ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 84

บทที่ 84 บังเอิญพบกับจิ้งจอกหางสั้น

อันหลิงหยุนรีบเดินไปที่ใต้หินก้อนใหญ่ หมอบลงและมองเข้าไปข้างใน ดึงหญ้าออกพบว่าดินบนพื้นดินจะแตกต่างจากที่อื่นเล็กน้อย เหมือนร่วนๆ

แต่ดินชนิดนี้แตกต่างกับดินที่อื่นอยู่บ้าง หากเป็นฝีมือคน เนื้อดินควรจะนุ่มกว่านี้ เนื้อดินที่นี่เหมือนเคยถูกอะไรบางอย่างพรวน

อันหลิงหยุนใช้มือขุดอยู่พักหนึ่ง ดินข้างใต้อ่อนนุ่มทั้งหมด รู้สึกได้ถึงบางส่วนอ่อนนุ่ม บางส่วนแข็ง

อันหลิงหยุนดีใจ ลุกขึ้นต้องการผลักก้อนหินใหญ่ออกไป ไม่อย่างงั้นก็ขุดดินข้างใต้ไม่ได้

ผลักอยู่สองทีผลักไม่ไหว สีหน้ากลุ้มใจ

“ลุกออกไป!”

กงชิงวี่สีหน้าเย็นชา หญิงผู้นี้ปล่อยเขาไว้ไม่ขอให้ช่วยเหลือ ผลักด้วยตนเอง โง่จริงๆ ทำราวกับว่านางมีกำลัง

อันหลิงหยุนหลบไปอย่างเชื่อง กงชิงวี่ยกฝ่ามือขึ้น สูดลมหายใจ ออกแรงผลักขึ้นไป หินถูกผลักออกไปสองถึงสามเมตรและหยุดลง

อันหลิงหยุนหยิบพลั่วและขุดลงไปที่พื้นทันที กงชิงวี่ถือตะเกียง เคลื่อนไหวอยู่ข้างบนอันหลิงหยุน ไม่นานอันหลิงหยุนนั่งยองๆ หยิบตะกร้าไม้ไผ่ที่นำมาจากด้านหลัง ด้านในเป็นปุยฝ้ายที่เตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ปุยฝ้ายบรรจุในดอกบัว เป็นชั้นๆ มีความอบอุ่นเพียงพอ

อันหลิงหยุนหยิบเอาเนื้อดินชิ้นหนึ่งขึ้นมา วางลงไปในตะกร้าไม้ไผ่ ทุกอย่างพร้อมแล้ว อันหลิงหยุนจึงลุกขึ้นจากพื้น อย่างมีความสุข

“ขอบพระทัยอ๋องสำหรับความช่วยเหลือเพคะ” ไม่ลืมขอบคุณ

กงชิงวี่มองไปที่ใบหน้าของอันหลิงหยุน ใช้กำลังมากเกินไป หน้าแดงและหอบ แต่ก็ไม่น่ารำคาญเท่าไหร่

“ไปเถิด”

กงชิงวี่หันหลังเดินลงภูเขาสือหลี่ อันหลิงหยุนตามมาจากด้านหลัง

ทั้งสองเดินทีละคนเป็นเวลาครึ่งชั่วยาม ท้องฟ้าเริ่มมีหิมะตก

อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมอง ทั้งภูเขาสือหลี่ว่างเปล่าและมืด หิมะตกเส้นทางบนเขาก็เดินยากมากขึ้น เพียงแค่แสงจากตะเกียงในมือกงชิงวี่ ลงไปต้องเป็นอันตรายแน่นอน

อันหลิงหยุนรู้สึกกังวล: “หากตกหนัก เราจะลงไปได้อยากอย่างลำบาก”

“รีบเดินเข้า ยังมีโอกาสลงไป” กงชิงวี่เร่งฝีก้าว อันหลิงหยุนก็ไม่กล้ารอช้า แต่ตอนขึ้นมานางเดินเร็ว แถมยังไม่สังเกตเส้นทาง ลงไปหากก้าวประมาทจะเกิดเรื่องได้ นอกจากนี้ ฟ้ามืดแล้วและควรเดินช้าๆ เดินอย่างตอนนี้ จะเกิดเรื่องได้ง่าย

ดินลงไป อันหลิงหยุนรู้สึกลื่นที่เท้า คนล้มลง กงชิงวี่คว้าอันหลิงหยุนเอาไว้ ใช้แรงที่มือ อันหลิงหยุนกอดเอวกงชิงวี่ แนบอยู่ในอ้อมแขนของเขา

อันหลิงหยุนตกใจมากหัวใจเต้นรัว กอดกงชิงวี่ด้วยมือทั้งสองข้างแน่น

มือทั้งสองกงชิงวี่กอดอันหลิงหยุน: “เป็นอย่างไรบ้าง?”

“ค่อยยังชั่วเพคะ”

อันหลิงหยุนตกใจไม่เบา ออกมาครู่เดียวกำลังจะก้าวออกไป เท้าลื่นเกือบจะล้ม กงชิงวี่ใช้มือจับนางไว้: “อย่าขยับ”

อันหลิงหยุนผงกหัว: “ขอบพระทัยเพคะ”

“ก้าวตามรอยเท้าของข้า”

กงชิงวี่จับมืออันหลิงหยุนแน่น เท้าเหยียบมั่งคงแล้ว: “ตามมา”

“เพคะ”

อันหลิงหยุนเหยียบตามรอยเท้าของกงชิงวี่ แม้จะเดินค่อนข้างเหนื่อย แต่ไม่อันตราย

ทั้งสองลงจากภูเขาสือหลี่ อาหยู่มองไปยังทั้งสองที่เดินมาทันที เห็นว่าอันหลิงหยุนและกงชิงวี่ปลอดภัย อาหยู่ถาม: “ท่านอ๋อง กลับเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“หนทางในตอนกลางคืนเดินทางลำบาก พักคืนหนึ่ง ข้าต้องรอนาง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

หาหยู่รีบเร่งไปเตรียมตัว กงชิงวี่เข้าไปในรถม้าทันที หันหลังดึงอันหลิงหยุนขึ้นไปด้วย

ทั้งสองจับมือสร้างความอบอุ่น ทำให้อันหลิงหยุนมองไปที่กงชิงวี่อย่างสงสัย แต่ก่อนเขาไม่ใช่แบบนี้

เข้าไปในรถม้าอันหลิงหยุนถอดรองเท้า เริ่มถอดเสื้อคลุม ร่างกายเปรอะเปื้อน ใส่ไม่ได้อีกต่อไป อันหลิงหยุนสวมชุดด้านในห่มผ้าห่มอยู่ในรถม้า อาหยู่ส่งเตาผิงเข้ามาให้ ก็ทำให้อบอุ่นมากขึ้น

“มาหาข้า”

กงชิงวี่ถอดเสื้อคลุมและรองเท้า ขณะนี้พักพิงอยู่อีกด้านหนึ่งของรถม้า

ออกจากรถม้าอันหลิงหยุนมองไปทั่วทั้งภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะจากด้านนอกรถม้า

อาหยู่กำลังก่อไฟ ดูเหมือนกำลังเตรียมทำอาหาร

อาหยู่ลุกขึ้นเมื่อเห็นอันหลิงหยุน: “พระชายา”

“ให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่?” อันหลิงหยุนเดินไปข้างหลังอาหยู่ อาหยู่ล่ากระต่ายมาตัวหนึ่ง เตรียมตุ๋นเนื้อกระต่าย

“ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ พระชายาไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น”

“งั้นข้าไม่ช่วยแล้วนะ ข้าไปเดินรอบๆ”

อันหลิงหยุนไม่อยากเจอกงชิงวี่ ความซับซ้อนในใจที่พูดไม่ออก

ทิวทัศน์ของภูเขาสือหลี่ไม่เลว อันหลิงคิดว่าจะเดินรอบๆ ใต้ภูเขาภูเขาสือหลี่

เดินไประยะหนึ่งอันหลิงหยุนพบว่ามีรอยเล็บเท้าของสัตว์บางอย่างที่พื้น อันหลิงหยุนมองไปรอบด้าน หรือจะเป็นกระต่าย?

นึกได้ว่าอาหยู่ล่ากระต่ายมาได้ตัวหนึ่ง อันหลิงหยุนจึงอยากจับตัวหนึ่ง สร้างความภาคภูมิใจสักหน่อยก็ดี

มองหารอยเท้าอันหลิงหยุนเดินไปพบกับรูรูหนึ่ง อันหลิงหยุนนั่งลงมองไปที่ปากทางเข้ารูตอนแรกคิดว่ากระต่ายจะอยู่ในรู ยื่นมือลงไปจับ อันหลิงหยุนจับโดนบางสิ่งที่เปียกชื้น

ดึงมือกลับมาดู เป็นเลือด

อันหลิงหยุนคุกเข่าอยู่ที่พื้นมองไปยังข้างใน ข้างในมีอะไรบางสิ่งอยู่จริงๆ แต่สภาพแทบทนไม่ไหวแล้ว

ยื่นมือเข้าไปอีกครั้ง อันหลิงหยุนลากสัตว์น้อยในรูออกมา ตอนแรกคิดว่าเป็นกระต่าย นึกไม่ถึงว่าจะเป็นหมาจิ้งจอกที่หางสั้น

หมาจิ้งจอกหางสั้นจ้องมองอันหลิงหยุนด้วยคู่ดวงตาสีเข้ม อันหลิงหยุนถูกมองจนไม่สามารถทนเห็นได้

“ได้ ข้ารักษาให้เจ้า แต่เจ้าต้องให้ความร่วมมือกับข้า”

อันหลิงหยุนไม่รู้ว่าหมาจิ้งจอกหางสั้นจะสามารถฟังเข้าใจหรือไม่ โดยสรุปนางรักษาบาดแผลที่ขาให้กับหมาจิ้งจอกหางสั้น ดำเนินการพันแผลเรียบร้อย

หมาจิ้งจอกหางสั้นเหมือนไม่ค่อยรู้สึกตัว อันหลิงหยุนอุ้มหมาจิ้งจอกหางสั้นกลับไปที่รถม้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน