”เจ้ารักษาหน้าข้าหน่อยไม่ได้หรือไร? แค่นี้เจ้ายังทำข้าอับอายไม่พออีกรึ?”
น้ำเสียงตำหนินั้นเป็นเหมือนดั่งมีดแหลมคมที่บาดลึกเข้าไปในหัวใจของลั่วชิงยวน
แม้ว่านางจะชินชาแล้วกับเรื่องนี้ แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกไม่ดี ตอนนี้เหมือนว่านางได้กลายเป็นลั่วชิงยวนอย่างสมบูรณ์ และรับรู้ได้ถึงอารมณ์และความเจ็บปวดทั้งหมดของร่างลั่วชิงยวน
แต่นางก็โศกเศร้าอยู่เพียงชั่วขณะเท่านั้น
สิ่งที่ลั่วไห่ผิงสนใจก็มีแค่ว่า ตัวตนของนางนั้นจะทำให้เขาต้องขายหน้า ในเมื่อนางเป็นบุตรสาวที่ตัดทิ้งไปแล้ว ไยนางเองต้องมีเยื่อใยอยู่ด้วยเล่า
ยิ่งไปกว่านั้นลั่วไห่ผิงก็มีท่าทีเปลี่ยวเหงา และเขาเองก็ไม่มีญาติสนิทเลยเหมือนกัน
ลั่วไห่ผิงจากไปแล้ว
เมื่อมองแผ่นหลังที่อ้างว้างของเขา ลั่วชิงยวนก็หันกลับมาและมองไปยังจวนมหาราชครูที่ยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม
ประกายเย็นเยียบฉายแวบผ่านดวงตาของนาง
นางจะต้องมาร่วมงานฉลองวันเกิดให้ได้
นางแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าเหนือจวนมหาราชครู มันมีบรรยากาศที่อึมครึมอยู่จริง ๆ แต่ก็ไม่มากนัก นางไม่ได้เห็นสิ่งอื่นใดอีก
ก่อนอื่นต้องลองเดินสำรวจรอบ ๆ จวนดูเสียก่อน
“แม่นมเติ้ง ออกไปลองถามคนแถวนี้มาซิว่า ช่วงนี้ในจวนมหาราชครูมีเหตุประหลาดอันใดบ้าง”
“เจ้าค่ะ”
หลังจากที่แม่นมเติ้งเดินจากไป ลั่วชิงยวนก็เดินไปข้างหน้าพร้อมมีเข็มทิศอยู่ในแขนเสื้อ
เมื่อเดินไปถึงประตูหลังของจวนมหาราชครู นางก็บังเอิญได้เห็นคนรับใช้กลุ่มหนึ่งช่วยกันขนกล่องไม้สีดำหลายกล่องออกมาทางประตูหลัง กล่องพวกนี้ล้วนมีอักขระกำกับไว้
มีตราประทับเขียนว่าหลิงหยวนถัง
นั่นคือร้านขายโลงศพ
จากนั้นลั่วหรงก็ปรากฏตัวที่ประตูด้านหลัง “ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็เริ่มครุ่นคิดอย่างจริงจัง
“พระชายา ในจวนมหาราชครูจะต้องมีเรื่องมากมายแน่ เหตุใดท่านไม่แสดงพลังพิเศษของท่านเล่าเจ้าคะ? หากว่าแก้ไขปัญหาให้พวกเขาได้ ยังจะมีใครกล้ามิให้พระชายามาร่วมงานฉลองวันเกิดของท่านมหาราชครูกัน?”
แม่นมเติ้งคิดว่า ปัญหาที่เกิดในจวนมหาราชครูต้องใหญ่กว่าที่ลั่วชิงยวนเคยจัดการมา หากว่าพระชายาสามารถแก้ปัญหาครั้งนี้ได้ นางย่อมเป็นแขกคนสำคัญของจวนมหาราชครู แล้วถึงตอนนั้นจะมีผู้ใดหน้าไหนกล้าดูถูกพระชายาอีกเล่า?
แม้แต่อัครเสนาบดีลั่วก็มิอาจมาดูถูกได้
ลั่วชิงยวนส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “ข้าเกรงว่าปัญหามันจะแก้ไขไม่ง่ายเช่นนั้นสิ หากว่าข้าบุ่มบ่ามกระทำอันใดลงไป พวกเขาอาจไม่ให้ข้าเข้าไปแล้วก็เห็นข้าเป็นพวกโกหกหลอกลวงก็ได้”
บิดาของนางไปหาพวกเขาพร้อมกับนักพรตเต๋ามาแล้ว แต่ผลเป็นเช่นไรก็เห็นกันอยู่
ในสายตาของจวนมหาราชครู เป้าหมายของนางเองก็ไม่ต่างจากลั่วไห่ผิงเท่าไรนัก
“หากว่าเจ้าอยากจะแก้ปัญหา เจ้าก็ต้องหาให้ได้ก่อนว่า มันเกิดอันใดขึ้นในจวนพวกเขากันแน่” ลั่วชิงยวนมองด้วยสายตามีความหมาย ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วจากไป
แม่นมเติ้งรีบเดินตามนางไป “พระชายา ท่านจะไปไหนต่อหรือเจ้าคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย
อ่านมาสามร้อยกว่าตอน ยอมรับว่านางเอกเป็นคนเก่ง เก่งแต่ทำเรื่องโง่ๆ โง่จนอ่านไปเจ็บอกไป โมโหจนจะเป็นลม ทำเพื่อผู้ชายแบบอิอ๋องไม่รู้กี่รอบ อีกกี่ตอนนางเอกถึงจะฉลาด...
หายไปไหน ไม่อัพหลายวันแล้ว ติดอยู่ตอนที่ 1386 รออ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้น๊า...
รู้ว่ารวยแย่เองก่อความวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น ทำไมไม่วางยาให้เป็นใบ้ บางบทก็ฉลาดเกินบทจะโง่ก็สุดจริง...
อาจารย์ก็ถูก รั่วให้เพียงใช้ประโยชน์ ตัวเองก็ถูกสู้เชิงหัวใจประโยชน์ เกือบตายหลายครั้ง แต่ก็ไม่ไปไหนสักที คอนจบรักกันดูดดื่มแน่นอนสินะ 5555...
มือสังหารในวังอ๋องก็องค์ชายห้าแหละ เดาตั้งแต่หมอกู้พูดว่า ไปหมดแล้วท่านเลิกแสดวได้แล้ว 555...
องค์ชายห้าตั้งใจ นางเอกก็รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งเข้าใกล้องค์ชายห้ายิ่งมีเรื่องแต่ก็ไม่เลิก55555...
ยังรออ่านนะคะ...
นางเอกปลอมตัวเป็นผู้ชายทำไมถ้านิสัยยังเหมือนเดิม...
ผัวอย่างเลว้าย แต่นางเอกก็คงรักผัวขั้นสุด เกือบทิ้งชีสิตหลายครั้งเพราะช่วยผัว ในขณะที่ผัวก็พยายามฆ่าตัวเองตลอด กู่คงเป็นเพียงข้อองมากกว่า 5555...
เกิดอะไรขึ้นคะ ไม่เขียนต่อแล้วเหรอ...