บทที่ 819 โรคของเจ้าห้า
อันหลิงหยุนให้อาหยู่กับเฟยยิงออกไป กงชิงวี่ก็นั่งลงไป ตอนนี้ทั้งคู่ต่างก็จ้องมองไปที่เจ้าห้า ไม่ช้าเจ้าห้าก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยสิ่งที่ดูเหมือนไหมขึ้นมา ดูเหมือนรังไหมขนาดใหญ่
อันหลิงหยุนสูดหายใจเข้าลึกๆ: “เจ้าห้ามีความพิเศษแตกต่างจากคนอื่น จะต้องไม่เป็นไรแน่ๆ”
“จะไม่อึดอัดตายใช่ไหม?” กงชิงวี่เป็นห่วง อยากจะอุ้มดักแด้ไหมออกไป พบว่ามันหนักมาก ก้มลงไปมองเห็นว่ามันห้อยอยู่ที่พื้นแล้ว
กงชิงวี่ปล่อยมือออก ไปนั่งอยู่ข้างกายของอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนกล่าวว่า: “ท่านอย่าพูดเหลวไหล ไม่มีอะไรหรอก ใหญ่ขนาดนี้ท่านอุ้มไหวหรือ ท่านกอดเอาไว้ไม่ดีกว่าหรือ”
อันหลิงหยุนฝืนยิ้ม เคยเห็นเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน ลูกชายกลายเป็นรังไหมไปแล้ว
หรือว่ายังจะแตกรังไหมกลายเป็นผีเสื้อ มีปีกออกมา?
อันหลิงหยุนประคองหยุนจิ่นไปนอน: “เจ้าพักผ่อนก่อน ในเมื่อเจ้าห้าไม่เป็นไรแล้ว เจ้าก็อย่าเป็นห่วงตามไปด้วยเลย คืนนี้ข้ากับท่านอ๋องจะนอนที่นี่”
“อืม”
หยุนจิ่นไปนอนอยู่ด้านหนึ่ง อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่เฝ้าเจ้าห้าเอาไว้
กลางดึกอันหลิงหยุนถึงนอนหลับไป ตื่นเช้ามาลืมตาขึ้นถึงกับตกใจ บนรังไหมทั้งอันมีเกล็ดน้ำแข็งเหมือนเกล็ดหิมะก่อตัวขึ้นชั้นหนึ่ง อันหลิงหยุนมองแล้วรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย: “ท่านอ๋อง”
กงชิงวี่กุมมืออันหลิงหยุนเอาไว้: “ข้ารู้”
อันหลิงหยุนมองกงชิงวี่ครู่หนึ่ง กลับดูสงบมาก: “ไม่เป็นไร”
อันหลิงหยุนไม่ได้พูดอะไร จะเป็นอะไรไหมต้องดูที่ผลลัพธ์
“ข้าจะนอนครู่หนึ่ง หยุนหยุนดูเอาไว้นะ” กงชิงวี่บอกว่านอนแล้ว แต่เขาเป็นห่วงลูกชาย ไม่ได้นอนทั้งคืน จ้องมองอยู่ตลอด
อันหลิงหยุนรีบไปจัดเตรียมให้เขา กงชิงวี่นอนลง เหยียดมือออกไปด้านข้าง เอามือวางอยู่บนรังไหม น้ำแข็งเกาะอยู่บนนิ้วมือของเขา เขาหลับตาลง อันหลิงหยุนลองจับดู น้ำแข็งมันเย็น เลยอยากจะเอามือของกงชิงวี่ออกไป
“ข้าไม่เอาออก” กงชิงวี่ไม่ได้ลืมตา บอกกับอันหลิงหยุน อันหลิงหยุนเลยได้แต่เอามือออกไป
กงชิงวี่นอนหลับไปแบบนี้ อันหลิงหยุนไปดูหยุนจิ่น หยุนจิ่นอาการหนักขึ้นไปอีก อันหลิงหยุนดูจนปัญญา ในวังยังมีอีกสองคนต้องดูแล ในบ้านก็ประสบกับเรื่องนี้อีก
“เจ้าห้า เสด็จย่าของเจ้าก็ไม่สบาย แม่ต้องเข้าวังไปดู แล้วจะรีบกลับมา ท่านพ่อของเจ้าจะอยู่กับเจ้า”
อันหลิงหยุนก็ไม่รู้ว่าลูกชายจะได้ยินหรือไม่ แต่นางบอกเอาไว้แล้ว
อันหลิงหยุนเก็บข้าวของครู่หนึ่ง ฉีดยาให้หยุนจิ่นหนึ่งเข็ม สั่งให้เฟยยิงเข้ามาดูแลหยุนจิ่น ดูหยุนจิ่นเอาไว้อย่าให้เป็นอะไร นางออกไปก็แค่สองชั่วยาม อาหยู่ตามนางออกไปด้วย
ครั้งนี้อาหยู่รู้สึกแปลกๆ กลับรู้สึกอยากอยู่ต่ออย่างมาก แต่เพราะอะไรพระชายาถึงพาเขาไป?
อันหลิงหยุนเข้าวังไปพบไทเฮากับไท่เฟย อธิบายชัดเจน ก็เรียกหมอหลวงฮู๋มาอีกครั้ง อธิบายซ้ำแล้วซ้ำอีก ถึงจะจากไป
อันหลิงหยุนไม่วางใจ ไปตำหนักกั๋วกงรอบหนึ่ง
“เจ้าห้าป่วยไม่ใช่เวลา แต่ตอนนี้ในวังข้าก็ไม่วางใจ เมื่อคืนท่านอ๋องไม่ได้นอนทั้งคืน ไม่สามารถเข้าวังได้ รบกวนคนของตำหนักกั๋วกงแล้ว” อันหลิงหยุนรู้สึกว่าจุนเซียวเซียวไม่ปล่อยให้เรื่องแล้วไปแบบนี้แน่ หากจะลงมือก็ต้องลงมือช่วงเวลานี้แหละ
“พระชายาเสียนวางใจได้เลย เรื่องนี้มอบให้กับเราเถอะ” ฮูหยินใหญ่ตำหนักกั๋วกงหันกลับไปมองหลังลานครู่หนึ่ง เป็นอ๋องเหมือนกัน อ๋องตวนไม่สามารถเปิดตัวในที่สาธารณะได้จริงๆ ตั้งแต่ฟังจากอ๋องเสียนว่าในวังไม่ปลอดภัย พาชวนเอ๋อกลับมาก็ไม่ได้ออกไปอีก จวนอ๋องตวนไม่กลับ จวนอ๋องเสียนไม่ไป ถือเป็นเรื่องอะไรกัน?
เดิมทียังอาศัยอยู่ในจวนอ๋องเสียน ตอนนี้จวนอ๋องเสียนก็ไม่ไปแล้ว!
อันหลิงหยุนจากไปและไปที่จวนกั๋วจิ้ว ถึงที่นั่นหวางหวยอันก็อยู่ด้วย หวางหวยอันมาเยี่ยมหวางหวยเต๋อ เห็นอันหลิงหยุนก็จัดระเบียบชุดคลุมของตน
อันหลิงหยุนพยักหน้า: “กั๋วจิ้ว”
“อืม”
หลายวันมานี้หวางหวยอันอยู่ที่จวนกั๋วจิ้วตลอด เห็นสีหน้าอันหลิงหยุนไม่ดี จึงถามนาง: “เป็นอะไรไป?”
“ใครอยู่ข้างนอก?” กงชิงวี่หูตาชาญฉลาด ได้ยินเสียงมีคนอยู่หน้าประตู
เสี่ยวเฉี่ยวกล่าวว่า: “ข้ามาหาท่านแม่ ท่านปู่สวีกำลังจะตายแล้ว”
อันหลิงหยุนได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนขึ้นมา เดินตรงออกไปนอกประตู
เสี่ยวเฉียวน้ำตานองหน้า: “คุณปู่สวีไม่กินข้าวตลอด ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร”
ถึงแม้เสี่ยวเฉียวอายุจะยังน้อย แต่กลับไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป นางรู้ว่าเรื่องอะไรต้องหาหยุนจิ่น เรื่องอะไรต้องหาอันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนรีบเดินไปทางลานจุนจื่อทันที มาถึงหน้าประตูของสวีกงกง เห็นอะมู่ก็อยู่ อะมู่เห็นอันหลิงหยุนก็กล่าวว่า: “หลายวันมานี้สวีกงกงก็ไม่ยอมกินข้าวเช่นกัน”
อันหลิงหยุนเดินไปผลักประตูออกแล้วเดินเข้าไป จวนอ๋องเสียนเป็นอะไรไปกันหมด?
เข้าประตูอันหลิงหยุนก็เห็นสวีกงกงกำลังนอนอยู่ คนดูซูบผอมลงไปมาก ห่มผ้าห่มเอาไว้ ด้านหนึ่งเป็นโต๊ะ บนโต๊ะมีพุทธคำภีร์วางอยู่สองสามเล่ม
อันหลิงหยุนเดินเข้าไปใกล้แล้วนั่งลง ยื่นมือไปจับข้อมือของสวีกงกง เริ่มต้นสแกน
สวีกงกงลืมตาขึ้นมา: “เสี่ยวสวีจื่อจากไปแล้วใช่ไหม?”
อันหลิงหยุนอึ้งไป กล่าวถาม: “ใครเป็นคนพูด?”
สวีกงกงอ้าปาก น้ำตาไหลออกมา: “ข้าฝันเห็น ข้ารู้เขาจากไปแล้ว ไม่มีคนบอกข้าหรอก พระชายาเสียน ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนใจดี แต่ข้าอยู่บนโลกใบนี้ก็ไม่มีความหวังอะไรอีกแล้ว จวนอ๋องเสียนดีมากจริงๆ แต่ว่าข้าไม่มีวาสนา!
อาซีจากไปแล้ว เสี่ยวสวีจื่อก็จากไปแล้ว เดิมทีข้าน้อยยังเป็นห่วงฝ่าบาท รู้สึกว่าฝ่าบาทขาดข้าน้อยไม่ได้ มาคิดดูภายหลัง ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ฝ่าบาทก็คือฝ่าบาท ข้าน้อยเป็นแค่ข้ารับใช้ ข้าน้อยไม่ควรเพ้อฝัน!”
“เสี่ยวสวีจื่อสบายดี ข้าเรียกเขามา ท่านรอหน่อย กินยาก่อน” อันหลิงหยุนเอายามาให้สวีกงกงกิน สวีกงกงเบือนหน้าหนีออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...