ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 880

บทที่ 880 สร้างประเทศหลิงหยุน

เมื่อเห็นอันหลิงหยุนไม่พูดอะไร ซูมู่ไห่ก็โพล่งออกมาว่า "ข้าต้องการเจ้า!"

ในตอนแรกอันหลิงหยุนยังฟังได้ไม่ชัด เงยหน้าขึ้นมองซูมู่ไห่แบบไร้การตอบสนองใด ๆ เป็นนานสองนาน เวลานั้นมุมปากของซูมู่ไห่ก็ยกยิ้มขึ้นสูง หันหลังเดินออกไปแล้ว

"ที่นี่คือหนานอี้ ข้าคือองค์ชายสี่แห่งหนานอี้ซูมู่ไห่ หากพวกเจ้าฆ่าข้า พวกเจ้าก็ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีแน่ เพราะฉะนั้นทางที่ดีที่สุดคือ พวกเจ้าควรจะถอยไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ ข้ายังพอจะยกโทษให้พวกเจ้าไม่ต้องรับโทษตายได้" ซูมู่ไห่กันตัวอันหลิงหยุนไปไว้ด้านหลังตัวเองไม่อนุญาตให้ใครเข้าใกล้อันหลิงหยุนได้เด็ดขาด

อันหลิงหยุนมองสังเกตรอบตัวครู่หนึ่ง มีคนจำนวนมากเกินไปจริง ๆ ต่อให้ซูมู่ไห่มีฝีมือร้ายกาจ แต่ก็คงก็ไม่อาจรับมือคนจำนวนมากขนาดนี้พร้อม ๆ กันได้

อันหลิงหยุนหันไปมองหงเย่ซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองบนฟ้า เจ้าอีกาน้อยไม่ได้ตามมาด้วย

"หงเย่" อันหลิงหยุนตะโกนเรียก ซูมู่ไห่หันหน้ากลับไปจ้องอันหลิงหยุนเขม็งทันที สีหน้าฉายชัดถึงความไม่พอใจจนเกลื่อนเต็มใบหน้า

"หุบปาก!"

หลิงหยุนลังเล อารมณ์ก็ยังแย่มากเสียด้วยนี่สิ!

แต่อย่างนี้นี่ล่ะ ที่เหมาะกับการเป็นฮ่องเต้

อันหลิงหยุนยิ้มแย้ม ซูมู่ไห่ตกตะลึงจนค้างไปหมดแล้ว หน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า

"หึ!" ซูมู่ไห่หันไปมองหงเย่ แม้ว่าเขาจะหันไปประจันหน้ากับหงเย่ แต่กลับพูดชี้แจงอธิบายกับอันหลิงหยุนว่า: "อีกเดี๋ยวให้เจ้าไปจากทางด้านหลังของข้าซะ เมื่อลงน้ำไปแล้ว ให้เจ้ามุ่งไปทางทิศใต้ซึ่งเป็นถิ่นภูมิหลังของข้า ข้าจะสามารถหาเจ้าจนพบได้เอง "

"ไม่ต้องหรอก พวกเราประวิงเวลาต่อให้ได้อีกครู่เดียว ก็จะมีคนมาช่วยข้าแล้ว" อันหลิงหยุนรับรู้ได้ว่ากงชิงวี่อยู่ใกล้ ๆ นี้แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่อยากลงน้ำด้วย สำหรับสตรีมีครรภ์แล้ว ในน้ำนับว่าไม่ค่อยปลอดภัยนัก เกิดถ้าคนพวกนี้ใช้ดาบฟันใส่ขึ้นมา คงมีแต่ต้องตายสถานเดียวแน่แล้วไม่ใช่หรือ?

ซูมู่ไห่หงุดหงิด: "นี่มันเวลาอะไรแล้ว ยังจะดื้อรั้นไม่ฟังคำอยู่อีก ข้าบอกให้เจ้าไป ก็รีบไปเถอะน่า"

".... " อันหลิงหยุนไม่อยากพูดอะไรอีกทั้งนั้น

ซูมู่ไห่หันกลับไปมองอันหลิงหยุนอีกครั้ง ใบหน้าของอันหลิงหยุนเริ่มจะดูเย็นชาลงแล้ว นางเหมือนกับเด็กที่กำลังโกรธไม่มีผิด

หัวใจของซูมู่ไห่พลันอ่อนยวบ: "ข้าไม่ได้ตั้งใจจะว่าให้เจ้านะ แต่ถ้าเจ้าไม่ลงไป พวกเราก็หนีไปไม่ได้"

“ ข้าไม่ได้โกรธ แค่คิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะหนีไปได้ก็เท่านั้นเอง”

"ถ้าอย่างนั้นก็ฟังข้าสิ" ซูมู่ไห่ยืนกรานว่าต้องลงน้ำ อันหลิงหยุนก็ไม่ยอม หงเย่ที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามก็กำลังเดินเข้ามาหา อีกไม่นานก็จะมาถึงตัวพวกเขาแล้ว

ซูมู่ไห่จับมืออันหลิงหยุน เตรียมจะพาอันหลิงหยุนหนีไป อันหลิงหยุนดึงเขาไว้ พลางชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้า: "มาแล้ว"

ซูมู่ไห่มองขึ้นไป มีอีกาจำนวนมากบินวนอยู่บนท้องฟ้า ซูมู่ไห่แปลกใจอย่างมาก: "อีกา?"

"อื้ม"

อันหลิงหยุนมองออกไปไกลๆ เรือลำหนึ่งกำลังแล่นเข้ามาทางนี้ ทั้งยังมีทัพทหารสวมชุดเกราะเหล็กจำนวนหนึ่ง กำลังเคลื่อนกำลังพลเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็ว ในมือของพวกเขาถือดาบห้อยโซ่ ดูแล้วเหมือนว่าพวกเขากำลังวิ่งอยู่บนน้ำเลยทีเดียว

หงเย่หันไป ทัพทหารเกราะเหล็กก็มาถึงที่นี่แล้ว แต่อีกด้านหนึ่ง ยังมีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เร่งฝีเท้าเข้ามาทางนี้อย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน หงเย่หันไปมองอีกด้าน คนกลุ่มนั้นกลับยิ่งรวดเร็วกว่า หนึ่งในนั้นที่สวมหน้ากากผีทิ้งตัวลงตรงหน้าหงเย่ ในขณะที่หงเย่เตรียมจะอ้าปากพูด คนสวมหน้ากากผีก็เคลื่อนตัวไปอยู่ตรงหน้าอันหลิงหยุนเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งการเคลื่อนไหวทั้งหมด ล้วนเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น

ชายหน้ากากผีทิ้งตัวลงพื้น แล้วยกมือขึ้นถอดหน้ากากผีออกจากหน้าตัวเองไป อันหลิงหยุนตกใจจนผงะ ทุกคนต่างก็ไม่เผยหน้ากันทั้งนั้น นี่คิดจะทำอะไรกันแน่?

"อื้ม ไม่เลวเลย พวกนั้นมองว่าข้ากลายเป็นไอ้โง่คนหนึ่งไปแล้ว หากข้ายังทำตัวเป็นไอ้โง่ต่อไป จากนี้ข้าก็คงกลายเป็นไอ้โง่เข้าจริง ๆ แล้วสินะ"

หงเย่หันไปมองกงชิงวี่ที่กำลังอุ้มเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ทั้งยังพาเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ขี่อยู่บนหลังเสือบุกโจมตีเข้ามาทางนี้เรื่อย ๆ แล้วยกแสยะมุมปากขึ้นสูง: "แล้วเจ้าคิดเป็นประการใดล่ะ?"

อันหลิงหยุนก็หันไปมองทางที่กงชิงวี่กำลังมุ่งตรงมาเช่นกัน ผ่านไปอึดใจใหญ่ ๆ ก็พูดว่า: "พวกเจ้าต่างก็เป็นพี่น้องกันทั้งนั้น ที่จริงก็ไม่ควรเป็นแบบนี้ แต่เพราะพวกราชนิกูลก่อกบฏ ส่งผลให้เกิดความไม่สงบ ประเทศต้าเหลียงต้องลำบากยากแค้น การฆ่าพวกเจ้า ก็เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของประชาชนในประเทศต้าเหลียง ย่อมสมควรฆ่าทิ้งให้หมด! "

เซวียนเหอพยักหน้า: "เจ้าติดตามเขา เป็นเรื่องที่ชวนให้น้อยเนื้อต่ำใจเหลือเกินแล้วจริง ๆ หากเจ้ายอมไปกับข้า ในอนาคตข้าสามารถมอบตำแหน่งฮองเฮาให้เจ้าได้!"

"ในใจของเจ้า จะอย่างไรก็ยังคงเป็นชวนเอ๋อ ทำไมเจ้าต้องมาสร้างภาพว่าชอบข้าด้วยล่ะ?" อันหลิงหยุนรู้ว่าเซวียนเหอไม่มีเพื่อน ในบรรดาคนที่มีอยู่เพียงน้อยนิดนั้นก็คือ หยุนโล่ชวนกับนาง แต่กับหยุนโล่ชวน เซวียนเหอชอบนางมากจริงๆ แต่กับตัวนางเอง มันดูเหมือนการได้พบใครบางคนที่สามารถพูดคุยด้วยได้ เหมือนกับคนที่เดินทางร่อนเร่ไปจนสุดขอบฟ้า แล้วได้พบเจอเข้ากับเพื่อนที่ถูกชะตา มีความรู้ใจกันอย่างนั้นมากกว่า

"หากจะให้ข้าพูดไป ชวนเอ๋อถือว่าเป็นอดีตของข้าที่ผ่านไปแล้ว สุดท้ายนางก็นับว่าอายุยังน้อย ตัวข้าเองก็ยังนับว่าอายุยังน้อยไปบ้างเหมือนกัน จนมาถึงตอนนี้ ลองย้อนนึกไปถึงเมื่อสมัยนั้น ก็เป็นเหมือนยอดอาชาที่วิ่งโหมฝ่าพายุฝุ่นทรายอย่างไม่รู้ทิศทาง เป็นแค่คนที่ไม่รู้ว่าความรักคืออะไร เอาแต่เพ้อฝันคิดอยากจะเอาชนะกันก็เท่านั้นเอง

ข้ามองว่า ชวนเอ๋อเป็นเหมือนคนที่จะใช้ยืนยันสิทธิ์ที่ตัวเองพึงมีได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ข้ากลับลืมไปว่า ในโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน ไม่มีอะไรที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

แต่พอเป็นเจ้า กลับทำให้รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่คิดถึงขึ้นมา ถึงแม้ว่าข้าจะไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของพวกเจ้า แต่ข้าก็มีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้ใกล้ชิดกับเจ้า

เพื่อชวนเอ๋อ ข้าสามารถทำศึกจับทวนที่หนักราวทองคำ จะขี่ม้าหุ้มเกราะเหล็กหนักหนาเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น และเพื่อเจ้า ข้าก็สามารถถอดเกราะปลดอาวุธ วางมือจากทุกสิ่งแล้วไปใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบสงบได้! "

อันหลิงหยุนทอดสายตาไปมองทางด้านกงชิงวี่ เขาคงจะต้องกังวลใจมากแล้วเป็นแน่

"ไม่ว่าเจ้าจะพูดให้ฟังดูดีแค่ไหน ข้าก็ไม่มีวันเชื่อ!"

"ต่อให้เจ้าไม่เชื่อ แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ? ไปกับข้าเถอะ ปล่อยให้สองฝ่ายนั้นสู้กันให้บาดเจ็บล้มตายกันไปเอง มาเป็นฮองเฮาของข้าดีกว่า ตอนนี้ข้าขึ้นเป็นฮ่องเต้เซวียนเหอแห่งประเทศหลิงหยุนแล้ว"

"ประเทศหลิงหยุน?" อันหลิงหยุนถึงกับตกตะลึงอึ้งค้างไปเลยทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน