ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย นิยาย บท 1011

จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านนอก

ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างถล่มลงมา

มินานก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาอย่างเร่งรีบ

“รายงาน! ทหารเผ่านอกด่านยกทัพมาลอบโจมตีพ่ะย่ะค่ะ!”

“พวกมันใช้แม่ทัพฉินเป็นโล่มนุษย์ แล้วบุกเข้ามาจากจุดที่กำแพงเมืองทางทิศเหนือพังทลายลงมา บัดนี้บุกเข้ามาในเมืองผิงหนิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อได้ฟังดังนั้น สีหน้าของหลายคนในห้องก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“ว่ากระไรนะ? บุกเมืองแล้วหรือ?”

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น...”

หัวหน้าเผ่าทั้งสองยังมิทันได้คิดให้เข้าใจ

แววตาอันแหลมคมของฟู่เฉินหวนก็จ้องมาที่พวกเขาสามคน

“การเจรจาสันติภาพเป็นเรื่องหลอกลวง การโจมตีแบบลอบกัดต่างหากที่เป็นของจริง!”

“ทหาร จับตัวพวกมันสามคนไปขังไว้! คุมตัวให้แน่นหนา!”

ในวินาทีต่อมา เหล่าทหารก็กรูเข้ามาจับตัวพวกเขาสามคนไปขังไว้ในห้องมืดที่มีการเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา

“ใครกันที่มิเชื่อฟังคำสั่งแล้วลงมือเองเช่นนี้! การเจรจาสันติภาพจะสำเร็จอยู่แล้ว!” หงเซียวโกรธจัดจนชกกำแพงอย่างแรง

“จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากหล่างชิ่น!” ถูจินโกรธจนเคราแทบตั้ง

“นางต้องการสืบทอดบัลลังก์จึงมิยอมให้หยวนหนิงเจรจาสำเร็จ!”

หงเซียวตกใจก่อนจะตำหนิตัวเอง “ประมาทเกินไปเสียแล้ว!”

“นางต้องการจะบีบให้พวกเราชาวเผ่านอกด่านตายกันหมด!”

ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใด

เรื่องทั้งหมดนี้ยังคงเป็นไปตามการคาดการณ์ของนาง

หล่างชิ่นคงจะมิยอมนิ่งดูนางเจรจาสำเร็จ แล้วกลับไปสืบทอดบัลลังก์เช่นนั้นหรอก

ดังนั้นจึงต้องทำลายการเจรจาและแน่นอนว่าจะต้องฉวยโอกาสโจมตีเมืองด้วย

เมื่อคืนที่มิได้ลงมือก็เพื่อให้ทุกคนตายใจก่อน แล้วจึงบุกโจมตีเมืองในยามเช้า

“มิได้ พวกเราต้องฉวยโอกาสตอนที่เกิดความโกลาหลหลบหนีออกไป มิเช่นนั้นเมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง พวกเราต้องถูกฆ่าแน่นอน!”

ทั้งสองตัดสินใจทันที

ถูจินกล่าวกับลั่วชิงยวน “หยวนหนิง ประเดี๋ยวพวกข้าจะพาหนีออกไป เจ้ารู้จักสภาพแวดล้อมในเมืองนี้ดี เจ้าหนีไปก่อน หากหนีมิรอดก็ให้ซ่อนตัวไว้”

“อย่าสนใจพวกข้าสองคนเลย!”

ลั่วชิงยวนตกใจ “มิหนีไปด้วยกันหรือ?”

ถูจินมองไปที่หงเซียว แล้วกล่าวว่า “พวกข้าสองคนเป็นชายตัวใหญ่ถึงเพียงนี้ ออกไปก็ต้องถูกคนอื่นเห็น เจ้าตัวเล็กกว่า พวกข้าจะดึงดูดความสนใจให้ เจ้ารีบวิ่งหนีไปเถิด!”

ลั่วชิงยวนตกตะลึง มิคิดว่าพวกเขาจะไว้ใจนางถึงเพียงนี้

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายก็ยังให้นางหนีไปก่อน

ทั้งสองกำลังจะเริ่มลงมือ แต่ลั่วชิงยวนกลับรั้งพวกเขาไว้

แววตาของลั่วชิงยวนเย็นชา “ดาบของข้าเล็งไปที่เจ้าคนเดียวเท่านั้น หล่างชิ่น!”

นางใช้ปลายเท้าเกี่ยวหอกยาวขึ้นมา แล้วใช้หอกพุ่งโจมตีอย่างโกรธเกรี้ยว แต่ละกระบวนท่าเต็มไปด้วยเจตนามุ่งสังหาร

ลั่วชิงยวนร่างกายอ่อนแอและยังมิหายดี จึงสามารถต่อสู้กับหล่างชิ่นได้อย่างสูสีเท่านั้น

จนกระทั่งฟู่เฉินหวนเข้ามาร่วมต่อสู้

ทั้งสองร่วมมือกันอย่างเข้าดี ขนาบข้างโจมตีหล่างชิ่น ทำให้หล่างชิ่นรับมือมิทัน โดนหอกยาวแทงจนต้องกระเด็นออกไปหลายเมตร

ลั่วชิงยวนกระโดดเข้าไปใช้หอกยาวเกี่ยวคอเสื้อของนาง แล้วจับโยนขึ้นไปบนกำแพงเมือง แขวนหล่างชิ่นไว้อย่างนั้น

“ปล่อยข้า!” หล่างชิ่นดิ้นรนด้วยความโกรธจัด

“พวกเราชาวเผ่านอกด่านทั้งหลายเห็นหรือไม่! นี่คือคนที่เสด็จพ่อของข้าจะยกบัลลังก์ให้!”

“นางวางแผนหลอกลวงพวกเรามาตั้งแต่แรก! วางแผนหลอกลวงเสด็จพ่อ!”

“ทุกคนจงฟังคำสั่งของข้า ตัดหัวลั่วชิงยวนให้ได้! ตีเมืองผิงหนิง!”

หล่างชิ่นตะโกน

กองทัพเผ่านอกด่านก็ตะโกนว่า “ฆ่าลั่วชิงยวน! ตีเมืองผิงหนิง!”

หากวันนี้คนเหล่านี้หนีรอดไปได้สักคนหนึ่ง ลั่วชิงยวนก็จะมิสามารถกลับไปที่เผ่านอกด่านในฐานะหยวนหนิงได้อีกต่อไป

ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วด้วยความกังวล

แต่ทันใดนั้นลั่วชิงยวนก็กระโดดขึ้นไปที่สูง แล้วหยิบของบางอย่างออกมา

“คำสั่งของราชาเผ่านอกด่าน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย