ใบหน้าเขาซีดเซียวราวกับพร้อมจะทรุดลงได้ทุกเมื่อ
ลั่วชิงยวนมิเคยเห็นฟู่เฉินหวนป่วยหนักถึงเพียงนี้มาก่อน
แต่ถึงอย่างนั้นความสง่างามบนใบหน้าของเขาก็ยังคงมิลดลง
ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอ่ยปาก “ดูเหมือนว่าบาดแผลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะมิยังค่อยหายดีนัก”
“มิเกี่ยวกับเจ้า” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมย
แม้จะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด
“ตอนนี้ท่านคงจะขาดแคลนเครื่องยาสมุนไพร พวกข้าสามารถจัดหาให้ได้”
“สามารถนำเข้าไปเป็นเงื่อนไขในการเจรจาครั้งนี้ได้”
“ท่านคงจะรู้ฝีมือการรักษาของข้าดีอยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะรักษาแผลของท่านให้หายได้”
ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงเย็นชา “พูดมาตามตรงเถอะว่าเจ้าต้องการเงื่อนไขอะไรบ้าง”
ลั่วชิงยวนจึงกล่าวเงื่อนไขทั้งหมดออกมา
หลังจากฟังจบ ฟู่เฉินหวนก็หัวเราะเยาะ “พวกเจ้าช่างกล้าขอจริง ๆ”
ลั่วชิงยวนถามต่อ “แล้วหากข้าแลกด้วยสนหิมะเขาฉีซานเล่า?”
ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลง
ลั่วชิงยวนกำลังบอกเป็นนัยกับเขา
“ของสิ่งนี้เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องยาสมุนไพรอื่น ๆ ข้ารับรองว่าจะทำให้แผลของท่านหายสนิทได้ และจะมิส่งผลต่อวรยุทธ”
ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“เจ้ามีหรือ?”
“มีสิ”
ฟู่เฉินหวนแสร้งทำเป็นลังเลอย่างเห็นได้ชัด “ข้าจะพิจารณาดูก่อน”
“จะให้คำตอบเจ้าในเช้าวันพรุ่ง”
กล่าวจบฟู่เฉินหวนก็หันหลังเดินออกไป
หัวหน้าเผ่าทั้งสองตกใจ “นี่หมายความว่า อ๋องผู้สำเร็จราชการตกลงแล้วใช่หรือไม่?”
ลั่วชิงยวนพยักหน้า “น่าจะตกลงแล้ว”
“เพราะสนหิมะเขาฉีซานมิใช่ของที่หาได้ง่าย ๆ”
“ข้าจะไปตรวจสอบดูว่าอาการบาดเจ็บของเขาเป็นอย่างไร ท่านทั้งสองมิต้องรอข้าหรอก”
กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็ลุกขึ้นเดินตามเขาไปในทันที
อาการของฟู่เฉินหวนดูรุนแรงเกินไป นางต้องไปตรวจดูให้ได้
นางวิ่งไล่ตามฟู่เฉินหวนทันอย่างรวดเร็ว
เมื่อไม่มีใครอยู่รอบข้าง นางก็คว้าข้อมือของฟู่เฉินหวนเพื่อจับชีพจร
แต่ฟู่เฉินหวนกลับสะบัดมือของนางออกอย่างเย็นชา
“ทำอะไร”
ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจเล็กน้อย “จับชีพจรให้ท่านเพคะ”
แววตาของฟู่เฉินหวนเย็นชา นิ้วมือซีดเซียวเช็ดเลือดที่ริมฝีปาก แล้วเอ่ยเสียงเย็นชา “ห้ามบอก!”
“ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร!”
เซียวชูจำใจต้องพยักหน้ารับคำ “รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
ลั่วชิงยวนกลับมาที่ห้องโถงด้วยความรู้สึกซับซ้อน พวกเขาจัดเตรียมห้องไว้ให้แล้ว ลั่วชิงยวนจึงไปพักผ่อน
เพียงแต่มองไปที่จันทร์เสี้ยวข้างนอกหน้าต่างแล้วกลับมิสามารถหลับตาลงได้
เฝ้ารอคอยอยู่อย่างนี้จนถึงรุ่งสาง
เมื่อขอบฟ้าเริ่มมีแสงรำไรก็ได้คำตอบ
ลั่วชิงยวนและหัวหน้าเผ่าทั้งสองได้รับเชิญให้ไปที่ห้องโถงใหญ่
“ท่านทั้งสามโปรดรอสักครู่ ท่านอ๋องจะเสด็จมาในอีกมิช้า”
เมื่อได้ยินดังนั้น หัวหน้าเผ่าทั้งสองก็รู้สึกประหลาดใจ
“น่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว มิรู้ว่าจะตกลงตามเงื่อนไขของเราหรือไม่”
เมื่อพูดจบ ฟู่เฉินหวนก็ก้าวเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
“เงื่อนไขของพวกเจ้า ข้าตกลง”
ทั้งสองได้ยินดังนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมาก
การเจรจาสำเร็จแล้วจริง ๆ
เตรียมกระดาษและพู่กันไว้พร้อมแล้ว ขณะที่กำลังจะลงมือเขียนสัญญา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...