ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 952

บทที่ 952 ไม่แต่งให้องค์ชาย

กงชิงยี่เหรินถามขึ้นว่า: "ที่นี่พอจะมีถ้ำหรือบ้านร้างบ้างหรือไม่ ? พาข้าไปที่นั่นก็ได้"

ในฐานะองค์ชาย เพิ่งจะเข้ามาถึงหมู่บ้านก็ได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าผู้คนสิ้นดี

จุนเมิ่งเหลือบมองออกไปไม่ไกล: "มีบ้านร้างอยู่หลังหนึ่ง ก่อนหน้านี้เคยมีขอทานมาพักอยู่ เจ้าไปที่นั่นก็ได้ ข้าจะไปส่ง!"

“ เจ้าไม่กลัวข้า?” กงชิงยี่เหรินประหลาดใจมาก ผู้หญิงคนนี้โง่หรือเปล่า?

ผู้ชายคนหนึ่ง กับนางที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แค่คนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน ไม่กลัวว่าเขาจะแอบวางแผนชั่วเลยหรือ

จุนเมิ่งพูดขึ้นว่า: "เจ้ายื่นมือเข้ามาช่วยข้าขนาดนี้ ทำไมข้าต้องกลัวด้วยล่ะ หากเจ้าเป็นเหมือนกับคนร้ายพวกนั้น ก็ไม่ต้องอุทิศตนเพื่อช่วยข้าแต่แรกก็ได้แล้วนี่?"

กงชิงยี่เหรินยกยิ้ม: "นั่นสินะ เช่นนั้นเจ้าก็พาข้าไปเถอะ"

ทั้งสองเดินทางไปด้วยกัน จุนเมิ่งมองไม่ชัดมากนัก ว่ากงชิงยี่เหรินหน้าตาเป็นอย่างไร แต่เรื่องที่ว่าเขายังเด็กมากนั้น นางรู้ชัดเจนดี

สำหรับจุนเมิ่ง ภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องกระทบมารางๆ ก็พอจะมองเห็นได้หลายส่วนอยู่ แต่จะให้พูดแบบฟันธงว่างดงามขนาดไหนนั้น กงชิงยี่เหรินกลับมองได้ไม่ชัดมากนักเช่นกัน

ทั้งสองเดินมาถึงบริเวณนอกบ้านร้าง จุนเมิ่งหยุดแล้วพูดขึ้นว่า: "เจ้าเข้าไปเถอะ บ้านไม่ค่อยสะอาด ข้าจะเก็บกวาดทำความสะอาดเสียหน่อย"

“ เจ้าพาข้าเข้าไปสิ”

พูดจบกงชิงยี่เหรินก็เดินเข้าไปด้านใน จุนเมิ่งเกิดอาการลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงค่อยเดินตามเข้าไป

โคมไฟถูกจุดให้ความสว่างในบ้าน จุนเมิ่งไปทำความสะอาด กงชิงยี่เหรินเริ่มรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาบ้างแล้ว จึงนั่งลงบนพื้น แล้วเอนหลังมองหญิงสาวตรงหน้า ที่ในมือยังถือโคมไฟอยู่

ในเวลานี้เองที่กงชิงยี่เหรินได้พบว่า หญิงสาวผู้นี้งดงามขนาดไหน

เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกใจเต้นกับผู้หญิง

"เจ้าชื่ออะไร?"

กงชิงยี่เหรินถามขึ้น จุนเมิ่งจึงตอบไปว่า: "จุนเมิ่ง"

“ คำว่า จุน ที่หมายถึงราชาน่ะหรือ?”

"อื้ม"

"มีคนที่ใช้แซ่นี้อยู่ไม่มาก" กงชิงยี่เหริน หวนนึกไปถึงราชครูจุนที่เสด็จแม่เคยตรัสถึงให้ฟังก่อนหน้านี้

เพื่อประเทศเหลียงของพวกเขาแล้ว ราชครูจุนถึงกับยอมสละชีวิตตนเองได้

คนนอกที่ไม่รู้อะไร ต่างก็พากันเข้าใจท่านราชครูผิดมาโดยตลอด แต่เขารู้ดี ว่านั่นเป็นเพียงแค่กลอุบายประการหนึ่งเท่านั้น

กงชิงยี่เหรินคลายเสื้อผ้าบนร่าง ส่วนของแผ่นอกอันกำยำ แลดูสะอาดสะอ้านก็เผยออกมาให้เห็นเด่นชัด จุนเมิ่งเห็นเข้าก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ใบหน้าเห่อร้อนแดงก่ำทันที

กงชิงยี่เหรินถามขึ้นว่า "เจ้าแต่งงานแล้วหรือไม่?"

จุนเมิ่งส่ายหน้า: "ยังไม่ได้แต่ง"

"เจ้าเข้ามาใกล้ ๆ มาช่วยพันผ้าให้ข้าที รอให้ข้าดีขึ้นแล้ว ข้าจะไปสู่ขอเจ้า"

"..... "

จุนเมิ่งตะลึงค้าง: "ไม่ได้"

“ ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ?”

"เรื่องการแต่งงานล้วนขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ต้องมีแม่สื่อชักนำทำพิธีการ ข้าไม่อาจรับปากเองตามอำเภอใจได้"

"เช่นนั้นเจ้าดูข้าแล้ว คิดว่าพอใจบ้างหรือไม่" กงชิงยี่เหรินคิดจะหยอกเย้าจุนเมิ่ง จุนเมิ่งมองดูกงชิงยี่เหรินกก็บังเกิดความรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก นี่คงเป็นพวกมักมากบ้าตัณหาคนหนึ่งกระมัง?

กงชิงยี่เหรินพูดขึ้นว่า: "มาช่วยดูให้ข้าหน่อยเถอะ จะได้ดูด้วยว่าข้าหน้าตาเป็นอย่างไร"

จุนเมิ่งคิดอยากจะกลับไปเร็วหน่อย จึงถือโคมเดินเข้าไปตรงหน้ากงชิงยี่เหรินแล้วคุกเข่าลง กระทั่งได้เห็นชัดเจนว่า หน้าตาเขาเป็นอย่างไร

จุนเมิ่งตะลึงค้างไปชั่วขณะ นี่เขากลายเป็นชายหนุ่มรูปงามไปได้อย่างไรกัน!

จุนเมิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เตรียมจะลุกขึ้น กงชิงยี่เหรินพลันใช้มือเดียวคว้าจับตัวจุนเมิ่งไว้ แล้วพลิกตัว กดคนลงไปอยู่ด้านล่างตัวเองทันที

ทำเอาจุนเมิ่งตกใจจนกรีดร้องออกมาเสียงหนึ่ง กงชิงยี่เหรินรีบยกมือขึ้นมาปิดปากจุนเมิ่งทันที: "ตอนนี้เจ้ากลัวแล้วหรือ?"

จุนเมิ่งจ้องมองไปที่กงชิงยี่เหรินอย่างเย็นชา: "หลงคิดว่าเจ้าเป็นคนดี มีจิตใจโอบอ้อมอารีคนหนึ่ง ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนแบบนี้ ดูท่าทางเจ้าแล้ว ข้าก็คงไม่รอดไปจากที่นี่แล้วสินะ ข้าคงทำได้แค่ตาย .... "

จุนเมิ่งหยิบมีดออกมา คิดจะตายต่อหน้ากงชิงยี่เหรินไปซะ

"....." กงชิงยี่เหรินครุ่นคิดอยู่นาน: "ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของข้า จะบังคับให้ข้าแต่งหรือไม่ แต่พ่อแม่ของข้า ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบสามีคนเดียวมีภรรยาหลายคนเหมือนกัน ข้าคิดว่าข้าเองก็คงไม่ทำเช่นนั้น ถ้าพวกเขาบังคับข้า ข้าจะพูดกับพวกเขาตรงๆเอง "

จุนเมิ่งครุ่นคิด: " เช่นนั้นวันพรุ่งนี้เจ้าต้องไปขอสู่ขอข้าที่บ้านของข้า ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ให้ถือว่าจบกันแค่นี้ ข้าต้องกลับแล้ว ข้า ... "

"อยู่คุยเป็นเพื่อนข้าก่อนเถอะ ข้ายังไม่ได้กินข้าวเลย เจ้าไม่ใช่ว่ามาส่งข้าวหรอกหรือ? พรุ่งนี้ข้าจะไปสู่ขอแล้ว อย่างไรก็ต้องถามให้รู้ชัดว่าควรนำอะไรไปบ้าง"

จุนเมิ่งลังเลอยู่ชั่วครู่ รู้สึกว่าก็สมควรจะคุยให้รู้เรื่องจริงๆ

"ครอบครัวของข้าจัดหาคู่แต่งงานให้ข้าไว้คนหนึ่ง อีกฝ่ายมีฐานะไม่ธรรมดา ข้ากลัวว่าท่านปู่ของข้าอาจเห็นเจ้าแล้วไม่เข้าตา ก่อนหน้านี้ก็มีคนหลายคนมาที่บ้าน แต่พวกเขาล้วนไม่มีใครเข้าตาทั้งสิ้น"

"นั่นเป็นเพราะเขายังไม่เคยเห็นข้าต่างหาก ถ้าได้เห็นข้าจะต้องเข้าตาอย่างแน่นอน วันพรุ่งนี้ข้าจะไปให้เห็นเอง" กงชิงยี่เหรินดึงจุนเมิ่งมานั่งด้วยกัน จุนเมิ่งรีบขยับไปนั่งอีกด้านทันที แล้วซ่อนมือทั้งสองข้างไว้ใต้แขนเสื้อ

กงชิงยี่เหรินก็ไม่ได้บังคับอะไร แค่นั่งอยู่ข้างๆแล้วถามว่า: "ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่า ในที่เช่นนี้จะมีคนแบบเจ้าอยู่ ดูเจ้ารู้หนังสือแตกฉานวิชา พ่อแม่ของเจ้าให้เจ้าเรียนหนังสืออย่างนั้นหรือ?"

"ได้ร่ำเรียนมาบ้าง แต่ไม่ใช่พ่อแม่ที่สอนให้ เป็นปู่กับย่าที่สอน"

“ เช่นนั้นเจ้าลองพูดถึงเรื่องต่าง ๆ ในใต้หล้านี้ดูบ้างสิ”

"ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับใต้หล้านี้หรอก โบราณว่าไว้ หญิงใดไร้สามารถนับเป็นคุณธรรม  แค่ดูแลเรื่องราวภายในบ้านตัวเองให้ดีก็พอ"

"..... "

ทั้งสองคุยกันนานกว่าหนึ่งชั่วยาม จุนเมิ่งก็ลุกขึ้นเตรียมตัวกลับ กงชิงยี่เหรินพูดขึ้นว่า: "ไม่สู้คืนนี้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนข้าดีกว่า วันพรุ่งนี้ข้าค่อยไปบ้านเจ้าพร้อม ๆ กันเพื่อเจรจาสู่ขอก็ได้นี่"

“วันพรุ่งนี้เจ้าจะไปสู่ขอหรือไม่ ข้าไม่รู้ แต่ที่รู้คือวันนี้ข้าไม่ควรอยู่ที่นี่”

จุนเมิ่งหมุนตัวเดินกลับ หันไปมองที่บ้านร้างครั้งหนึ่ง แล้วเดินกลับบ้านตัวเองไป

กระทั่งบ้านนางอยู่ที่ไหน นางก็ยังไม่ได้บอกออกไปด้วยซ้ำ ตัวเขาก็ไม่ได้ถามอีกด้วย แล้วจะไปสู่ขออย่างไรได้?

แต่ท่าทางที่เหมือนพวกขุนนางกังฉินบ้าตัณหาอย่างนั้น ท่านปู่ไม่มีทางชอบเขาแน่ จะไปสู่ขอสำเร็จได้อย่างไรกัน

จุนเมิ่งนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน หลังจากลุกขึ้นมาในตอนเช้า ก็ไปคุกเข่าสำนึกผิดเสียแล้ว

นางไม่อยากแต่งให้องค์ชาย แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลออกไปว่าเป็นเพราะสาเหตุใด!

จุนเมิ่งร้องไห้ไม่หยุดขณะที่คุกเข่าอยู่บนพื้น สีหน้าของราชครูจุนกลับไม่ได้ดูแย่อะไร ตอนที่ซักถามยังมีท่าทีสุภาพให้เกียรติไม่น้อย แต่ไม่ว่าเขาจะถามอย่างไร จุนเมิ่งก็ไม่ยอมบอกเหตุผล บอกแค่ว่านางไม่อยากแต่งให้องค์ชายเท่านั้น ขอร้องท่านปู่ได้โปรดช่วยให้นางสมหวังด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน