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกแปลกประหลาดใจใดๆ
ยังมีความแตกต่างระหว่างหญิงสาวคนนั้น กับหญิงสาวตรงหน้าแต่ฮั่วฉิงใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารมาโดยตลอด นางจึงไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่างชาย หญิงในโลกภายนอกมากนัก
อันหลิงหยุนในเวลานี้ สวมชุดสีน้ำเงินกรมท่าแขนกว้าง เมื่อมองจากสายตาของฮั่วฉิงแล้ว นอกจากความงดงาม นางก็มองไม่เห็นอะไรอื่นอีก "
“พระชายาเสียน ไม่พบกันมานาน สบายดีอยู่หรือ? ”ฮั่วฉิงประสานมือกำเป็นหมัดแน่น นางสวมชุดเกราะแบบเดียวกับที่เคยสวมมาตลอด
อันหลิงหยุนค้อมกายลงคำนับ: "ไม่พบกันมานาน ยังสบายดีเจ้าค่ะ "
ฮั่วฉิงก็ไม่มัวมาเกรงใจแล้วเช่นกัน : "พระชายาเสียน ข้ามาหาเจ้าก็เพราะมีเรื่องบางอย่าง ไม่ทราบว่าพอจะหาที่สงบ ๆ พูดคุยกันหน่อยได้หรือไม่ "
"ท่านแม่ทัพเชิญทางนี้" อันหลิงหยุนเอียงกาย ผายมือเชื้อเชิญให้ฮั่วฉิงเข้าไปด้านใน
ฮั่วฉิงสืบเท้าก้าวเข้าจวนอ๋องเสียนไป ผลคือทันทีที่เดินเข้าประตูได้ สายตาหลายต่อหลายคู่ต่างพากันจ้องมองมา เสียงซุบซิบตามหลังมาจนอื้ออึงว่า แม่ทัพน้อยฮั่วช่างงามสง่าจริงๆ
อันหลิงหยุนเชิญฮั่วฉิงเข้าไปนั่งที่ห้องโถงด้านหน้า ตอนที่หงเถายกชามา ก็เอาแต่จ้องมองตาค้างด้วยอาการโง่งมเซ่อซ่าไปหมด แอบคิดว่าถ้าเป็นผู้ชายจะดีขนาดไหนกันหนอ
ฮั่วฉิงมองหงเถาด้วยท่าทีเฉยเมย เดิมทีนางก็ไม่มีความตั้งใจที่จะมองดูใครคนอื่นอยู่แล้ว
"พระชายาเสียน โปรดให้คนอื่นถอยออกไปก่อนเถอะ"
อันหลิงหยุนโบกมือ บอกให้ทุกคนถอยออกไปก่อน เมื่อฮั่วฉิงเห็นว่าประตูปิดลงแล้ว จึงค่อยหันมองอันหลิงหยุน จากนั้นก็พูดว่า: "พระชายาเสียน ก่อนหน้านี้ที่ข้าดื้อดึง ต้องการจะแต่งงานกับอ๋องเสียนนั้น นับว่าล่วงเกินต่อพระชายาเสียนยิ่งนัก ขอพระชายาโปรดอภัยให้กับความบุ่มบ่ามมุทะลุนี้ของข้าด้วย "
ฮั่วฉิงลุกขึ้นแสดงความเคารพ ใช้แผนการที่เริ่มด้วยการเจรจาพาทีตามมารยาทก่อน แล้วจึงค่อยใช้กำลังตามมาภายหลัง
อันหลิงหยุนรีบลุกขึ้นรับการคำนับจากฮั่วฉิงเป็นพัลวัน : "แม่ทัพน้อยโปรดลุกขึ้นเถอะ"
ฮั่วฉิงลุกขึ้นยืน: "เรื่องที่ผ่านมาในอดีต ขอพระชายาเสียนโปรดอย่าได้เก็บมาใส่ใจ"
"แม่ทัพน้อย เรื่องอะไรที่ผ่านไปแล้ว ข้าไม่เคยเก็บมาคิดใส่ใจอะไรอีก เจ้าไม่จำเป็นต้องทำอย่างนี้ เรื่องของอันเสี่ยวฮวนนั้น ท่านราชครูก็ได้บอกกับข้าทั้งหมดแล้ว แต่ข้าไม่รู้จักคนผู้นี้จริงๆ"
ฮั่วฉิงมีท่าทีลังเล: “ พระชายาเสียน ต่อให้ไม่รู้จัก แต่ก็ไม่น่าจะไม่หลงเหลือผลกระทบใด ๆ เลยแม้แต่น้อยนี่นา จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าแค่จำไม่ได้ ว่าเคยรู้จักชิดใกล้กันตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
ฮั่วฉิงยังไม่ยอมตายใจ จึงนั่งลงและถามอันหลิงหยุนอีกครั้ง
ในทางกลับกัน เมื่อมองไปที่ยัยผู้หญิงอัปลักษณ์ที่อยู่ตรงกันข้ามนั่น พลันบังเกิดความรู้สึกหงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมาหลายส่วน
เจ้าโง่กงชิงวี่คนนั้น ยังไม่รู้ตัวอีกหรืออย่างไรว่าถูกเมียสวมเขาเข้าให้แล้ว ทำไมถึงยังไม่หย่าเมียอีกล่ะ?
ดูเหมือนว่าคงต้องหาวิธีไหนสักวิธี ทำให้กงชิงวี่ได้รู้เสียหน่อยแล้ว
ฮั่วฉิงตรวจค้นจนแน่ใจได้ว่าไม่มีคนจริงๆ จึงหมุนตัวเตรียมจากไป
ในเวลานี้เอง อันหลิงหยุนก็หันไปยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนให้เฟิงอู๋ฉิง : "เจ้าสำนักเฟิง ข้าต้องขอตัวก่อนล่ะนะ"
เฟิงอู๋ฉิงกวาดตามองทุกอย่างในห้องตัวเอง แล้วหันไปมองที่ประตู ปรากฏว่าอันหลิงหยุนนั้นวิ่งเร็วเสียยิ่งกว่ากระต่าย หายตัวไปไม่เห็นแม้แต่เงาเรียบร้อยแล้ว
หลังจากที่ฮั่วฉิงตรวจค้นเสร็จ ยืนยันได้แน่ชัดแล้วว่าไม่พบตัวอันเสี่ยวฮวน จึงหันไปพูดว่า "ขอเชิญพระชายาเสียนตามข้าไปจวนแม่ทัพสักครั้งด้วยเถิด"
"แม่ทัพน้อยเชิญ"
อันหลิงหยุนตามฮั่วฉิงออกไป จวนอ๋องเสียน ถูกล้อมรอบโดยกองทัพตระกูลฮั่วอย่างแน่นหนา ชนิดที่ว่าแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ผ่านเข้าไปไม่ได้
อันหลิงหยุนเข้าไปในรถม้า หันมองออกไปข้างนอก ถ้าใครไม่รู้คงจะคิดว่าจวนอ๋องเสียนก่อกบฏแล้ว จึงมีคำสั่งให้กองทัพตระกูลฮั่วเข้ามาปราบปรามล้มล้างก็เป็นไปได้
เมื่อมาถึงจวนแม่ทัพ อันหลิงหยุนก็อยู่กับฮั่วฉิงในการเข้าตรวจค้นเช่นเดิม แทบจะพลิกจวนค้นอยู่แล้วก็ไม่พบคนผู้นี้ ฮั่วฉิงถึงกับจับคนมาหลายคน เอามาสอบปากคำตามลำพังอีกด้วย แต่ก็ไม่มีใครเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องลูกชายบุญธรรมของแม่ทัพอัน
เมื่อหาคนไม่พบ เป็นธรรมดาที่ในใจฮั่วฉิงย่อมเกิดความรู้สึกไม่ยินยอม ตอนที่ออกจากจวนแม่ทัพมาก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว อันหลิงหยุนแอบรู้สึกผิดอยู่เล็กน้อย นางคิดไม่ถึงจริงๆว่า แค่อันเสี่ยวฮวนเพียงคนเดียว จะทำให้ฮั่วฉิงต้องทุรนทุรายไม่เป็นสุขได้ถึงเพียงนี้ หากรู้แต่แรก นางคง…..
อันหลิงหยุนคิดย้อนไปถึงตอนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่นางกลับไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ทำอย่างนั้น
หาคนไม่เจอยังจะดีเสียกว่าให้อ๋องเสียนแต่งฮั่วฉิงมาเป็นภรรยา ฮั่วฉิงเป็นคนที่ดื้อรั้นขนาดนี้ หากไม่มีอันเสี่ยวฮวนคนนี้จริงๆ ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ก็ยังไม่อาจจินตนาการได้
"แม่ทัพน้อย เวลานี้มันก็ดึกมากแล้ว ไม่สู้พรุ่งนี้ค่อยค้นหากันใหม่ดีหรือไม่ วันนี้ก็พักผ่อนก่อนเถอะนะ?” อันหลิงหยุนเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน
ฮั่วฉิงพยักหน้า: "เมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะกลับไปที่จวนอ๋องเสียนกับเจ้าก่อน วันพรุ่งนี้ค่อยเข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน"
"..... " อันหลิงหยุนยิ้มแหยๆ สีหน้ากระอักกระอ่วน: "ได้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...