บทที่ 686 ท่านอ๋องจอมถือหาง
สีหน้าแปลกใจเกลื่อนเต็มใบหน้าเวยฉือ : "พระชายาเสียนจะไปจับคนที่จวนของเหล่าซ่างซู(เสนาบดีสำนักตรวจสอบราชการ) ข้าเกรงว่าคงไม่เหมาะกระมัง เหล่าซ่างซูอายุอานามก็ล่วงเข้าวัยอาวุโสมากแล้ว ทั้งยังเป็นที่เคารพนับถือ ไม่ต้องพูดถึงอายุของเขา แม้กระทั่งไทเฮาก็ยังต้องทรงไว้หน้าให้ ครั้นเมื่อฮ่องเต้องค์ก่อนยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ พระองค์ยังทรงชื่นชมในความสามารถของเขาไม่น้อย ทั้งยังทรงพระราชทานบำเหน็จรางวัลให้มากกว่าหนึ่งครั้งด้วย"
เวยฉือรู้สึกลำบากใจขึ้นมาแล้ว หากไปจับคนทั้งอย่างนี้ ตัวเขาคงไม่อาจรับผลที่ตามมาได้ไหวแน่ แค่ตำแหน่งอย่างเขา ไปจับลูกชายของขุนนางซื่อหลังขั้นหนึ่ง จะอย่างไรก็ไม่เหมาะสมจริงๆนั่นล่ะ
ที่สำคัญคือไม่มีโทษฐานความผิดรับฟ้อง จู่ๆก็ไปจับแบบนี้ยิ่งไม่เหมาะเข้าไปใหญ่
อันหลิงหยุน นั่งอยู่ในส่วนต้อนรับแขกสำคัญภายในคุกหลวงของหยาเหมิน ( ศาลาว่าการ) ไม่ยอมออกไป ฮั่วฉิงนั่งอยู่อีกด้าน เวยฉือไม่อาจทำให้พวกนางขุ่นเคืองได้ จึงทำได้เพียงแค่ก้มหน้าอธิบายด้วยเหตุด้วยผลกับพวกนาง
อันหลิงหยุนเอ่ยขึ้นว่า "เรื่องนี้ง่ายมาก เจ้าหาคนไปล่อโจวไท่ออกมา พอเขาออกมาแล้ว เจ้าก็เรียกชื่อใครออกไปส่งๆสักชื่อหนึ่ง ขอแค่ไม่ใช่โจวไท่เป็นพอ ให้จับมาทำเหมือนว่าเป็นคนอื่นข้าเตรียมการไว้พร้อมแล้ว เจ้าก็แค่ควบคุมตัวเขาไว้ หากมีคนมาขอพบ ก็ให้พวกเขาพิสูจน์ตัวตนของโจวไท่มาให้ได้ หากพิสูจน์ตัวตนออกมาได้ถึงจะปล่อยคน หากพิสูจน์ไม่ได้ก็แล้วไป แค่ควบคุมตัวไว้ก็พอ”
เวยฉือเหงื่อกาฬแตกพลั่ก ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อ เงยหน้าขึ้นถามอันหลิงหยุน: "ขอบังอาจถามพระชายาเสียน แท้ที่จริงแล้วโจวไท่คนนี้ ไปล่วงเกินทำความขุ่นเคืองอันใดให้แก่พระชายาเสียนหรือ? ท่านถึงได้ทำเช่นนี้กับเขา?
เท่าที่ข้ารู้มา แม้ว่าโจวไท่จะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ก็ไม่ใช่คนชั่วร้ายอำมหิตผิดมนุษย์ เคยได้ยินก็แต่เขาชอบรังแกคน เป็นพวกชอบสร้างเรื่องน่าเวียนหัว แต่ผู้ดูแลในตระกูลก็ถือว่าเข้มงวดอยู่ ดังนั้นจึงไม่เคยมีเรื่องใหญ่โตอะไรเกิดขึ้น "
“ เขาเคยทำอะไรไว้ เจ้าเมืองเวยไม่จำเป็นต้องรู้หรอก กลัวแต่ว่าถ้าข้าพูดออกไป เจ้าเมืองเวยได้ยินแล้ว จะนึกเสียใจภายหลังเสียมากกว่า เจ้าเมืองเวยไปทำให้สุดความสามารถก็พอ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเอง”
"นี่มันก็ .... " เวยฉือสีหน้าตื่นตระหนกหวาดหวั่น เงยหน้าขึ้นมองอาหยู่ ซึ่งยืนอยู่หน้าประตูศาลาว่าการ
เกรงว่าเรื่องนี้ คงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด หากเป็นเรื่องง่ายๆ เรื่องที่ชอบด้วยเหตุผลจริง เพราะอะไรจวนอ๋องเสียนถึงไม่ไปจับกุมเอง แต่เป็นเขาที่ต้องไปจับคน?
แต่ถ้าไม่ไปจับ ก็ไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวอย่างไรได้
"เอาเถอะ ข้าจะไปจับคนเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ" เวยฉือหมุนกายออกไปจับคน แต่ก่อนจะไปเขายังหลงเหลือความหวาดระแวงอยู่ไม่หาย
ชื่อเสียงของพระชายาเสียนในเมืองหลวงนั้น เป็นที่โจษจันเลื่องลือไปในแง่ลบ ไม่แน่ว่าอาการผีเข้าผีออกของนางคงกำเริบแล้วก็เป็นได้
มาที่เรื่องไปจวนเหล่าซ่างซู เวยฉือแวะไปที่จวนอ๋องเสียนก่อน เรื่องจับคนเขาไม่รีบร้อนนัก จึงตัดสินใจไปแจ้งข่าวให้อ๋องเสียนรู้ไว้ก่อนเป็นดี
เมื่อกงชิงวี่กลับมาถึง เงยหน้าขึ้นไปเห็นเวยฉือยืนรออยู่หน้าประตูจวน มีพ่อบ้านยืนอยู่ข้างเขา
กงชิงวี่จึงหยุด เอ่ยถามออกไปว่า: "มีอะไรอย่างนั้นหรือ?"
“ คารวะท่านอ๋องเสียน” เวยฉือประสานมือกำเป็นหมัดแสดงความเคารพ
กงชิงวี่ยืนสองมือไพล่หลัง จ้องมองด้วยแววตาเฉยชา: "มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ข้ายังมีเรื่องจะไปหาพระชายาอยู่"
"เอ่อ ... คือ ท่านอ๋อง พระชายาเสียนอยู่ที่ศาลาว่าการนะพ่ะย่ะค่ะ" เวยฉือคิดว่าไม่รู้ก็นับเป็นเรื่องดีแล้ว
แววตาของกงชิงวี่มืดทะมึนจมดิ่ง น้ำเสียงเย็นชาลงทันที: "เวยฉือ เจ้าช่างโอหังบังอาจนัก กล้าจับพระชายาของข้าเชียวหรือ นี่เจ้ากินดีหมีหัวใจเสือเข้าไปจนขวัญกล้าแล้วสินะ เจ้าได้ถามข้าแล้วหรือไม่?"
เวยฉือตกใจจนแทบจะคุกเข่าลงไปอยู่แล้ว รีบละล่ำละลักพูดว่า: "ท่านอ๋อง ข้าน้อยมิบังอาจ ข้าน้อยได้รับคำสั่งจากพระชายาเสียนให้ไปจับคน จึงได้มาแจ้งแก่ท่านอ๋องโดยเฉพาะพ่ะย่ะค่ะ"
"โอ้!" ทันทีที่รู้ว่าไม่ใช่ถูกจับไป กงชิงวี่ก็ส่งเสียงตอบรับแผ่วเบาผ่อนคลาย ออกมาเสียงหนึ่ง
เวยฉือเหงื่อแตกไปทั่วสรรพางค์ร่างกาย นี่เป็นเจตนารมณ์ของท่านอ๋องหรอกหรือ?
แต่ดูแล้วก็ไม่เหมือนนะ!
เวยฉือฝืนกัดฟันทำขวัญกล้า พูดออกไปว่า: " ท่านอ๋อง พระชายาต้องการให้ข้าน้อยไปยังบ้านของตระกูลเหล่าซ่างซู ไปจับกุมโจวไท่ หลานชายจวนท่านโจวยี่เหรินพ่ะย่ะค่ะ”
กงชิงวี่ทำท่าครุ่นคิด: "ถ้าอย่างนั้น เป็นเจ้ามีกำลังคนในมือไม่เพียงพอ หรือหาบ้านของตระกูลโจวยี่เหรินไม่พบกันล่ะ?"
เวยฉือตะลึงตกใจ ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองกงชิงวี่: "ท่านอ๋อง เหล่าซ่างซูเป็นผู้มีอาวุโส เป็นที่เคารพนับถือ หากว่าไปทำให้เขาตื่นตระหนก ไม่สบายใจขึ้นมา มันจะไม่เหมาะนะพ่ะย่ะค่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าลูกชายของเขา โจวกวางเหิน เป็นขุนนางขั้นหนึ่งยศปินปู้ซื่อหลัง หรือไม่เรื่องนี้เป็นท่านอ๋องสั่งการด้วยตัวเองจะดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
"ความหมายของเจ้าเมืองเวยคือ คนที่ข้าเลื่อนตำแหน่งให้ สามารถรังแกพระชายาของข้าได้อย่างนั้นหรือ?" กงชิงวี่ไม่พอใจกับตรรกะความคิดของเวยฉือ
อันหลิงหยุนส่ายหน้า กลับกันนางรู้สึกแปลกใจมากกว่า : "ท่านอ๋องมาได้อย่างไรกันเพคะ หรืออาหยู่แจ้งให้ท่านอ๋องทราบ?
อาหยู่มีวิธีการบางอย่างที่คนอื่นไม่รู้ ในการแจ้งข่าวให้กับกงชิงวี่ นั่นคือเรื่องที่อันหลิงหยุนรู้มา
กงชิงวี่จึงบอกเล่าถึงเรื่องที่เวยฉือมาหาเขา
อันหลิงหยุนนึกขัน: "เวยฉือคนนี้นี่นะ ข้าไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรเสียหน่อย กลับทำให้เขาแตกตื่นตกใจกลัวขนาดนั้น ข้าว่าตำแหน่งเจ้าเมืองของเขานี่ก็...... "
เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก อันหลิงหยุนก็รู้สึกว่าไม่เหมาะไม่ควร จึงรีบกลืนมันกลับลงไปทันที นางเป็นผู้หญิง ทั้งไม่ใช่ผู้บัญชาการทหาร ไม่ได้เป็นขุนน้ำขุนนางอะไร แต่ไหนแต่ไรมา ประเทศต้าเหลียงมีคำกล่าวไว้ ผู้หญิงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง นางจึงไม่ควรพูดอะไรอีก
กงชิงวี่กุมมืออันหลิงหยุนแนบแน่น: "เรื่องอื่นอย่าเพิ่งไปสนใจ ดูแลตัวเองก่อนสำคัญที่สุด" กงชิงวี่รู้สึกว่ามือของอันหลิงหยุนเย็นลงไปทุกทีๆ อีกทั้งสีหน้าก็ไม่ดีเอาเสียเลย เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนาง และเพราะไม่รู้นี่ล่ะ ที่ทำให้เขากังวลเหลือเกิน
อันหลิงหยุนพยักหน้า เอนกายพิงเก้าอี้จนชิด กงชิงวี่ยืนอยู่ข้าง ๆ คอยจับมืออันหลิงหยุนไว้แน่น รอให้เจ้าสารเลวน่าตายโจวไท่นั่นมาถึง
หากว่ามาเร็วหน่อย ก็อาจจะได้กลับจวนเร็วขึ้นอีกนิด แต่หากเสียเวลาชักช้าไม่ยอมมาดีๆล่ะก็ รอไว้มาถึงเมื่อไหร่ เขาจะสับเจ้านั่นออกเป็นแปดท่อนเลยคอยดู
อันหลิงหยุนหลับตาลง คลื่นความทรงจำที่พัดถาโถมอยู่สมอง ล้วนเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ อันหลิงหยุนไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม จะมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ มาตอนนี้เรื่องราวทั้งหมด ต่างประเดประดังถาโถมเข้ามาพร้อมกันในทีเดียว ทำให้นางรู้สึกเกินจะรับได้ไหว สาเหตุที่ใบหน้าของนางซีดเซียว ก็เป็นเพราะว่าสมองเกิดการทำงานหนักจนเกินไปนั่นเอง
มือเท้าเย็นเฉียบ แต่เพราะถูกความโกรธเข้าโจมตี
พ่อของเจ้าของร่างเดิม ออกไปทำศึกสงครามเพื่อประชาชน แต่นางทั้งโดนคนดูถูก ทั้งโดนคนรังแกตั้งแต่ยังเด็ก ทำไมจะไม่รู้สึกโกรธแค้นล่ะ?
กงชิงวี่คอยจับตาอันหลิงหยุนไว้ เขารู้ว่านางมีร่างกายที่พิเศษไม่เหมือนใคร แต่เรื่องแบบวันนี้ดูแล้วแปลกไปจากทุกที หัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำอยู่แล้ว จึงยิ่งกังวลขึ้นทุกทีๆ
มีเสียงคนเอะอะโวยวายดังมาจากหน้าประตู อันหลิงหยุนลืมตาขึ้นมองออกไป ก็เห็นชายอายุ ราวสิบเจ็ด สิบแปดปีคนหนึ่ง ถูกคนจับกุมควบคุมตัวเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...