บทที่ 728 จัดการคดีนอกเมือง
“ดูไม่ออกเลย เพลงกระบี่เจ้าไม่เลว” ไม่ง่ายที่เฟิงอู๋ฉิงจะจริงจัง อันหลิงหยุนรู้สึกอึดอัด
“พอใช้ได้น่ะ ตอนที่คนเราตกอยู่ในอันตราย มันง่ายที่จะนึกถึงการป้องกันตัว” อันหลิงหยุนจะสามารถพูดอะไรได้ เพลงกระบี่ไร้ใจเป็นสิ่งที่ท่านแม่ทิ้งเอาไว้ให้ แต่ท่านแม่นางเป็นแค่ผู้หญิงที่อ่อนแอ ไม่น่าจะเป็นเพลงกระบี่ไร้ใจนี่นา!
สีหน้าของเฟิงอู๋ฉิงเคร่งขรึมเย็นชา เอื้อมมือไปจับมืออันหลิงหยุน อันหลิงหยุนหลบออกไปตามสัญชาตญาณ แต่เมื่อสบตากับสายตาเย็นยะเยือกคู่นั้นของเฟิงอู๋ฉิง รู้ว่ามีเหตุผล นางก็ยื่นมาไปให้เฟิงอู๋ฉิงอีกครั้ง
เฟิงอู๋ฉิงกุมมืออันหลิงหยุนเอาไว้: “เจ้าไม่มีกำลังภายในเลยสักนิด สามารถฝึกเพลงกระบี่ไร้ใจได้ขนาดนี้ ข้าประหลาดใจมาก”
“เพลงกระบี่ไร้ใจ?” อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจ เฟิงอู๋ฉิงรู้จักเพลงกระบี่ไร้ใจได้อย่างไร?
“เพลงกระบี่ไร้ใจนั้นเป็นศาสตร์เฉพาะของฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่ง ไม่สืบทอดภายนอก”
“อ๋า?” อันหลิงหยุนอ้าปาก: “ท่านพูดอะไร?”
“ที่ข้าพูดเจ้าก็ได้ยินแล้วไม่ใช่หรือ?”
เฟิงอู๋ฉิงกุมมือของอันหลิงหยุนเอาไว้มองไปทางอู๋ซาน สีหน้าจริงจังหนักแน่น: “แจ้งข่าวลงไป ผู้ดูแลทั้งแปดร้อยคนสำนักทิงเฟิง ให้รีบมาให้ถึงอาณาเขตประเทศต้าเหลียงภายในครึ่งเดือน ถ้ามีมาช้า ขับออกจากสำนักทิงเฟิง”
“ขอรับ”
อู๋ซานเป่าปากของเขา บริเวณโดยรอบดูเหมือนจะมีเสียงตอบรับ อันหลิงหยุนอยู่ด้านข้างมองไป คนทั้งคนก็ตกตะลึงไป ผู้ดูแลทั้งแปดร้อยคน?
นั่นต้องมีคนไม่น้อย บวกกับพวกลูกสมุนอีก เปิดโรงแรมได้เลยนะนั่น!
อันหลิงหยุนถูกความคิดของตัวเองโค่นล้มไปอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้นางใช้เงินมากไป คิดเรื่องเงินจนบ้าไปแล้ว
“เจ้าสำนักเฟิงดึงข้าไว้หมายความว่าอะไร?”
“ไม่มีความหมายอะไร”
ปากเฟินอู๋ฉิงบอกว่าไม่มีความหมายอะไร แต่สีหน้าเขากลับไม่ดีอย่างมาก อู๋ซานแจ้งข่าวต่อคนของสำนักทิงเฟิงที่อยู่รอบๆแล้ว เวลานี้อู๋ซานเดินมาดูเฟิงอู๋ฉิง: “เจ้าสำนัก หรือว่านางคือ......”
“หุบปาก!”
ทันทีที่เฟิงอู๋ฉิงเอ่ยปาก อู๋ซานก็หุบปากลงทันทีไม่กล้าพูดอะไรมากอีก
เวลานี้อันหลิงหยุนก็รู้สึกมึนงงเล็กน้อยแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“เจ้าจะไปไหน?” เฟิงอู๋ฉิงมองไปทางอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนเลยต้องบอกว่าจะไปดูกงชิงวี่
“ไปเถอะ ข้าไปกับเจ้า”
อันหลิงหยุนยังไม่ได้รับปาก ก็ถูกเฟิงอู๋ฉิงดึงตัวไปแล้ว อันหลิงหยุนรีบร้อนจะดึงมือกลับมา แต่มือของเฟิงอู๋ฉิงเป็นเหมือนกับคีม จับมือนางเอาไว้แน่น
นางดิ้นรนไม่หลุด เลยได้แต่บอกกับเฟิงอู๋ฉิงว่า: “เจ้าสำนักเฟิง ประเพณีของประเทศต้าเหลียงเรียบง่าย ท่านดึงข้าเอาไว้แบบนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ดูไม่ดี หากว่าถูกท่านอ๋องเห็นเข้า จะทำลายมิตรภาพเอาได้”
“คนของสำนักทิงเฟิงข้ามีอยู่ทั่วทุกที่ของแผ่นดินใหญ่ซื่อฟาง ข้าเฟิงอู๋ฉิงก็ไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว ถึงแม้กงชิงวี่จะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถต่อกรกับสำนักทิงเฟิงข้าได้ ถ้าหากข้าต้องการแย่งชิงเจ้ามา กลัวว่าเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
อันหลิงหยุนอึดอัด: “ท่านพูดเช่นนี้ก็ดูฝืนใจคนมากเกินไปหน่อย ยิ่งไปกว่านั้นหลายวันมานี้เราก็เข้ากันได้ดีไม่ใช่หรือ ทำไมวันนี้เจ้าสำนักเฟิงถึงได้พูดแบบนี้ออกมา หรือว่าเราผัวเมียไปล่วงเกินอะไรเจ้าสำนักเฟิงเข้า?”
“ไม่ถึงกับล่วงเกินหรอก แต่สิ่งที่เจ้าประสบพบเจอในอดีตข้าก็เคยได้ยินมาบ้าง กงชิงวี่เป็นคนผิดต่อเจ้า เขาไม่คู่ควรให้เจ้าอยู่ต่อ ข้าว่าเจ้าไปกับข้าเถอะ”
สีหน้าเฟิงอู๋ฉิงแสดงความสงสารเล็กน้อย ดูราวกับว่าเจ็บปวดใจเหลือเกิน อันหลิงหยุนไม่ค่อยเข้าใจ: “เจ้าสำนัก......นี่ท่าน?”
“เจ้าหุบปากไปเลย ข้านึกขึ้นมาได้แล้ว เจ้าเป็นคนหัวอ่อน เขาพูดอะไรเจ้าก็ฟังอย่างนั้น เดิมทีข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจ ระหว่างเจ้ากับเขามันเป็นอย่างไรกันแน่ ตอนนี้นึกขึ้นมาได้ก็เข้าใจแล้ว ระหว่างเจ้ากับเขาก็คือเขาหลอกเจ้า เจ้าวางใจได้เลย มีข้าอยู่ ไม่ปล่อยให้เขาทำตามใจแน่!”
อันหลิงหยุนรู้สึกจนปัญญา ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ถูกต้อง เขาดูเหมือนจะถูกกระตุ้น ราวกับว่าใส่ใจข้าอย่างมาก สายตาเขาดูเหมือนจะเคยประสบพบเจอกับความเจ็บปวดที่ใหญ่หลวงมาก ยังมีอีกเขารู้จักเพลงกระบี่ไร้ใจ ท่านพ่อข้าบอกกับข้าว่าเพลงกระบี่ไร้ใจเป็นสิ่งที่ท่านแม่ข้าทิ้งเอาไว้ให้ แต่ท่านพ่อข้าไม่ได้บอกว่าเพราะอะไรถึงถ่ายทอดเอาไว้ให้
ยังมีจุดหนึ่งที่น่าแปลกมาก เขาบอกกับข้า......เพลงกระบี่ไร้ใจเป็นศาสตร์เฉพาะของฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่ง ไม่สืบทอดภายนอก”
มือของกงชิงวี่จมลง: “ฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่ง? สมัยนั้นแม่ทัพอันพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับมา ตั้งท้องขึ้นมาระหว่างทาง กลับมาก็ให้กำเนิดเจ้า ไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็จากไป เรื่องต่อจากนั้น......ก่อนหน้านั้นไม่นานแม่ทัพอันเพิ่งจะยอมรับว่าผู้หญิงคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือว่าจะเป็นฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่ง?”
“แต่ว่าฮ่องเต้หญิงแห่งประเทศเฟิ่งไม่เคยออกจากประเทศเฟิ่งถึงจะถูก และสมัยนั้นตอนที่แม่ทัพอันพาเจ้ากลับมา ก็อยู่ที่หนานอี้นี่!”
กงชิงวี่สีหน้าเคร่งเครียด คลื่นลูกหนึ่งไม่ทันจะสงบคลื่นอีกลูกก็กำลังม้วนเข้ามาอีกระลอกจริงๆ
บนพื้นยังมีศพอีกหนึ่งศพ อันหลิงหยุนมองไป: “ท่านอ๋องสืบออกมาหรือยัง?”
“ยัง” กงชิงวี่จิตใจสับสนวุ่นวาย ไหนเลยจะมีอารมณ์สืบคดี
อันหลิงหยุนกลับนั่งยองๆลงไป เริ่มชันสูตรศพที่อยู่บนพื้น
“มีแค่คนเดียวหรือ?” อันหลิงหยุนถาม คนที่อยู่ด้านข้างรีบร้อนเดินมา ตอบกลับว่ามีแค่คนเดียว
อันหลิงหยุนมองอู่โจ้(เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ)คนนั้นครู่หนึ่ง ชันสูตรศพที่อยู่บนพื้นใหม่อีกครั้ง อันหลิงหยุนถาม: “เจ้าของร้านของที่นี่ล่ะ?”
“เรียกเจ้าของร้านมา” ตอนนี้กงชิงวี่หงุดหงิด ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เขากลับมองไปที่เฟิงอู๋ฉิงที่อยู่ตรงข้าม ในใจอึดอัดจนแทบคลั่ง
เจ้าของร้านเข้ามาอย่างรวดเร็ว มาถึงที่นี่เจ้าของร้านรีบร้อนคุกเข่าลงไป: “ข้าน้อยเป็นเจ้าของร้านของที่นี่ ท่านอ๋องเสียนโปรดพิจารณา ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้าน้อยจริงๆ”
อันหลิงหยุนไม่รอกงชิงวี่พูดอะไร มองไปทางเจ้าของร้าน: “เจ้าบอกกับข้า ข้าเป็นคนทำคดีนี้”
รู้ว่ากงชิงวี่ไม่มีอารมณ์ นางจึงรับเอาไว้โดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...